THIS IS MARKETING สร้างแบรนด์ให้ยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเอาใจทุกคน

สรุปหนังสือ This is Marketing ของ Seth Godin เล่มนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งคัมภีร์สำคัญที่นักการตลาดทุกคนควรได้อ่าน และควรต้องมีติดบ้านหรือติดโต๊ะทำงานไว้ครับ เพราะการตลาดหรือการสร้างแบรนด์ที่เคยถูกสอนกันมาว่าทั้งยุ่งยากและซับซ้อน เต็มไปด้วยคำศัพท์มากมาย แต่แท้จริงแล้วหัวใจของมันกลับเรียบง่ายมาก เมื่อได้ผู้ที่มีประสบการณ์ระดับโลกอย่าง Seth Godin มาเล่าให้ฟังแบบชัดๆ ว่า ไอ้ที่เรียกกันว่าการตลาดหรือ Marketing หรือ Branding น่ะ แท้จริงแล้วมันแค่นี้เอง แต่แค่นี้ของเขาก็ไม่ได้หมายความว่าอ่านจบแล้วทำตามนี้จะรอดกันได้ทุกแบรนด์ไป เพราะหัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้มีอยู่แค่เรื่องเดียว นั่นก็คือ… แบรนด์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเอาใจทุกคนครับ จากประสบการณ์ตรงที่ผมเคยดูแลมาหลายแบรนด์ก็พบเหมือนที่ Seth…

Digital Darwinism ปรับธุรกิจให้รอดในยุคดิจิทัล

“นวัตกรรมไม่ใช่สิ่งที่เข้ามาทำให้เราเปลี่ยน สิ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนคือการที่ผู้บริโภครับเอานวัตกรรมนั้นมาใช้ต่างหาก” ประโยคนี้มาจาก Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon ที่บอกให้เรารู้ว่า Digital ในวันนี้ไม่ใช่แค่ Tools หรือ Technology แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเราทุกคนไปถึงพื้นฐานทั้งหมดแล้ว และนั่นก็ย่อมส่งผลต่อธุรกิจทั้งหมดที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนด้วย นี่คือใจความสำคัญของ สรุปหนังสือ Digital Darwinism ปรับธุรกิจให้รอดในยุคดิจิทัล ปัญหาคือธุรกิจส่วนใหญ่ในวันนี้ยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่รากฐาน ยกตัวอย่างง่ายๆ จากการเข้าเช็คอินที่โรงแรม ที่เราอาจไม่รู้ว่าวิธีการเช็คอินเพื่อเข้าพักที่โรงแรมนั้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 150 ปีก่อนเลย ลูกค้า พนักงาน โต๊ะกั้น และข้อมูล…

Homo Deus ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้

Homo Deus เล่มนี้เป็นหนังสือในชุด 3 เล่มที่โด่งดังซึ่งประกอบด้วย Sapiens ประวัติย่อมนุษยชาติ และ 21 Lessons for the 21st Century 21 บทเรียนสำหรับศตวรรษที่ 21 ที่เขียนโดย Yuval Noah Harari แน่นอนว่าหนังสือทั้ง 3 เล่มนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมากสำหรับนักอ่าน และต่อให้คนที่ไม่ใช่นักอ่านก็ยังต้องเคยได้ยินถึงหนังสือหนึ่งในสามเล่มนี้บ้างไม่มากก็น้อย หนังสือ Homo Deus เล่มนี้เหมือนผู้เขียนตั้งใจให้เห็นภาพอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับมนุษยชาติในศตวรรษที่ 21…

25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย – เงินติดล้อ

สรุปหนังสือ 25 วิธีคิดให้ชีวิตชิบหาย หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดจากเงินติดล้อที่มาแปลกกว่าแคมเปญการตลาดทั่วไป เพราะนอกจากจะทำออกมาเป็นหนังสือที่ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้ว่าเงินติดล้อเป็นคนทำ แถมที่สำคัญกว่าจะมารู้ว่าเงินติดล้อเป็นคนทำหนังสือเล่มนี้ออกมาก็ปาไปตอนจบแล้ว ถ้าเปรียบหนังสือเล่มนี้เป็นหนังโฆษณาก็ประหนึ่งหนังไวรัลที่เอาแต่ให้คนดูโดยที่ไม่คิดจะขายของอะไรเลย แล้วค่อยมีโลโก้ทิ้งท้ายบางๆ ที่บอกว่าเราตั้งใจทำโฆษณาชิ้นนี้มาด้วยความหวังดี เหมือนที่หนังสือเล่มนี้ที่เงินติดล้อตั้งใจทำมาเพื่อเรียกสติคนยุคใหม่ที่ใช้เงินเร็วเหมือน Wifi ครับ เช่น บทที่ 6 ที่ว่าด้วยเรื่อง SALE ตัวหนังสือสี่ตัวที่เราเฝ้ารอ เนื้อหาออกไปทางแนวเสียดสีกระแทกกระทั้น หรือถ้าพูดให้จริงขึ้นอีกนิดก็คือแดกดันกันเอาให้ถึงตาย เนื้อหาในบทที่ 6 ที่ว่าด้วยเรื่อง SALE นี้บอกว่า “โลกนี้น่าอยู่เพราะมีของเซล จะลดกระหน่ำ ลดเที่ยงคืน ลดกลางปี ลดปลายปี…

แค่เริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่พ่ายแพ้ หนุ่มเมืองจันท์

ในฐานะที่ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของคุณหนุ่มเมืองจันท์มากว่า 30 เล่มแล้ว บอกตรงๆว่าผมดีใจมากที่ผมได้เห็นหนังสือเล่มใหม่ของคุณหนุ่มเมืองจันท์ในงานหนังสือเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา บอกตรงๆ อีกครั้งว่าเห็นหน้าปกทีแรกก็มองผ่าน เพราะคิดว่าไม่น่าสนใจ เดาว่าน่าจะเป็นหนังสือวิ่งที่ซิ่งออกมาตามกระแสการวิ่งอีกเล่มหนึ่ง แต่มีคนเอามาสะกิดให้ดูถึงรู้ว่านี่มันฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มใหม่ของคุณหนุ่มเมืองจันท์นี่หว่า! และผมก็ไม่พลาดที่จะคว้าหนังสือเล่มนี้ติดมือมา แค่เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่พ่ายแพ้ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ เล่มที่ 31 มาสรุปให้ฟังกันครับ แค่เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่พ่ายแพ้เล่มนี้ พูดถึงหลายคนดังระดับโลกที่เคยไม่ชนะ แต่ก็ยังพยายามสู้ต่อจนสามารถกลับมาชนะได้อีกครั้ง หรือถ้าไม่ชนะเกมเดิม ก็อาจเป็นการเล่นเกมใหม่ หรือแม้แต่สร้างเกมใหม่ของตัวเองขึ้นมาจนทำให้กลายเป็นความได้เปรียบที่คนอื่นต้องมาอยู่ภายใต้กติกาของเกมที่ตัวเองสร้างขึ้นครับ อย่างไทเกอร์ วู้ดส์ ที่จากร่างกายทรุดโทรมอย่างหนักแต่ก็ยังสามารถดิ้นรนจนกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง และการกลับมาฝึกซ้อมจนสามารถกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งของไทเกอร์ วู้ดส์ ก็ไม่ได้มาจากความต้องการกลับมามีชื่อเสียงหรือเงินทอง แต่เกิดจากความต้องการที่จะคว้าแชมป์ให้ลูกเห็นเท่านั้นเอง…

Business as Unusual สร้างความสำเร็จที่แตกต่าง ภายใต้โลกที่รอการเติมเต็ม

สรุปหนังสือ Business as Unusual เล่มนี้ถ้าให้สรุปสั้นๆ ก็คือแนวทางการสร้างแบรนด์ ในยุค 5.0 ในวันที่สินค้าหรือบริการแทบไม่เหลืออะไรให้ต่าง จนต้องใช้ความดีของการทำธุรกิจจากแต่ละแบรนด์มาเป็นเกณฑ์ใหม่ในการสร้างความต่างขึ้นมา ดังนั้นถ้าธุรกิจคุณใหญ่โตไปจนถึงขึ้นสุด แบบว่าไม่รู้ว่าจะ Growth ไปทางไหนต่อ หนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นแสงสว่างให้คุณเห็นทางออกว่าจะโตไปต่อได้อย่างไร ขอเกริ่นก่อนเข้าสรุป หนังสือเล่มนี้ผมได้รับจากสำนักพิมพ์อัมรินทร์ในวันที่ได้ไปร่วมงานสัมมนา World Marketing Summit 2019 ที่ผ่านมา ที่มีปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกอย่าง Philip Kotler มาพูดด้วย (โคตรตื่นเต้นตอนที่ได้เจอตัวจริงเสียงจริง) โดยทางสำนักพิมพ์อัมรินทร์ใจดีมากที่ได้ให้บัตรเข้าร่วมงานผมมาหนึ่งใบ แถมยังให้หนังสือดีๆ ผมมาอ่านอีก…

The Happiness Manual พฤติกรรมความสุข

หนังสือ The Happiness Manual หรือ พฤติกรรมความสุขเล่มนี้บอกให้รู้ว่า แท้จริงแล้วความสุขของคนเรานั้นไม่ได้ยุ่งยาก ลำบาก หรือมีราคาแพงแต่อย่างไร และที่คุณณัฐวุฒิ เผ่าทวี พูดไปก็ไม่ได้คิดเองเออเองแบบโค้ชไลฟ์มากมาย แต่มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นการทดลองแบบวิทยาศาสตร์มายืนยันว่าความสุขแบบวิทยาศาสตร์นั้นเป็นอย่างไร แต่จะบอกว่าเป็นวิทยาศาสตร์ก็ไม่ถูกนัก เพราะหนังสือเล่มนี้ออกไปทางเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม จิตวิทยา และการทดลองทางด้านสังคมวิทยาควบคู่กันไป เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากรู้จักความสุขในแบบวิทยาศาสตร์ ผมแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยครับ เพราะคุณจะได้รู้ว่าความสุขหรือความทุกข์ของเรานั้นเกิดจากความคิดเปรียบเทียบของตัวเราเองเป็นหลัก เพราะมีการทดลองหนึ่งที่พบว่า คนยอมได้เงินเดือนที่มีตัวเลขน้อยลงแต่สูงกว่าคนรอบตัวทั้งหมด ดีกว่าได้เงินเดือนเยอะขึ้นแต่น้อยกว่าคนรอบตัวทั้งหมด ดังนั้น การที่บริษัทไม่ยอมบอกเงินเดือนของพนักงานแต่ละคนให้ทุกคนได้รู้ถ้วนหน้า ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับเราทุกคนแล้ว หรือปัญหาบางอย่างถ้าใช้เหตุผลก็แก้ง่ายมาก แต่พอใช้อารมณ์เป็นตัวนำในการตัดสินใจก็ทำให้ยากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างปัญหาที่มีชื่อว่า The…

ทุกพฤติกรรมมีความเสี่ยง โปรดอย่าลำเอียงก่อนตัดสินใจ

สรุปหนังสือ A Guide to Behaving Better หรือ ทุกพฤติกรรมมีความเสี่ยง โปรดอย่าลำเอียงก่อนตัดสินใจ เล่มนี้ เป็นหนังสือที่เล่าเรื่อง Behavioral Economics หรือเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมได้เข้าใจง่าย ที่มีส่วนผสมของจิตวิทยา หรือ Psychology เข้ามาผสม ในรูปแบบทความสั้นๆไม่กี่หน้าก็อ่านจบ ดังนั้นถ้าใครกำลังมองหาซักเล่มเพื่อจะเริ่มเรียนรู้เรื่องนี้ หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งเล่มที่ผมกล้าแนะนำครับ และขนาดผมเองอ่านหนังสือแนวนี้มาไม่น้อย แต่ยังได้พบกับเนื้อหาใหม่ๆที่ยังไม่เคยอ่านเจอที่ไหนมาก่อนในเล่มนี้ไม่น้อยเหมือนกัน อย่างเรื่อง ทำไมข่าวเทียมถึงฆ่าไม่ตาย ปัญหา Fake News ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่คนรุ่นใหม่ทั่วโลกให้ความสนใจ แต่ปัญหาเรื่อง…

The Little Book of Ikigai อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่

ถ้าให้สรุปสั้นๆกับหนังสือ The Little Book of Ikigai เล่มนี้ผมก็สรุปได้ว่า การได้ทำคือรางวัลในตัวมันเอง เพราะภาพรวมของทั้งเล่มคือการบอกให้เราเข้าใจว่า แก่นของอิคิไกนั้นคือการที่บอกให้เรารู้ว่าอย่าคาดหวังรางวัลจากการกระทำนั้น เพราะนั่นคือบ่อเกิดของความทุกข์ทั้งปวง เหมือนกับหลายครั้งเรามักจะได้ยินคนพูดกันว่า ทำไปทำไม? หรือ ทำไปเพื่ออะไร? บอกให้รู้ว่ามนุษย์เรานั้นถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย แต่อิคิไกคือให้เรากลายเป็นเป้าหมายของตัวเราเอง นั่นคือไม่ต้องทำไปเพื่ออะไร หรือทำไปทำไม ทำแล้วจะได้อะไรกลับมา เอาแค่ให้ได้ทำ และทำให้ดีที่สุด ทำอย่างมีความสุข แค่นี้ก็อิคิไกแล้ว นี่คือสรุปอย่างย่อที่ผมจะมอบให้หนังสือเล่มนี้ แต่สำหรับคนที่ยังพอมีเวลาอ่านสรุปกับผมต่ออีกหน่อย ไม่รีบไปไหน ผมก็มีสรุปหนังสือเล่มนี้แบบเต็มๆให้คุณได้อ่านกัน เอาเป็นแค่ต่อให้เขียนไปแล้วไม่มีใครอ่านก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ผมได้เขียนให้ตัวเองได้อ่านอีกครั้งเมื่อ…

5 เครื่องมือสำคัญในการบริหารร้านให้ประสบความสำเร็จ

สรุปหนังสือ 5 เครื่องมือสำคัญในการบริหารร้านให้ประสบความสำเร็จ ที่ว่าด้วยการจัดการร้านอาหารเล่มนี้ เมื่ออ่านจบผมพบว่าต่อให้ไม่ใช่เจ้าของร้านอาหาร หรือไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารโดยตรงก็ควรอ่าน เพราะหนังสือเล่มนี้สอนวิธีการบริหารจัดการปัญหาเฉพาะหน้าให้กับร้านค้าต่างๆเอาไปประยุกต์ใช้ในแบบของตัวเองได้ ตั้งแต่การดูต้นทุนให้ออก การรับมือกำลูกน้องที่คุมยาก หรือการทำให้ทีมจากที่ชอบทะเลาะกันหันมาจับมือสามัคคีกัน ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับทุกคนที่ผมมั่นใจว่าไม่ว่าใครอ่านก็ต้องสนุกและเข้าใจตามได้ไม่ยาก ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้เล่าด้วยภาพ หรือเป็นการ์ตูนครับ ดังนั้นยิ่งอ่านไปก็ยิ่งสนุก และเนื้อหาแต่ละตอนก็สั้นๆไม่ยืดยาวย้วยแต่อย่างไร เริ่มต้นที่ปัญหาของร้านอาหารซักแห่งหนึ่ง จากนั้นพระเอกที่ชื่อว่า มาสะ ก็จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาของแต่ละร้านอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ จนสามารถทำให้ปัญหานั้นทุเลาด้วยดีได้ในที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งทุกเคสเสมอไป ก็จะมีบางเคสที่เจ้าของร้านหรือผู้จัดการดื้อแพ่งไม่ยอมทำตาม สุดท้ายก็ต้องปิดกิจการปิดร้านของตัวเองไปในที่สุดครับ ผมขอหยิบเนื้อหาบางส่วนในเล่มมาสรุปให้ฟังกัน โดยเป็นปัญหาที่ไม่ต้องเป็นร้านอาหารก็พบเจอได้ทั่วไปแม้แต่ในออฟฟิศสำนักงานก็ตามครับ อย่างการทะเลาะเบาะแว้งกันของพนักงานในบางครั้งก็อาจมาจากการไม่แบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน เหมือนร้านอาหารหนึ่งในเล่าที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสามีภรรยา ที่ไม่ยอมแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ขาด ทำให้เกิดปัญหาการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ จนถึงขั้นเหน็บแนมและด่ากันให้ลูกค้าคนนอกได้ยิ่งในที่สุด…