เท่าที่รู้

เท่าที่รู้ หนังสือเล่มนี้ ถ้าคุณอยู่ในช่วงชีวิตเลข 2 นำหน้า ผมจะแนะนำให้คุณอ่านก็เพราะว่าคุณจะได้นั่งไทม์แมชชีนไปเรียนรู้บทเรียนในชีวิตที่กำลังจะเจอ ผ่านทุกบททุกตอนในหนังสือเล่มนี้ ส่วนถ้าคุณเข้าช่วงชีวิตเลข 3 เลขเดียวกับผม ผมก็จะแนะนำหนังสือนี้ให้ในฐานะ “เครื่องเตือนใจ” หลายเรื่องหลายบทที่เรามักรู้อยู่แก่ใจ แต่เรามักหลงลืมไปเป็นประจำ มีคนเคยบอกว่า คนโง่ไม่เรียนรู้อะไรเลย ส่วนคนทั่วไปเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง และคนฉลาดนั้นเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น ยอมรับว่าหลายครั้งเรามักลำพองหยิ่งผยองอยากเรียนรู้ที่จะล้มด้วยตัวเอง แต่หลายครั้งเราก็สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นได้โดยไม่ต้องล้มทุกเรื่องไป คุณบอล นักเขียนจากเพจสู่เล่มที่ได้ตีพิมพ์ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต ประสบการณ์ มุมมอง ที่ฉลาดในการหยิบยกบางอย่างมาเปรียบเทียบ ที่ไม่ว่าใครก็เข้าใจได้ แถมอ่านเพลิน อ่านแปบเดียวหมดชั่วโมงจบเล่ม จนอยากจะแหวกหาหน้าลับที่ซ่อนอยู่เพราะไม่อยากให้จบด้วยซ้ำ…

เรื่องที่ Google ไม่มีคำตอบให้เรา

โดย ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ อ่านมาซักพักเลยรู้ว่าคนเขียนเป็นคนทำงานโฆษณาเหมือนกัน เป็นคนที่ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ตัวเองได้ออกมาอร่อยและน่าสนใจดี หลายตอนในเล่มก็สามารถเขียนสรุปใจความจนออกมาเป็น Quote คำคมดีๆสะกิดใจคนอ่านได้ไม่น้อย เช่น.. ..กูเกิลมีแทบทุกอย่างที่เราต้องการค้นหา เราจะพบในสิ่งที่คนอื่นหาไว้แล้วมากมาย แต่บทเรียนในชีวิตของเรานั้นเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถหาคำตอบในกูเกิล.. หรือ.. ..สิ่งที่เราเห็นในโซเชียลมีเดียก็เป็นแบบนั้น มันคือการตัดตอนความจริงมาไว้ในบริบทหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมดของความจริง ซึ่งเมื่อตัดเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งมาก็ทำให้เราไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด เหมือนกรอบรูปที่บังคับการมองเห็นของเราว่ามองเห็นได้แค่ภายในกรอบ.. และ ในตอนที่พูดถึงเจ้าตัวได้ไปงานแต่งแล้วเห็นพรีเซ็นเทชั่นงานแต่งงานมามากมาย เธอก็เขียนประโยคนึงที่น่าสนใจมาว่า.. ..พรีเซ็นเทชั่นงานแต่งงานมักจะให้เราเห็นภาพว่าคนทั้งคู่ “พบกัน” ได้อย่างไร มากกว่าจะบอกเราว่าคนทั้งคู่ “คบกัน” อย่างไรจึงรอดมาถึงวันนี้ได้ เนี่ยแหละครับคือมุมมองของนักเขียนคนนี้ที่ผมชอบ ทำให้ผมรู้สึกคิดผิดจริงๆที่ไม่ยอมซื้อมาอ่านตั้งนาน ต้องรอจนกว่าค่าย…

เปิดเทอมใหญ่วัยทำงาน

โดย โอมศิริ วีระกุล คนเดียวกับที่เขียน สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก นั่นแหละครับ เหมือนกันครับหนึ่งในนักเขียนคนไทยที่พอบังเอิญได้อ่านเล่มแรกแบบไม่ตั้งใจก็ฝากตัวเป็น FC ชั้นดีรอวันแล้ววันเล่าว่าเมื่อไหร่จะออกเล่มใหม่ แล้วก็นี่ครับ..มาอยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้ว เหมือนเช่นเคยครับ ผู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์ตรงจากตัวเองและคนรอบข้างมาให้เราฟัง บางเรื่องก็รู้อยู่แล้ว บางเรื่องก็ไม่เคยรู้ และบางมุมก็ไม่เคยคิดครับ ในเล่มนี้แบ่งออกเป็น 23 บทอ่านง่ายๆ ผมว่าถ้าคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือแล้วอยากหาหนังสือซักเล่มอ่าน ผมว่าเล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีโดยเฉพาะคนทำงานอย่างเราๆ งั้นผมขอสรุปเป็นเรื่องๆที่น่าสนใจจากในเล่มไว้ให้ตัวผมเองเมื่อเปิด timehop เห็นปีหน้าจะได้อ่านทวนความคิดตัวเองอีกครั้งนึง 1. อย่าอ้อยอิ่งใช้เวลากับงานมากเกินไป พยายามสร้าง deadline ขึ้นมากับทุกงาน ถ้างานเดียวกันถ้าคนนึงสามารถจัดการได้จบใน 8…