Travel

การเดินทางของ มาร์โค โปโล The Travels of Marco Polo

อ่านหนังสือพันเล่ม หรือจะสู้เดินทางหนึ่งลี้ แต่การเดินทางหมื่นลี้ อาจเริ่มต้นจากหนังสือดีๆหนึ่งเล่ม เหมือนที่ผมได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ The Travels of Marco Polo หรือบันทุกการเดินทางของมาร์โค โปโล ผู้โด่งดัง มาร์โค โปโล ที่หลายคนคุ้นหูและพอรู้เรื่องราวพอสังเขปว่า เป็นชายในยุคศตวรรษที่ 13 ที่เดินทางจากยุโรปไปสู่เมืองจีนเป็นคนแรกของโลก ด้วยการเดินทางมากกว่า 20 ได้พบเจอเรื่องราวมากมายจนพอกลับมาเล่าให้คนยุโรปฟังในวันนั้น กลับถูกหาว่าเพ้อฝันและไม่มีใครยอมรับ เรื่องราวการเดินทางของมาร์โค โปโล เพิ่งถูกพิสูจน์เมื่อไม่กี่ศตวรรษที่ 19 ไม่นานมากนี้เอง ว่าบันทึกการเดินทางที่แสนเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะพบเจอชนเผ่าร่างยักษ์…

Futuration เปลี่ยนปัจจุบันทันอนาคต

หนังสือเล่มนี้สรุปภาพอนาคตจากสิ่งที่เป็นในวันนี้ บวกกับการคาดการณ์จากความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้เขียน ดร. สันติธาร เสถียรไทย ชายผู้ใช้คำว่า “อิจฉริยะ” ก็น่าจะน้อยไป แต่ขอโทษด้วยเพราะผมไม่สามารถหาคำไหนที่ดีกว่านี้ได้ในตอนนี้ ถ้าใครสนใจใคร่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้จะเกิดอะไรขึ้น ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ และถ้าใครสนใจว่าอนาคตที่ไกลออกไปจะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น รวมถึงจะมีอะไรบ้างที่จะดับสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่หลักธรรมของพุทธ แต่เป็นสัจธรรมของจักรวาล ขนาดดาวฤกษ์ดวงใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ยังดับสูญสลายหายไปเป็นหลุมดำได้ นับประสาอะไรกับเศษเสี้ยวฝุ่นธุลีเล็กๆเช่นมนุษย์เรา ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ ขอผมเล่าให้คุณฟังหน่อยว่า ดร. สันติธาร เสถียรไทย คนนี้เป็นใคร ทำไมเค้าถึงคาดการณ์อนาคตได้น่าสนใจขนาดนั้นครับ…

บันทึกการเดินทางในโลกกาแฟ

ในฐานะคนที่กินกาแฟเข้าปากอยู่ทุกวัน แต่กับเรื่องกาแฟนั้นกลับไม่ค่อยมีความรู้อะไรเลย หนังสือเล่มนี้เลยเหมือนเติมคาเฟอีนเรื่องกาแฟให้สมองผม เผื่อคราวหน้าที่มีใครถามเรื่องกาแฟจะได้พอมีอะไรไปโม้เขาได้บ้าง ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้เลยว่า กาแฟชั้นเยี่ยมที่อิตาลีนั้น เมล็ดส่วนใหญ่กลับมาจากอินเดีย อินเดียเป็นหนึ่งในชาติที่ส่งออกเมล็ดกาแฟเป็นลำดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะส่งออกไปยังอิตาลี ดินแดนต้นตำรับเอสเพรสโซ่ของโลก ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านกาแฟที่อิตาลีนั้น ถ้ายืนกินที่บาร์จะถูกกว่านั่งกินที่โต๊ะถึงเกือบเท่าตัว และที่นั่นมีร้านกาแฟเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 200 ปี ที่ชื่อ Cova Pasticceria ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1817 รู้แบบนี้อยากลองบินไปดื่มซักช็อตเลยครับ แต่ก็ยังไม่สุดเพราะมีร้านกาแฟที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่ที่เมืองเวนิส ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ชื่อ Caffe Florian ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1720…

บันทึกการเดินทางของ อ็องรี มูโอต์

เป็นหนังสือเรื่องเล่าจากบันทึกนักเดินทางชาวฝรั่งเศษผู้มาสำรวจเมืองสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่นๆ เมื่อกว่า 160 ปีก่อน เป็นหนังสือที่อ่านสนุกกว่าที่คิดแม้หน้าปกจะดูคร่ำครึชวนเบื่อ แต่เรื่องราวการเดินทางของเค้ากลับสนุกแปลกใหม่เปิดมุมมองที่ไม่เคยคิด และเรื่องราวของเมืองไทยและเพื่อนบ้านไกล้ตัวที่ไม่เคยรู้มากมาย.. ..อ็องรี มูโอต์ กล่าวถึงคนสยามตามมุมมองคนนอกอย่างตรงไปตรงมาว่าประมาณว่า “ชาวสยามดูเป็นคนซื่อๆ โหนกแก้มสูง แลดูเกรียจคร้านไม่ใส่ใจการงาน แค่หุงข้าวกินหนึ่งถ้วยกับเครื่องชูรสเล็กน้อยก็สามารถนอนหรือเล่นสนุกมีความสุขได้ทั้งวัน” นี่คือคนไทยในสายตาฝรั่งเมื่อกว่า 160 ปีก่อน แต่เค้าก็พูดถึงข้อดีของคนสยามสมัยนั้นว่า “แลดูเป็นคนใจดีมีน้ำใจ รักญาติมิตรพี่น้อง เวลามีปัญหาอะไรกันก็จะร่วมกันรวมหัวแก้ไขให้ลุล่วงไปด้วยดี หรืออย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบาร่วมกันให้ผ่านพ้นไปได้” พอนึกถึงปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าลักษณะนี้ในสังคมไทยยังเหลือมากน้อยแค่ไหนกัน.. ..อ็องรี มูโอต์ นักเดินทางผู้นี้โด่งดังจากการเป็นผู้เปิดเผยความงามของนครวัด นครธม…

ไม่มีอะไรในเกาหลีเหนือ

เพิ่งอ่านมหัศจรรย์เกาหลีใต้จบเมื่อวานก็เลยนึกขึ้นได้ว่ายังเหลือหนังสือเกาหลีอีกเล่มที่ดองไว้นานแล้วนี่นา และหนังสือเกาหลีอีกเล่มที่ว่าก็คือ “เกาหลีเหนือ” เล่มนี้ที่ได้มาตั้งแต่ตอนงานหนังสือเมื่อต้นปี 2018 นี่แหละครับ เกาหลีเหนือประเทศที่หลายคนคุ้นหูดีผ่านสื่อต่างๆที่คอยฉายภาพว่ามีผู้นำเผด็จการที่แสนบ้าคลั่ง ดูเผินๆเหมือนเป็นประเทศที่แสนจะโหดร้าย เป็นประเทศปิดที่มอมเมาผู้คนทั้งหลายให้หลงไหลในตัวผู้นำ ประเทศที่มักถูกฉายภาพอีกว่าผู้คนนั้นอดอยาก คนส่วนใหญ่ไม่มีความสุข แถมยังล้าหลังสุดๆเสมือนหยุดประเทศไว้เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว จนอาจเผลอคิดได้ว่าถ้าอยากย้อนเวลาไปดูโลกเมื่อซัก 40-50 ปีที่แล้วให้ลองไปดูที่เกาหลีเหนือก็ได้มั้ง แต่นั่นแหละครับ สิ่งที่เรามักคิดว่ารู้ดีแท้จริงแล้วเรากลับไม่รู้อะไรเลยก็ได้ ครั้งหนึ่งผมเคยดูสารคดีเกาหลีเหนือทาง Netflix กลับพบอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจว่า ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องวิ่งให้ทันโลก เราไม่จำเป็นต้องเปิดรับอะไรมากมาย สำคัญคือเรามีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นมั้ย ในเมื่อผู้คนในเกาหลีเหนือผ่านภาพฉายของสารคดีเหล่านั้นก็แลดูมีความสุขตามอัตภาพดี ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าประเทศที่เจริญกว่าทั้งหลายในโลกแต่กลับป่วยใข้ทางจิต เต็มไปด้วยโรคซึมเศร้าทุกวันนี้ แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่ล้าหลังกว่ากัน ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนระบอบราชาธิปไตย หรือเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จที่มีผู้ปกครองเป็นสมมติเทพแบบเกาหลีเหนือหรอกนะครับ เพราะผมก็ยังพยายามหาความสุขตามอัตภาพจากหนังสือที่ผมมี…