The Shortest History of Europe ประวัติศาสตร์ยุโรปฉบับสุดสั้น

สรุปหนังสือ ประวัติศาสตร์ยุโรปฉบับสุดสั้น The Shortest History of Europe หนังสือที่เล่าสรุปเรื่องราวยุโรปให้เราได้เข้าใจภาพรวมแบบง่ายๆ ในหนังสือเล่มเล็กพอดีมือ อ่านแล้วก็ได้เกร็ดความรู้ใหม่ๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่ระบบ Feudal ฟิวนัล การที่กษัตริย์มอบที่ดินให้นักรบหรือขุนนางทั้งหลายเอาไปบริหารจัดการทำกิน โดยแลกกับการต้องส่งกำลังคนหรือกองกำลังทหารให้กษัตริย์เอาไว้ปกป้องดินแดน และเมื่อส่งกองกำลังทหารให้กษัตริย์ไปก็มาถึงการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน แต่ความต่างคือปัจจุบันทหารนั้นดูแข็งขันสง่างาม แต่ในอดีตกาลโบราณนั้นกองกำลังทหารที่ถูกส่งมาให้มักไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ เพราะไม่มีกฏข้อบังคับว่าต้องส่งคนแบบไหนอย่างไรมา ขอแค่เป็นผู้ชายในจำนวนเท่าที่กำหนดไว้พอ จึงมักส่งคนที่ไม่แข็งแรงมาให้ ส่วนผู้ชายที่ดูแข็งแรงรบได้จริงๆ ก็จะถูกเก็บไว้กับขุนนางหรือนักรบเจ้าของที่ดินนั้น เอาไว้ใช้เป็นแรงงานและปกป้องที่ดินตัวเองแทน พูดถึงเรื่องกษัตริย์ยุโรปในสมัยโบราณ ก็เพิ่งรู้ว่าชาวเยอรมันในเวลานั้นเขาไม่ใช้การสืบทอดตำแหน่งกษัตริย์ทางสายเลือด แต่ใช้การโหวตเลือกกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนเหยาะแยะไม่ได้เรื่องขึ้นมาเป็นผู้นำของพวกเขา แนวคิดนี้จึงสืบทอดต่อมายังสมัยเยอรมันยึดครองโรมันในสมัยนั้น…

เทคโนโยนี The Technology of Orgasm: “Hysteria,” the Vibrator and Women’s Sexual Satisfaction

เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้วคิดอยู่นานเหมือนกันว่าเราจะเขียนสรุปเนื้อหายังไงดีนะ ให้มันดูเป็นเรื่อง “เซ็กส์” จนเกินไป เพราะก็ต้องบอกตามตรงว่าในความรู้สึกผม “คนไทย” กับเรื่อง “เซ็กส์” หรือเรื่องเพศนั้น อาจจะยังไม่ได้เสรี เปิดกว้าง หรือเท่าเทียมกันนักเมื่อเทียบกับฝรั่งตาน้ำข้าว แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าเมื่ออ่านจบแล้วผมกลับรู้สึก “เห็นใจ” บรรดาผู้หญิงเมื่อไม่ถึงร้อยปีที่ผ่านมาว่า ทำไมผู้หญิงถึงได้โดนเหล่าผู้ชายกดขี่แม้กระทั่งเรื่องเพศได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ในเครื่องของ “ศาสนา” ที่สร้างความเชื่อที่ยึดถือเพศชายเป็น “ศูนย์กลาง” มาช้านาน ถ้าไม่เชื่อก็ลองนึกดูซิว่าบรรดา ศาสดา หรือ พระเจ้า ของศาสนาแทบทุกศาสนานั้นล้วนเป็นเพศชายทั้งนั้น ไม่นับบรรดาเทพเสริมที่เป็นเพศหญิงนะครับ เมื่อศาสนาบ่มเพาะความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลหลายพันปีก่อนมาขนาดนี้ ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจที่ “เพศหญิง”…