Populism : A very short introduction ประชานิยม ความรู้ฉบับพกพา

ประชานิยมคืออะไร? และอะไรไม่ใช่ประชานิยม? ขอบคุณหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้ผมเข้าใจความหมายและที่มาที่ไปของคำว่า “ประชานิยม” ดีขึ้น ถ้าให้ผมเดา ผมขอเดาว่าคำนี้น่าจะมาจากคำว่า “ประชาชน” บวกกับ “ความนิยม” หรือ “เป็นที่นิยม” นั่นหมายความว่าอะไรก็ตามที่คนส่วนมากนิยมชมชอบ ก็สามารถนิยามว่าประชานิยมได้ไม่ยาก เท่าที่ผมนึกออกผมเดาว่าคำนี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันในบ้านเราตอนสมัย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้ริเริ่มนโยบายแบบประชานิยมขึ้นมา จนกลายเป็นทุกพรรคต่างต้องมีนโยบายประชานิยมในแบบของตัวเอง เท่าที่ผมนึกออกนโยบายประชานิยมในตอนนั้นที่ได้ใจประชาชนไปมาก น่าจะเป็น 30 บาท รักษาทุกโรค แม้จะโดนแซะโดนแซวว่าได้แต่พารา แต่ครอบครัวผมก็เป็นหนึ่งที่ได้ใช้สิทธิ์นี้ในการรักษาโรคมะเร็งอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าประชานิยมในบ้านเราเท่าที่ผมจำได้ แล้วอะไรที่ “ประชาไม่นิยม” นั่นก็คือคนส่วนน้อยในสังคม…

Corruption: A very short introduction คอร์รัปชัน ความรู้ฉบับพกพา

สรุปรีวิวหนังสือ คอร์รัปชั่น Corruption: A very short introduction หนังสือเล่มนี้ทำให้เข้าใจความหมายของ #คอร์รัปชัน คำเดิมที่คิดว่ารู้จักดีแล้วให้ดียิ่งขึ้นและลึกซึ้งขึ้น โดยเริ่มจากบทแรกที่ถามง่ายๆว่า “คอร์รัปชันคืออะไร?” คอร์รัปชันแรกเริ่มเดิมทีมีมาตั้งแต่โบราณ และเป็นหนึ่งในวาเหตุสำคัณที่ทำให้จักรวรรดิโรมันต้องเสื่อมสลาย และด้วยการคอร์รัปชันนี่เองที่ทำให้เกิดการปฏิรูปศาสนาใหม่กลายเป็นนิกายโปรเตสแตนต์ เพราะผู้คนส่วนหนึ่งในตอนนั้นทนไม่ไหวกับการคอร์รัปชันของคริสตจักรโรมันคาทอลิก จากการขายใบชำระบาปที่ระบาดมากมายในตอนนั้น คอร์รัปชันแบ่งกว้างๆได้เป็นสองประเภท คือแบบ “กินหญ้า” กับแบบ “กินเนื้อ” คอร์รัปชันแบบกินหญ้าหมายถึง เจ้าหน้าที่รับเงินเมื่อมีผู้เสนอสินบนให้ ส่วนคอร์รัปชันแบบกินเนื้อหมายถึง เจ้าหน้าที่เรียกหาสินบนจากผู้คนด้วยตัวเอง คอร์รัปชันไม่ได้เกิดแค่ในภาครัฐ แต่ยังมีไม่น้อยที่เกิดในภาคเอกชน และมีชื่อเรียกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่เอง…

สวัสดีเพื่อนนักอ่าน

จุดเริ่มต้นของการอ่านของผมเริ่มขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน น่าจะราวๆปี 2013 จากการเปลี่ยนสายงานจากเดิมที่เคยเป็นนักออกมามาสู่นักคิดโฆษณา เริ่มรู้สึกตัวว่าความรู้เดิมที่มีนั้นไม่เพียงพอ เลยต้องหาความรู้ใหม่ๆมาต่อยอดเพื่อคิดงานให้แปลกใหม่ได้มากขึ้น จากที่เคยใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะอ่านได้จบเล่ม กลายมาเป็นเดือนละเล่มสองเล่ม จนถึงทุกวันนี้เดือนนึงน่าจะอ่านจบได้ไม่ต่ำกว่าสิบเล่มแล้ว สำหรับผมการอ่านเหมือนการสะสม อ่านสะสมไปเรื่อยๆทุกวัน มีคนเคยถามว่าเคล็ดลับการอ่านหนังสือให้ได้เร็วๆและเยอะๆคืออะไร สำหรับผมนั้นเคล็ดลับเดียวคืออ่านไปเรื่อยๆครับ มีเวลาก็หยิบมาอ่าน อ่านตลอด อ่านทุกวัน อ่านให้เป็นนิสัย อ่านให้เหมือนการหยอดกระปุก หยอดวันลห้าบาทสิบบาท แปบเดียวก็เป็นพันแล้ว วันหนึ่งผมมีเวลาอ่านแค่สองช่วง คือระหว่างขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน และระหว่างขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านเท่านี้ครับ ดังนั้นผมเชื่อว่าถ้าผมว่ามีเวลาน้อยยังอ่านได้ขนาดนี้ คุณหรือใครที่มีเวลามากกว่าผมต้องอ่านได้ไม่น้อยกว่าผมแน่ครับ ขอแค่มีวินัยในการอ่านเท่านั้นเอง สุดท้ายแล้วต้องขอบคุณหม่อน น้องที่ทำงานเก่าคนนึงที่ยุให้ผมเริ่มเขียนสรุปหนังสือจริงจังลงตาม storylog หรือ…