Connected by Design แบรนด์ดีมีแต่ได้

เขียนจากประสบการณ์ตรงของ 2 นักโฆษณามากฝีมือระดับโลกอย่าง Barry Wacksman เป็น Global Chief Strategy Officer และ Chris Stutzman อดีต Managing Director จากเอเจนซี่ระดับโลกอย่าง R/GA ที่ปีล่าสุดคว้าสิงโตคานส์มา 18 ตัว หนึ่งในนั้นเป็นสิงโต Grand Prix หนึ่งตัวจากสาขา Media คอนเซปหลักของเล่มนี้เป็นเรื่องของ Functional Integration หรือการสร้าง…

Life is a lottery คุณคือผู้โชคดี

เป็นหนังสือที่เลือกหยิบมาเพราะถูกใจหน้าปกในตอนงานหนังสือแห่งชาติเมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา สารภาพว่าไม่ได้อ่านอะไรข้างในหรอกตอนจะซื้อ แต่อีกสิ่งที่ทำให้ซื้อก็คือชื่อหนังสือที่พูดถึงเรื่อง “ล็อตเตอรี่” ผมก็เลยคาดเดาไปเองว่า “อ๋อ มันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องคนที่ถูกหวยแน่ๆ เออๆ น่าสนใจดีๆ ลองหยิบติดกลับไปเก็บไว้ที่บ้านเผื่อวันไหนจะหยิบมาอ่านดีกว่า” นั่นแหละครับ จากงานหนังสือผ่านไปเกือบครึ่งปี เพิ่งจะได้หยิบมาอ่าน ทีนี้ถึงได้รู้ว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องคนขายหวยหรือถูกล็อตเตอรี่อะไรเลย กลับเป็นเรื่องของ “ล็อตเตอรี่ชีวิตมากกว่า” ล็อตเตอรี่ชีวิตนี้คือการที่ผู้เขียนเลือกเสี่ยงดวงออกจากงานประจำ มาทำงานเป็นนักเขียน ก็ต้องยอมรับว่าเสี่ยงเหมือนซื้อหวยนะ เพราะงานประจำยังไงก็อิ่มท้องทุกสิ้นเดือน แต่ออกมาทำฟรีแลนซ์นี่เหมือนซื้อหวยจริงๆ โดยเฉพาะฟรีแลนซ์ที่ยังไม่โด่งดังมีชื่อเสียงก็ไม่รู้ว่าจะมีหวย หรือโชคดีเป็นงานเข้ามาให้ตัวเองเมื่อไหร่ ผู้เขียนเองถูกหวยจากการเขียนหนังสือเล่มนึง เป็นหนังสือขายดีมากที่ใครก็ต้องคุ้นหูแม้จะไม่เคยซื้ออ่าน หนังสือชื่อว่า “การลาออกครั้งสุดท้าย” ขนาดตอนนั้นผมยังเป็นพวกไม่อ่านหนังสืออะไรเลยเวลาไปร้านหนังสือเพื่อหาซื้อการ์ตูนหรือแมกกาซีนก็ต้องเห็นมีป้าย…

An Edible History of Humanity ประวัติศาสตร์กินได้

โลกสร้างอาหาร อาหารสร้างโลก, An Edible History of Humanity – Tom Standage ถ้าคุณเป็นคนชอบอ่านประวัติศาสตร์สนุกๆ คุณน่าจะชอบหนังสือเล่มนี้อีกเล่ม เพราะเล่มนี้คือคนเดียวกับที่เขียน “ประวัติศาสตร์โลกในหกแก้ว” A History of the World in 6 Glasses พูดถึงอาหารใครจะคิดว่ามันจะเบื้องหลังมากมายจนถึงขั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ได้อีกเล่ม จากที่เคยอ่านมาแล้ว 11 เล่มที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อาหาร นี่เลยกลายเป็นเล่มที่ 12 ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้านอาหารของผม นีโอลิธิก…

เหลี่ยมคุก

ถ้าพูดถึงชื่อชูวิทย์ ผมเชื่อว่าคงมีน้อยคนในประเทศที่ไม่รู้จัก ตั้งแต่เจ้าพ่ออ่างทองคำถึง 6 แห่ง ตามมาด้วยนักแฉในตำนานเรื่องข้าวผัดกล่องละ 5,000 บาท ต่อมาด้วยการลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพจนได้คะแนนหลักแสน แล้วก็กลายมาเป็น ส.ส. ในสภาผู้ทรงเกรียติ์ สุดท้ายมาเป็นนักโทษเด็ดขาดชายชูวิทย์ และก็เพิ่งได้รับอิสรภาพเมื่อไม่นานมานี้เอง ชูวิทย์ เป็นคนที่ใครหลายคนติดตามในเรื่องของฝีปาก กับเรื่องราวด้านมืดมากมายในสังคมที่แฉมาทีทำเอาคนใหญ่โตสะเทือนกันเป็นแถบ แต่ถูกใจชาวบ้านหรือคนที่ไม่ชอบคนใหญ่โตเหล่านั้นมากมาย เล่มนี้ชูวิทย์ไม่ได้แค่แฉ แต่ยังเป็นการตีแผ่จากชีวิตจริงหลังประตูเหล็กกำแพงหินของคุก คุก ชีวิทย์ ให้นิยามว่าเป็นสถานที่พระเจ้าไม่คาดคิด แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อกักขังกันเอง เพราะชีวิตหลังกำแพงคุกนั้นเหมือนกับถูกขโมยเวลาหายไปจากชีวิต เพราะหลายคนที่ติดอยู่หลายปีพอออกจากคุกมาก็ไม่เหลือชีวิตนอกคุกอีกต่อไป ส่วนใหญ่ก็พ่อตาย เมียหาย ครอบครัวพี่น้องไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะคนที่ติดคุกเกินสิบปีขึ้นไปเหมือนตัวตนในสังคมเค้าไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว…

Driven to Delight ขับเคลื่อนความสุข

สรุปหนังสือ Driven to Delight ขับเคลื่อนความสุข, ส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าระดับโลก แบบวิถีเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยสำนักพิมพ์ Mc Graw Hill Education บอกตรงๆว่าวินาทีแรกสนใจเล่มนี้เพราะหน้าปกที่มีโลโก้ดาวสามแฉกอย่างเบนซ์เด่นหรา แต่พอได้หยิบขึ้นมาอ่านผ่านๆก็รู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้น นอกจากหน้าปกที่สามารถฮุคให้ผมหยุดแล้ว ประโยคที่เขียนเด่นชัดว่า “ขับเคลื่อนความสุข” ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์สำคัญที่สามารถดึงกระเป๋าตังค์ผมออกมาได้ด้วย หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเบนซ์ที่อเมริกา (ผมขอเรียกสั้นๆแทนชื่อเต็มว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ สหรัฐอเมริกานะครับ) ถ่ายทอดผ่าน CEO ที่ชื่อ Steve Cannon เพียงแค่เริ่มรับตำแหน่งใหม่ใน 60 วัน…

ธุรกิจพอดีคำ

อ่านนวัตกรรมทางความคิดที่ไม่มีวันหมดอายุ เล่มนี้ได้มาจากงานหนังสือครั้งล่าสุดเมื่อต้นปี สังเกตุเห็นว่ามติชนเริ่มทำหนังสือแนวนี้เพิ่มขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านหน้าใหม่ เป็นหนังสือในแนวที่อ่านง่ายๆ เป็นตอนสั้นๆ อ่านฆ่าเวลาก็ดี อ่านเอาเกร็ดความรู้ก็ได้ แต่ที่ผมว่าดีมากก็คือหนังสือแบบนี้แหละที่จะพานักอ่านหน้าใหม่ให้กลายเป็นนักอ่านหลายหน้าในเวลาไม่นาน เพราะผมเองก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยคิดอ่านหนังสือ จนมาเจอหนังสือสไตล์นี้ของอาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ จนกลายมาเป็นหนอนหนังสือคนนึง เล่าเรื่องของผมเยอะแล้วกลับมาที่หนังสือบ้าง ผู้เขียนใช้หลักคิดแบบ Design Thinking มาสอดแทรกอย่างแนบเนียนในเรื่องเล่าในเล่ม น่าจะเพราะคนเขียนจบทางด้านนี้มาโดยเฉพาะและยังทำงานเป็นนักนวัตกรรมในองค์กรใหญ่อย่าง ปตท. มากกว่า 10 ปี ในหลัก Design Thinking ที่ผู้เขียนพยายามเน้นย้ำมากกว่าหนึ่งครั้งคือหัวข้อ “Empathy” หรือที่แปลเป็นไทยว่า “ความเข้าอกเข้าใจลูกค้า” ความเข้าอกเข้าใจลูกค้า…

Stuff Matter วัสดุนิยม

“วัสดุนิยม” ไม่เหมือนกัน “วัตถุนิยม” ถ้าวัตถุนิยมคงไม่ต้องให้นิยามกันอีกเพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงพอมีนิยามของคำนี้ในหัวค่อนข้างตรงกันแล้ว แต่ไอ้ “วัสดุนิยม” นี่หล่ะคืออะไร? “วัสดุนิยม” ในคราวนี้ผมคิดว่ามาจากผู้เขียน Mark Miodownik ที่เป็นคนคลั่งใคล้ในวัสดุต่างๆรอบตัว เรียนกว่าเข้าขั้นหมกมุ่นมากกกกกก ถ้าถามว่าหมกมุ่นขนาดไหน ก็ตอบได้เลยว่าขนาดว่าเอามาทำเป็นสำมาอาชีพ จบปริญญาเอกด้านนี้ ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จนได้รับการยกย่องจาก Time ว่าเป็น 1 ใน 100 นักวิทยาศาสตร์ผู้ทรงอิทธิพลยุคใหม่ (ประมานนี้นะถ้าจำไม่ผิด พอดีไม่ได้ติดหนังสือไว้ตอนเขียน) ดูเหมือนจะเป็นหนังสืออ่านยากใช่มั้ยครับ ฟังดูว่าวิทยาศาสตร์ นักวิจัย อะตอม…

Nudge สะกดความคิด สะกิดพฤติกรรม

วิธีกำหนดทางเลือกอย่างแยบยลให้คนเดินไปในทางที่คุณต้องการ เขียนโดย Richard H. Thaler และ Cass R. Sunstein พูดถึงเรื่องการชี้นำทางเลือกให้ผู้คนแต่ยังให้ผู้คนมีอิสระเสรีที่จะเลือก เป็นแนวทางการปกครองแบบใหม่ที่เรียกว่า พ่อปกครองลูกแบบเสรีนิยม ฟังครั้งแรกมีงงว่ายังไงแต่พออ่านแล้วจึงเข้าใจว่าอ๋อ…ขอยกเคสตัวอย่างในหนังสือหนึ่งเคสเลยแล้วกัน ในโรงอาหารในโรงเรียนแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เกิดปัญหาว่าเด็กนักเรียนมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดความอ้วนเกินมาตรฐานในวัยเด็ก ทางผู้จัดการโรงอาหารเลยคิดหาทางแก้ไขว่าจะทำอย่างไรดี ระหว่างที่จัดการประชุมร่วมกับทุกฝ่าย ก็มีอาจารย์ท่านนึงเสนอว่าให้ตัดอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพทิ้งไปเลย ให้เหลือแต่ของที่ดีต่อสุขภาพ(ในความคิดของผู้ใหญ่) แต่อาจารย์ฝ่ายเสรีนิยมก็เสนอว่าทำแบบนั้นมันไม่ถูกต้องมันเผด็จการเกินไป อาจารย์ผู้เป็นผู้ดูแลโรงอาหารแห่งนี้เลยปิ๊งไอเดียบางอย่างว่า ให้เราลองทำการทดลองดูว่า ถ้าเราสลับถาดอาหารโดยให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่ลำดับต้นทั้งหมด และให้อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่ในลำดับท้ายทั้งหมด เปรียบเทียบกับอีกโรงเรียนที่จัดวางอาหารแบบไม่มีลำดับหรือสุ่ม แล้วผลออกมาจะเป็นอย่างไร คุณคิดว่าผลสองโรงเรียนนี้จะต่างกันหรือไม่ กับการแค่ลำดับถาดอาหาร..ใช่ครับ ผลที่ได้ออกมาต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ…

A Short History of Nearly Everything

ประวัติย่อของเกือบทุกสิ่งจากจักรวาลถึงเซลล์ โดย Bill Bryson จะบอกว่าหนังสือหนาย่อมๆขนาด 600 หน้าเล่มนี้ รวมประวัติตั้งแต่วินาทีแรกของจักรวาลยันถึงมิลลิวินาปัจจุบันในการทำงานภายในเซลล์เล็กๆกว้าหมื่นล้านล้านเซลล์ของเรา ฟังชื่อดูเหมือนเครียด ดูความหนากว่า 600 หน้าดูเหมือนน่าเบื่อ แต่ความจริงแล้วถ้าคุณได้ลองเปิดอ่านดูจะรู้ว่าทุกหน้าดูเป็นเรื่องสนุกและทุกเรื่องก็คือเรื่องไกล้ตัวเราทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเราอย่างยิ่ง เช่น ตั้งแต่กำเนิดมนุษย์เดินดินสองขาคนแรกย้อนกลับไปเมื่อ 3.8 ล้านปีก่อน จนถึงมนุษย์เราๆทุกวันนี้ที่น่าจะมีกำเนิดมาจากคนเพียง 200-300 คนเมื่อ 200,000ปีก่อนที่อพยพย้ายออกจากแอฟริกามาเป็นบรรพบุรุษของเราทุกวันในวันนี้ ถ้างั้นจะบอกว่าเราทุกคนบนโลกต่างเป็นพี่น้องกันก็ไม่ผิดนัก เพราะลำพังในส่วนทวีปยุโรปและรัสเซียนั้นทุกคนกำเนิดมาจากผู้หญิงเพียง 7 คนด้วยซ้ำไป (ทุกวันนี้ไปไม่รู้กี่ร้อยหรือพันล้านแล้วล่ะ) และพอมองย้อนกลับไปอีกก็จะพบว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกในตอนนี้นั้นล้วนมีต้นกำเนิดร่วมกันมาเพราะ DNA หรือชุดคำสั่งโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตต่างๆนั้นกว่า…

I Cancel my Cancer

เขียนจากประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Hodgkin’s Lymphoma) เพียง 1% ในโลกที่มะเร็งลามเข้าสู่หัวใจ จนแทบเอาชีวิตไม่รอด.. ..ต้องบอกก่อนเลยว่าผู้เขียนหรือคุณเบลล์นั้นแทบจะเรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยสามชั้นที่แม้แต่ฝาอิชิตันก็ให้ขนาดนี้ไม่ได้ เริ่มจากพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จากนั้นก็พบว่าตัวเองเป็นวัณโรค แล้วก็พบว่าตัวเองมีก้อนมะเร็งในหัวใจ โอ้โห..อะไรจะขนาดนั้นครับ ..จากสาว 26 กำลังจะจบโทจากนอก เตรียมจะใช้ชีวิตแบบคนยุคใหม่เต็มที่แต่ทุกสิ่งที่เคยคิดและแพลนเอาไว้ต้องมาสะดุดลงหมด เพราะจากอาการวูบสลบที่คิดว่าแค่ไม่สบายที่อังกฤษ ก็เลยคิดว่าจะบินกลับมาไทยเพื่อมาตรวจร่างกายเล็กน้อยและฉีดยานิดหน่อยแล้วก็บินกลับไปสอบ ป.โท กับทำวิทยานิพนธ์อีกนิดหน่อยให้จบ กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่ไม่มีวันย้อนกลับอีกต่อไป.. ..เพราะเธอได้พบเจอมะเร็งที่อยู่ในปอด และลามไปส่วนอื่นๆของร่างกาย จนครอบครัวถึงกับช็อคเพราะไม่เข้าใจว่าเป็นไปได้ยังไง แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปต้องกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต็มตัวที่หมอว่าเหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือน ..เริ่มจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุกส่วน เพื่อค้นหาให้เจอว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหน…