ไขปริศนาประเด็นอำพราง ในประวัติศาสตร์ไทย

เป็นหนังสือประวัติศาสตร์จากหลักฐานขั้นต้นใหม่ๆโดยคุณไกรฤกษ์ นานา ไม่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับถนนนานาเพราะว่าเกี่ยวเต็มๆ เพราะเป็นลูกหลานตะกูลชื่อถนนเส้นนั้น ดูหน้าปกชวนซีเรียสแต่ใครจะเชื่อว่าอ่านง่ายและสนุกมากที่ได้รู้เบื้องหลังชาติตัวเองแบบหนังสือเรียนไม่เคยสอน อย่างเรื่องที่เราสงสัยว่าทำไมสมัยก่อนชาติตะวันตกอย่างอังกฤษ และฝรั่งเศสถึงพยายามยึดครองแย่งชิงสยามเมืองไทยจังเลย ความจริงแล้วเปล่าครับ เค้าแทบไม่ได้สนใจอะไรเมืองไทยเราซักเท่าไหร่ แต่ที่เค้าต้องเข้ามาไกล้เพราะเค้าสนใจประเทศจีนต่างหาก เพราะทางด้านบนของจีนถูกรัสเซียปิดทางเข้าเลยต้องพยายามหาทางเจาะเข้าจากทางอื่น อังกฤษเข้าทางพม่าเพราะติดกับอินเดียที่เป็นอาณานิคมของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนฝรั่งเศสเลือกเข้าทางญวน(เวียดนามปัจจุบัน)เพราะทำสัญญาไม่สู้รบกันเองกับอังกฤษ ส่วนไทยก็แค่โดนเบียดเสียดเอาเมืองในบรรณาการของตัวเองไป จะมีก็แต่ปัญญาทางด้านเหนืออย่างล้านนา ล้านช้าง และเชียงตุง ที่ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสต่างก็ต้องการเพื่อเป็นทางเข้าไปสู่การค้าขายกับจีนทางใต้ที่ยูนาน เพราะสมัยนั้นจีนบีบบังคับให้ต่างชาติต้องเข้ามาค้าขายผ่านทางกวางตุ้ง และเซี่ยงไฮ้เมืองท่าเท่านั้น และการเดินทางมาทีก็ใช้เวลาเดินเรือนานมากค่าใช้จ่ายเยอะ นี่เป็นเหตุผลที่อังกฤษและฝรั่งเศษสนใจเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเอง เรื่องที่สองที่น่าสนใจคือเมกะโปรเจคสมัยรัชการที่ 5 นั่นคือการทำเส้นทางรถไฟสู่เมืองจีน และการขุดคอคอดกระ ในสมัยนั้นอังกฤษพยายามหาทางปูเส้นทางรถไฟจากพม่าใต้ขึ้นสู่เหนือเข้าถึงทางจีนตอนใต้แต่ด้วยอุปสรรคจากสภาพภูมิประเทศทางด้านเหนือของพม่านั้นไม่ยากลำบากมากต่อการสร้างทางรถไฟ อังกฤษเลยขออนุญาตเข้ามาสำรวจทางแดนล้านช้างของเราและก็พบความเป็นไปได้ที่จะสร้างทางรถไฟตัดผ่านจากพม่า เข้ามาทางตากขึ้นสู่ล้านช้าง(เชียงราย)แล้วก็เข้าสู่ยูนานจีนใต้นั่นเอง แต่รัชกาลที่…

อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

จริงหรือมั่ว? ชัวร์หรือมั่วนิ่ม ให้แน่ใจต้อง “เช็ก” ก่อน “แชร์” พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กๆฉบับพกพาหยิบไปอ่านที่ไหนก็ง่าย แถมยังได้เกร็ดสาระความรู้มากมายกว่า 36 บท โดยอาจารย์เจษฏา อมยิ้มล็อคอินดังห้องหว้ากอผู้ที่คอยมาไขปัญหาคาใจของชาวพันทิปและชาวเน็ตมากมาย พูดถึงพันทิปสมัยก่อนนั้นคนที่เป็นล็อคอินดังๆสมัยซักสิบปีก่อนของห้องหว้ากอก็น่าจะหนีไม่พ้นพี่ช่างไฟ คุณหมอเจ และ Mr.T ที่ตามตำนานว่ากันว่าเป็น…. ที่เวลามีปัญหาข้องใจอะไรก็มักจะปรึกษาสองล็อคอินนี้เป็นประจำ ด้วยความที่ผมก็ไม่ได้เล่นพันทิปมานานมากแต่มาได้ยินชื่อล็อคอินอาจารย์เจษฎาตามช่องข่าว และหน้าฟีดพวกเวปข่าวหรืออะไรที่เพื่อนๆแชร์กัน จนทำให้รู้ว่าตอนนี้มีล็อคอินนี้กำลังเป็นที่นิยมในช่วงเวลานี้ จริงๆสมัยนี้ต่างกับสมัยสิบปีก่อนตรงที่ social media ยังไม่บูมเท่าทุกวันนี้ ด้วยสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เนต 4G ทั่วทุกหย่อมหญ้าราคาถูกให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลและแชร์กันได้ง่ายๆกว่าสมัยสิบปีก่อนมากนัก ผมจำได้ว่าสมัยนั้นจะเล่นเนตทีต้องไปร้านเนต ไม่ก็ต้องติดเนตที่บ้าน…

ติดอะไรไม่เท่าติดหนึบ MADE TO STICK

“พูดยังไงให้คนจำได้ฝังใจไปจนตาย” ประโยคนี้น่าจะเป็นแก่นของหนังสือเล่มนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องการพูดหรือการสื่อสาร หลายคนอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องไกลตัวเพราะตัวเองไม่จำเป็นต้องไปพูดให้คนอื่นฟัง หรือไปพูดพรีเซนต์งานขายของซักเท่าไหร่ในชีวิต ก็อาจจะจริงครับ แต่ถ้าคิดถึงเรื่องไกล้ตัวอย่างการ “พูด” ให้แฟน เพื่อน หรือคนในครอบครัวแม้กระทั่งลูกเข้าใจและคล้อยตามนั้นกลับเป็นเรื่องยากซะจริง ไกล้ตัวขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยครับแบบนี้ หลายครั้งที่คนเราพยายามสื่อสารใจความที่ตัวเองเห็นว่าสำคัญออกไปให้คนที่ฟังเข้าใจ แต่คนที่ฟังกลับไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วเราก็ได้แต่โทษคนที่เราพูดด้วยว่า “ทำไมเป็นคนเข้าใจยากเย็นอะไรอย่างนี้นะ!?” คิดแบบนี้ในใจบ่อยมั้ยครับ ถ้าใช่หนังสือเล่มนี้ก็เหมาะกับคุณ ผมเชื่อว่าการสื่อสารเป็นหัวใจหลักของมนุษย์เรา ถ้าเราสื่อสารแนวคิดให้กันและกันไม่ได้ เราก็คงไม่สามารถอยู่ในจุดที่เรียกสัตว์ครองโลกอย่างทุกวันนี้ได้ เพราะการสื่อสารทำให้มนุษย์เหนือกว่าสัตว์ที่มีพละกำลังมากกว่าเราหลายเท่านัก ถ้าอย่างนั้นทำไมคนส่วนใหญ่ถึงยังสื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจล่ะ นั่นเพราะเราหรือตัวผู้พูดนั้น ไม่ได้เข้าใจถึงวิธีการสื่อสารที่ดีพอที่จะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ อธิบายให้ง่ายขึ้นอีกหน่อยได้มั้ย..ได้ครับ ในหนังสือ MADE TO STICK…