เป็นหนังสือที่เลือกหยิบมาเพราะถูกใจหน้าปกในตอนงานหนังสือแห่งชาติเมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา สารภาพว่าไม่ได้อ่านอะไรข้างในหรอกตอนจะซื้อ แต่อีกสิ่งที่ทำให้ซื้อก็คือชื่อหนังสือที่พูดถึงเรื่อง “ล็อตเตอรี่”

ผมก็เลยคาดเดาไปเองว่า “อ๋อ มันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องคนที่ถูกหวยแน่ๆ เออๆ น่าสนใจดีๆ ลองหยิบติดกลับไปเก็บไว้ที่บ้านเผื่อวันไหนจะหยิบมาอ่านดีกว่า”

นั่นแหละครับ จากงานหนังสือผ่านไปเกือบครึ่งปี เพิ่งจะได้หยิบมาอ่าน ทีนี้ถึงได้รู้ว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องคนขายหวยหรือถูกล็อตเตอรี่อะไรเลย กลับเป็นเรื่องของ “ล็อตเตอรี่ชีวิตมากกว่า”

ล็อตเตอรี่ชีวิตนี้คือการที่ผู้เขียนเลือกเสี่ยงดวงออกจากงานประจำ มาทำงานเป็นนักเขียน ก็ต้องยอมรับว่าเสี่ยงเหมือนซื้อหวยนะ เพราะงานประจำยังไงก็อิ่มท้องทุกสิ้นเดือน แต่ออกมาทำฟรีแลนซ์นี่เหมือนซื้อหวยจริงๆ โดยเฉพาะฟรีแลนซ์ที่ยังไม่โด่งดังมีชื่อเสียงก็ไม่รู้ว่าจะมีหวย หรือโชคดีเป็นงานเข้ามาให้ตัวเองเมื่อไหร่

ผู้เขียนเองถูกหวยจากการเขียนหนังสือเล่มนึง เป็นหนังสือขายดีมากที่ใครก็ต้องคุ้นหูแม้จะไม่เคยซื้ออ่าน หนังสือชื่อว่า “การลาออกครั้งสุดท้าย” ขนาดตอนนั้นผมยังเป็นพวกไม่อ่านหนังสืออะไรเลยเวลาไปร้านหนังสือเพื่อหาซื้อการ์ตูนหรือแมกกาซีนก็ต้องเห็นมีป้าย Best Seller หรือ ขายดี ติดอยู่ตลอด แถมยังตั้งเด่นเป็นสง่าให้คนหยิบหาได้ง่าย

ไม่รู้เหมือนกันว่าคนส่วนใหญ่นั้นอยากลาออกกันทุกคนแต่น้อยคนนักจะกล้าหาญ หรือพร้อมที่จะทำมันออกไป คนส่วนใหญ่ก็เลยได้แต่ต้องมีการลาออกอีกครั้งไป เพื่อย้ายสังกัดใหม่ไปเรื่อยๆ

คุณภาณุมาส ทองธนากุล ที่เป็นคนเขียนเล่มนี้ให้แง่คิดดีๆไว้หลายอย่าง เช่นว่าการจะถูกรางวัลชีวิตนั้นก็ไม่ต่างกับการซื้อหวย เพียงแต่เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อให้มากขึ้นเพื่อให้มีโอกาสถูกรางวัลมากขึ้นเหมือนการซื้อหวยจริงๆก็ได้เหมือนกัน

ถูกหวยการงาน ก็มาจากการทุ่มเททำงานไม่ย่อท้อ ทำงานหนักกว่าคนอื่น ทุกครั้งที่คุณทำงานออกมาดี ก็เหมือนคุณกำลังได้ล็อตเตอรี่อีกใบเก็บไว้ในกระเป๋าการทำงาน เมื่อถึงวันออกรางวัลคุณก็มีโอกาสถูกแจ็คพอทมากกว่าคนอื่น

ถูกหวยสุขภาพ ก็คือการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะด้วยมะเร็งหรือเบาหวาน ก็นับเป็นหวยที่ไม่มีใครอยากได้กันซักเท่าไหร่ แต่จะทำยังไงได้ก็เราทุกคนต่างซื้อหวยสุขภาพเก็บไว้เป็นประจำ ผ่านการกิน ผ่านการนอน ผ่านความเครียด ผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน จนถึงวันที่เราได้แจ็คพอทเพราะเราดันมีหวยมากกว่าคนอื่นไง

ถูกหวยชีวิตนั้นมีหลายด้าน แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามไปว่าแค่เราได้มีชีวิตเกิดมาก็เหมือนถูกหวยรางวัลใหญ่แล้วครั้งที่หนึ่ง เพราะนั่นทำให้เราได้รู้จักชีวิต ได้มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย การที่ชีวิตเรายังปกติดีทุกวันก็เป็นการถูกหวยในทุกวันเหมือนกัน แต่กว่าเราจะมองออกว่าเรามีโชคด้านนี้ก็ต่อเมื่อชีวิตเราเกิดความไม่ปกติขึ้น เช่น มีคนในครอบครัวตรวจเจอมะเร็ง หรือเดินหกล้มกระดูกสะโพกหัก จนกลับมาคิดได้ว่าจริงๆแล้วตอนที่ยังปกติดีนั่นแหละโชคดีที่สุด

การจะโชคดีไม่ได้หมายความว่าต้องได้โชคใหญ่ระดับแจ็คพอทมาหล่นทับ แต่ยังหมายถึงการที่เรามองเห็นสิ่งดีๆของสิ่งละอันพันละน้อยในทุกๆวันมากกว่า เหมือนที่เค้าบอกว่าโลกจะเป็นอย่างที่เรามอง ถ้าเรามองว่าชีวิตรอบตัวเรามีข้อดีต่างๆมากมาย แม้จะมีเรื่องร้ายแต่ก็ยังมีเรื่องดี

ก็เหมือนวันฝนตกฟ้าร้อง ก็ใช่ว่าฟ้ามันจะร้องฝนจะถล่มมาทั้งปี ยังไงวันที่ฝนหยุดก็ต้องตามมาอยู่ดี ชีวิตก็เหมือนกัน ถ้าอยากมีความสุขเหมือนถูกล็อตเตอรี่ก็ไม่ยากครับ แค่เริ่มมองหารางวัลเลขท้ายสองตัวในทุกๆก้าวของทุกวันไปเรื่อยๆ เท่านี้คุณก็จะกลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแล้วล่ะผมว่า

อ่านเมื่อปี 2017

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/