โลกาภิวัตน์ Globalization; A very short introduction

หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นที่คำถามว่า “โลกาภิวัตน์” คืออะไร? การเจริญขึ้นของสังคม? การพัฒนาขึ้นของเทคโนโลยี? หรืออะไรคือโลกาภิวัตน์.. ..โลกาภิวัตน์หมายถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในระดับโลกได้หรือไม่ น่าจะได้ งั้นคำถามต่อไปคือแล้วโลกาภิวัตน์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ในยุคอินเตอร์เนตใช่หรือไม่? หรือช่วงเวลาไหนที่เกิดนิยามความเป็น “โลกาภิวัตน์” ขึ้น? ..ถ้าเราค่อยๆย้อนกลับไปเสมือนเลื่อนลงไล่ดู Facebook Timeline ก็จะเห็น Social Media ที่เชื่อมคนทั้งโลกให้เข้าไกล้กันได้มากขึ้น ถอยกลับไปอีกหน่อยก็จะพบว่าเป็นยุคของ Smartphone และ Internet ไร้สายที่ทำให้การเชื่อมต่อไม่ต้องติดอยู่กลับที่ เลื่อนหน้าฟีดของโลกาภิวัตน์ลงไปอีกก็อาจจะพบเจอกับยุค www หรือยุคเริ่มต้นอินเตอร์เนตนั่นเอง หรือย้อนกลับไปอีกอาจเป็นยุคของ PC…

ปัญญาญี่ปุ่น

สรุปหนังสือ ปัญญาญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่เล่าให้เห็นวิวัฒนาการของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคอดีตจนปัจจุบัน ผ่านบริษัทรถยนต์ชื่อดังทั้งโตโยต้า และฮอนด้า เริ่มจากคนลากรถที่วัดธารน้ำในที่เมืองเกียวโต ที่ต้องลากรถขึ้นเขาพานักท่องเที่ยวไปส่งปลายทางบนเขา การจะลากรถขึ้นเขานั้นถ้าต้องลากท่าปกติเป็นอะไรที่ต้องใช้แรงมาก ท่าปกติคือการหันหน้าไปทางข้างหน้าเหมือนปกติ แต่นักลากรถคนหนึ่งค้นพบว่าถ้าหันหลังแล้วค่อยๆเหมือนดันรถขึ้นเขาจะใช้แรงน้อยลง เหนื่อยน้อยกว่า แถมยังสามารถหันหน้ามาพูดคุยกับคนที่นั่งบนรถได้ สามารถพูดบรรยายเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ได้. พอคนนึงค้นพบ ที่เหลือก็ทำตาม จนกลายเป็นท่าลากรถขึ้นเขามาตรฐานของวัดธารน้ำใสชื่อดังในเกียวโตแห่งนี้ ถ้าไม่ได้อ่านเล่มนี้ก็คงไม่รู้ว่าโตโยต้าที่โด่งดังเรื่องรถยนต์นั้น แต่ตะกูลโตโยดะเจ้าของบริษัทนี้กลับเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำเครื่องทอผ้า จากเครื่องทอผ้า ส่วนฮอนด้านั้นเริ่มจากสร้างจักรยานที่ติดเครื่องยนต์ให้ผู้คนได้ใช้ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ถึงทุกวันนี้ ส่วนโตโยต้าเองก็เริ่มจากผลิตรถยนต์ให้กับกองทัพในช่วงสงครามโลก โดยเฉพาะพวกรถขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะขนาดใหญ่ หรือรถบรรทุก จนค่อยๆพัฒนากลายมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ญี่ปุ่นเองแม้จะผ่านสงครามมาอย่างหนักหนาแต่ก็สามารถพัฒนาจนกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกได้ในเวลาไม่กี่สิบปี ทั้งฮอนด้า และโตโยต้าก็เช่นกันที่ต้องผ่านอุปสรรคทางเศรษฐกิจมาหลายต่อหลายครั้ง…

ชุมนุมชีวประวัติ Biographical Round-Up

เขียนโดย เดล คาร์เนกี นักเขียนผู้โด่งดังที่นักอ่านหลายคนคงรู้จัก เล่มนี้เป็นหนังสือรวบรวมประวัติบุคคลโด่งดังสำคัญแบบสั้นๆแต่ยังเข้าใจได้ครบ.. ..แต่หลายบุคคลในเล่มนี้ผมไม่คุ้นเคยมาก่อน เพราะเป็นบุคคนสำคัญผู้โด่งดังจากการทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ในยุคของเดลเองส่วนหนึ่ง แต่สิ่งนึงที่ทำให้ทึ่งมากคือตัวผู้เขียนหรือเดลเอง ได้ออกเดินทางไปสัมภาษณ์บุคคลเหล่านี้ด้วยตัวเอง หรือครอบครัวของคนสำคัญเหล่านั้นไปตามที่ต่างๆทั่วโลก เท่ากับว่าหนังสือเล่มนี้เป็นตัวแทนของการเดินทางไปเกือบทั่วโลกก็ว่าได้.. ..ผมขอยกบุคคลหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่พอได้อ่านจากเล่มนี้เพียงครั้งเดียวกลับทำให้ผมจำได้คร่าวๆก็คือ มาดามคูรี.. ..มาดามคูรี เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์หญิงคนแรกและคนเดียวของโลก(มั้ง) ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งด้วยกัน และสิ่งนึงที่ทำให้น่าทึ่งและน่านับถือมากคือการที่เธอเป็นผู้ประดิษฐ์จนค้นพบธาตุตัวใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาลก็คือ เรเดียม.. ..เรเดียมซึ่งเป็นธาตุที่ไม่มีตามธรรมชาติแต่ต้องสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากของมาดามคูรีและสามีของเธอตามลำพัง จากการต้องใช้ทุนตัวเองอดมื้อกินมื้อเพราะไม่มีใครให้ทุนอุดหนุนเธอแต่เธอก็พยายามทำ บางคนอาจสงสัยว่าธาตุเรเดียมนั้นสำคัญและมีมูลค่ามหาศาลอย่างไร นั่นเพราะธาตุเรเดียมนั้นใช้ในการฉายแสงรักษาโรคมะเร็งในสมัยนั้น(ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังใช้อยู่รึเปล่า) และด้วยเหตุนี้เองทำให้น่าจะมีมูลค่ามหาศาลถ้ามาดามคูรีเลือกที่จะจดสิทธิบัตรและขายความรู้นี้ในเชิงพานิชย์เพื่อเก็บเงินเข้ากระเป๋าเธอกับสามีให้ได้กินอยู่สบายตลอดชีวิต…

Political Philosophy ปรัญชาการเมือง

ถ้าถามว่า ปรัชญการเมือง ต่างกับ การเมือง ปกติอย่างไร ผมคงสรุปหลังจากอ่านจบได้ว่า การเมืองโดยทั่วไปคือผลลัพธ์หรือวิธีการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมืองนั้น . เช่น นักการเมืองอาจมีเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ด้วยการทำให้เกิดการจ้างงานเต็มอัตรา เอาง่ายๆก็คือทุกผู้ทุกคนมีงานทำนั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่ทุกคนมีงานทำเท่านั้น เพราะนั่นอาจหมายถึงว่ามีอาชีพที่คนไม่ได้อยากทำ หรือไม่ตรงกับความรู้ความสามารถที่มี ทำให้ไม่สามารถทำงานออกมาได้เต็มที่ เช่น ถ้านักการเมืองสร้างงานในตำแหน่งเสมียน หรือพนักงานกวาดถนน (ที่เอ่ยถึงสองอาชีพนี้ไม่ได้ดูถูก แค่ยกเป็นตัวอย่างง่ายๆให้เห็นภาพเร็วๆ) ก็ไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงได้ . นี่คือ การเมือง . ส่วนปรัชาการเมืองหมายถึงการคิด คิดไปยังความจริงแท้ของเป้าหมายทางการเมืองนั้น เช่น…

บันทึกลับ ของ แอนน์ แฟร้งค์ Anne Frank, The diary of a young girl

ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะมี “สมุด” เป็นเพื่อนได้ แต่เด็กผู้หญิงคนนึงที่ชื่อ แอนน์ แฟร้งค์ เธอมีเพื่อนรักและเพื่อนสนิทเป็นสมุดได้จริงๆ เพราะเธอและครอบครัวต้องคอยหลบซ่อนจากตำรวจ ทหารเยอรมัน หรือพวกนาซี ที่คอยกวาดล้างชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างที่เราคุ้นกันดีในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ที่ชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยพวกนาซีไปหลายล้านคน เธอกับครอบครัว รวมถึงอีกหนึ่งครอบครัวชาวยิว และหมอชาวยิวอีกคนหนึ่ง รวมกันเป็น 8 คน ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในอาคารที่ทำงานเก่าของพ่อเธอในเมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ที่คนทั้ง 8 ต้องเบียดเสียดกันอยู่แต่ในห้องใต้หลังคาแคบๆ และไม่ได้ออกจากตึกแถวเล็กๆ 3 ชั้นครึ่งไปไหนเลย ทำได้อย่างมากก็แค่…

เซ็กซ์ดึกดำบรรพ์ของบรรพชนไทย

อาจจะเป็นหนังสือที่ดูแปลกในสายตาของคนอื่น โดยเฉพาะคนไกล้ตัวที่สงสัยว่าทำไมผมถึงซื้อเล่มนี้มาอ่าน ก็แหม จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงล่ะครับ กิน ขี้ ปี้ นอน มันเป็นเรื่องสามัญในชีวิตประจำวันเราทุกคน (แต่บางเรื่องก็คงทำกันไม่ได้ทุกวันหรอกเนอะ..มั้ง) ผมก็เลยอยากรู้ว่าในสมัยก่อนหรือสมัยโบราณนั้น เรื่องเซ็กซ์(แปลกดีใช้ ซ์ แทน ส์ อย่างที่คุ้นเคยกัน)ของเค้าเป็นอย่างไร และต่างกับคนสมัยนี้มากน้อยแค่ไหน พออ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ถึงกับตาสว่างและน่าประหลาดใจกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เพราะเรื่องเซ็กซ์ในสมัยก่อนย้อนหลังไปเป็นร้อยเป็นพันปีได้นั้น กลับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญออกจะสาธารณะนิดๆกว่าที่คิดเอาไว้ด้วย เช่น การอยู่กินหรือมีเซ็กซ์กันก่อนแต่งในสมัยโบราณนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ผิดกับค่านิยมหรือจารีตของคนสมัยนี้เลยและผู้ชายก็ต้องกลายไปเป็นบ่าวรับใช้ของบ้านฝ่ายหญิง เลยเป็นที่มาขอคำว่า “เจ้าบ่าว” ฝ่ายชายได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเยี่ยงบ่าวรับใช้ จนกว่าพ่อแม่คนในครอบครัวฝ่ายหญิงจะพอใจยอมยกลูกสาวให้เป็นเมีย เรื่องที่ว่านี้ถึงขนาดเป็นกฏหมายในช่วงต้นอยุธยาเมื่อกว่า 500 ปีก่อนมาแล้ว…

จากหลากหลายกลายเป็นหนึ่ง One From Many

เป็นหนังสือที่เขียนโดยผู้ก่อตั้งบริษัท VISA ที่ผมเชื่อได้ว่าแทบทุกคนบนโลกคุ้นเคย เพราะอย่างน้อยตอนเราทำบัตร ATM ครั้งแรกเราก็ต้องเลือกแล้วว่าจะใช้ VISA หรือ MasterCard ไหนจะตอนที่เราเริ่มทำงานมีรายได้แล้วอยากทำบัตรเครดิตครั้งแรกก็ต้องเลือกอีกเช่นกัน.. ..บริษัท VISA เกิดขึ้นมาจากความวุ่นวายของแบงค์ออฟอเมริกา อยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นบัตรเครดิตครั้งแรกในชื่อของ อเมริการ์ด ที่ให้บริการสินเชื่อเงินสดทันใจแทนที่ดราฟเช็คเงินสดในสมัยก่อน ถ้าเราจำกันได้เวลาดูหนังฮอลลีวูดที่เก่าหรือย้อนยุคไปหน่อยซัก 40-60 ปีก่อน จะเห็นว่าตัวละครจะเขียนเช็คแทนการจ่ายด้วยเงินกัน นั่นแหละคือความยุ่งยากที่ก่อกำเนิดบัตรเครดิตเป็นครั้งแรกขึ้น.. ..แต่หลังจากเกิดขึ้นก็กลับก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายตามมามากมาย เพราะระบบที่ไม่ดีพอที่จะรองรับการเติบโตมหาศาลได้ และสมัยก่อนการจ่ายเงินยังไม่ทันใจในเสี้ยววินาทีที่แค่เซ็นลงบนสลิปแล้วจบ เพราะทางร้านค้าจะต้องรับบัตรแล้วก็โทรตรวจสอบไปยังธนาคารผู้ออกบัตร ส่วนธนาคารผู้ออกบัตรก็จะบอกให้ร้านค้ารอซักครู่แล้วทางธนาคารผู้ออกบัตรก็จะโทรไปยังสำนักงานใหญ่แบงค์ออฟอเมริกาเพื่อถามว่าจะอนุมัติหรือไม่ ถ้าวงเงินสูงก็ต้องใช้เวลารอการอนุมัติอีกราวๆสองอาทิตย์ และจากการโทรกันหลายทอดก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายสะสมมหาศาลจากค่าโทรศัพท์ทางไกลมากมายหลายร้อยล้านดอลลาห์ในสมัยนั้น.. ..Dee Hock…

Democracy: A very short introduction ประชาธิปไตย ความรู้ฉบับพกพา

ประชาธิปไตย…คำที่คุ้นเคยแต่ใครเอยจะรู้ว่า แท้จริงแล้วประชาธิปไตยที่เข้าใจกันมานั้นมีที่มาอย่างไร Democracy แรกเริ่มเดิมทีจากรากคำภาษากรีกโบราณ มาจากสองคำผสมกันระหว่างคำว่า Demos ที่หมายถึงประชาชน กับ Krator ที่หมายถึงการปกครอง เมื่อรวมกันแล้วก็หมายความว่า “การปกครองโดยประชาชน” ในยุคกรีกโบราณที่ประชาธิปไตยถือกำเนิดขึ้นนั้น อริสโตเติล ปราชญ์นักคิดชื่อดังผู้สนับสนุนประชาธิปไตยคนแรกๆกลับไม่ได้สนับสนุนประชาธิปไตยที่มี “การเลือกตั้ง” ในแบบที่เป็นอยู่ ในสมัยนั้นอริสโตเติลสนับสนุนให้ใช้การ “จับฉลาก” เลือกผู้ที่จะเข้ามาทำงานหรือตัดสินใจ เพราะอริสโตเติลรู้ว่าคนเรานั้นโลภและเขลาเกินกว่าที่คิด ทำให้ไม่มั่นใจว่าถ้าต้องโหวตกันก็จะมวลหมู่มากก็จะพ่ายแพ้ต่อปัญญา เหมือนที่มีคนกล่าวว่า “ความเขลาจะมีชัยเหนือปัญญา และปริมาณจะสำคัญกว่าความรู้” ว่าไปก็คือแนวคิดว่า “ประชานิยม” ในทุกวันนี้ ที่ผู้เขียนเชื่อว่าจะเป็นตัวการพาประชาธิปไตยไปสู่ความเสียหาย เพราะประชานิยมคือการที่พรรคต่างๆแข่งขันกันเอาใจประชาชนหมู่มาก…