เป็นหนังสือที่เขียนโดยผู้ก่อตั้งบริษัท VISA ที่ผมเชื่อได้ว่าแทบทุกคนบนโลกคุ้นเคย เพราะอย่างน้อยตอนเราทำบัตร ATM ครั้งแรกเราก็ต้องเลือกแล้วว่าจะใช้ VISA หรือ MasterCard ไหนจะตอนที่เราเริ่มทำงานมีรายได้แล้วอยากทำบัตรเครดิตครั้งแรกก็ต้องเลือกอีกเช่นกัน..

..บริษัท VISA เกิดขึ้นมาจากความวุ่นวายของแบงค์ออฟอเมริกา อยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นบัตรเครดิตครั้งแรกในชื่อของ อเมริการ์ด ที่ให้บริการสินเชื่อเงินสดทันใจแทนที่ดราฟเช็คเงินสดในสมัยก่อน ถ้าเราจำกันได้เวลาดูหนังฮอลลีวูดที่เก่าหรือย้อนยุคไปหน่อยซัก 40-60 ปีก่อน จะเห็นว่าตัวละครจะเขียนเช็คแทนการจ่ายด้วยเงินกัน นั่นแหละคือความยุ่งยากที่ก่อกำเนิดบัตรเครดิตเป็นครั้งแรกขึ้น..

..แต่หลังจากเกิดขึ้นก็กลับก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายตามมามากมาย

เพราะระบบที่ไม่ดีพอที่จะรองรับการเติบโตมหาศาลได้ และสมัยก่อนการจ่ายเงินยังไม่ทันใจในเสี้ยววินาทีที่แค่เซ็นลงบนสลิปแล้วจบ เพราะทางร้านค้าจะต้องรับบัตรแล้วก็โทรตรวจสอบไปยังธนาคารผู้ออกบัตร ส่วนธนาคารผู้ออกบัตรก็จะบอกให้ร้านค้ารอซักครู่แล้วทางธนาคารผู้ออกบัตรก็จะโทรไปยังสำนักงานใหญ่แบงค์ออฟอเมริกาเพื่อถามว่าจะอนุมัติหรือไม่ ถ้าวงเงินสูงก็ต้องใช้เวลารอการอนุมัติอีกราวๆสองอาทิตย์ และจากการโทรกันหลายทอดก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายสะสมมหาศาลจากค่าโทรศัพท์ทางไกลมากมายหลายร้อยล้านดอลลาห์ในสมัยนั้น..

..Dee Hock หรือ ดี ฮ็อค ผู้ที่ทำงานเป็นตัวแทนด้านบัตรเครดิตของธนาคารตัวเองอยู่ในตอนนั้นพบปัญหาและพยายามหาทางออกให้ทุกคน จนกลายเป็นจุดเกิดไอเดียขึ้นว่าปัญหาเกิดเพราะองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ต่อให้ใหญ่มากที่สุดในประเทศก็ไม่สามารถควบคุมหรือแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ ทางออกหนึ่งเดียวในตอนนั้นคือต้องปล่อยให้องค์กรเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติตามหลักชีววิทยาหรือเป็นอิสระที่จะเติบโตโดยไร้การควบคุมจากส่วนกลางนั่นเอง..

..แล้ว ดี ฮ็อค ได้ไอเดียนี้มาจากไหนกันล่ะ นั่นก็เพราะว่าเค้าเป็นชอบสังเกตุอยู่กับธรรมชาติในบ้านนอกมาตั้งแต่เด็ก เค้าเป็นคนช่างคิดสงสัยช่างถามและหาคำตอบ เป็นคนรักการอ่านหนังสือมากมายจนพ่อแม่ต้องบอกให้ลูกหยุดอ่านเสียบ้าง(นิสัยเดียวกับ Warren Buffett เลยอันนี้) เค้าสังเกตุว่าธรรมชาติไม่เคยโดนควบคุมและแต่ละส่วนก็มีอิสระของมันที่จะเติบโตจึงทำให้มันอยู่รอดได้มาถึงทุกวันนี้ เหมือนกันร่างกายมนุษย์แต่ละส่วนล้วนทำงานเชื่อมโยงกันแต่ก็ปราศจากศูนย์กลางควบคุมทั้งหมดอย่างแท้จริง..

..จากจุดนั้นก่อให้เกิดบริษัทที่ไม่มีใครเป็นผู้ควบคุมอย่างแท้จริง ที่ทำหน้าที่ศูนย์กลางด้านการไหลผ่านข้อมูลการเงินที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้บัตรเครดิตอย่างแท้จริง ก่อนจะมาเป็น VISA นั้นผ่านการใช้ชื่อว่า Ibanco และก็ต้องผ่านการใช้ชื่อธนาคารเจ้าของผู้ออกบัตรมาก่อนหลายขั้นตอนกว่าจะถึงการรวมชื่อเป็นหนึ่งเดียวที่เราคุ้นปากกันอย่างทุกวันนี้..

..หลังจาก Visa ประสบความสำเร็จเค้าก็ลาออกจากการเป็นประธานผู้บริหารองค์กรนี้ไปเป็นชาวไร่อย่างแท้จริง

ผู้ใช้แรงงานแลกเหงื่อแห่งความสุข อ่านหนังสือเคล้าเสียงนก และออกจากการเป็นคนสำคัญของกลุ่มคน 12 ปีจากชีวิตที่เรียบง่ายผ่านไปเค้าถูกดึงให้กลับเข้ามาสู่โลกอีกครั้ง และครั้งนี้เค้าหวังว่ามันจะทำให้ฝันของเค้าที่ต้องการเห็นองค์กรการบริหารแบบบนลงล่างจากยุคอุตสหกรรมสิ้นสุดลงเสียที..

..องค์กรในสมัยหน้าจะเป็นองค์กรที่กระจายตัวออกไปเหมือนเซลล์แต่ละหน่วยที่ประกอบเป็นชิ้นส่วนอวัยวะแล้วก็ประกอบเป็นหนึ่งหน่วยชีวิตที่รวมกันแล้วได้เป็นชีวมลฑล และกลายเป็นโลกในน้อยที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักวาลอันไพศาล ไร้ซึ่งการรวมศูนย์กลางอำนาจการตัดสินใจใดๆอีกต่อไปเพราะทุกคนต่างมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของตัวเองร่วมกัน..

One From Many: VISA and the Rise of Chaordic Organization

อ่านเมื่อปี 2016

Dee Hock เขียน

ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ แปล

สำนักพิมพ์ Openworlds

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/