การเงินคนจน The Poor and Their Money

หนังสือการเงินคนจนที่แปลมาจาก The Poor and Their Money เล่มนี้ได้รับการสนับสนุนให้แปลเป็นภาษาไทยโดยบริษัทเงินติดล้อ ที่ต้องการให้คนที่ได้รับรู้และเข้าใจวิถีชีวิตคนจนอย่างลึกซึ้งกว่าความเชื่อมเดิมๆ ที่ว่า คนจนนั้นจนเพราะเก็บเงินไม่เป็น หรือเพราะบริหารเงินไม่เป็นถึงจน เพราะในความเป็นจริงแล้วคนจนนั้นบริหารเงินเก่งไม่แพ้คนชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูง ซึ่งสาเหตุหลักสำคัญก็เพราะคนจนมีเงินอยู่น้อยนิด ดังนั้นยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใช้สมองว่าจะทำอย่างไรกับเงินนั้นให้เกิดค่าสูงสุด ถ้าพวกเขาออมเงินเก่ง บริหารเงินเป็น แล้วเหตุใดพวกเขาถึงยังคงจนอยู่ล่ะ? ที่คนจนยังจนอยู่ส่วนหนึ่งก็เพราะสภาพแวดล้อมที่คนจนอยู่ไม่เอื้อต่อการออมเลย ลองคิดดูซิว่าถ้าคุณต้องอยู่บ้านกระต๊อบเพิงสังกะสีที่อาจจะถูกมองลอดเข้ามาจากภายนอกเมื่อไหร่ก็ได้ คุณคิดว่าจะเอาเงินเก็บไว้ตรงไหนในบ้านถึงจะปลอดภัยได้พอจริงมั้ยครับ ด้วยความที่บ้านหรือที่อยู่อาศัยของคนจนไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิดเหมือนบ้านชนชั้นกลางคนทั่วไป กำแพงไม่ได้หนาพอจะทนทานต่อการบุกรื้อค้นเข้ามาได้ ทำให้การจะเอาเงินเก็บไว้ในลิ้นชักในบ้านพร้อมล็อคกุญแจก็จะยิ่งเป็นการเสี่ยงต่อคนนอกที่อาจจะเข้ามา เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าในนี้น่าจะมีของสำคัญมากๆ อยู่ก็เป็นได้ หรือดีไม่ดีเอาเงินสอดไว้ใต้หมอนมุ้งก็อาจจะถูกคนในบ้านนี่แหละครับเข้ามาหยิบจับแล้วค้นเจอ จากนั้นก็เผลอไม่ได้ที่จะเอาเงินไปใช้กับเรื่องอื่นที่อาจจะจำเป็นชั่วขณะในตอนนั้น จนพลาดโอกาสที่จะเปลี่ยนเงินออมให้กลายเป็นเงินก้อนที่จะทำให้คนจนคนนั้นหลุดออกจากกับดักความจนได้ครับ แล้วนั่นก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมคนจนจำนวนไม่น้อยมักเลือกออมเงินผ่านทอง เพราะพวกเขารู้สึกว่าการเปลี่ยนเงินให้อยู่ในรูปทองนั้นปลอดภัยกว่า…

เศรษฐศาสตร์ความจน Poor Economics

หนังสือเศรษฐศาสตร์ความจน หรือ Poor Economics ที่สนับสนุนการแปลโดยเงินติดล้อเล่มนี้ทำให้เข้าใจว่าเหตุใดคนจนถึงจนอย่างลึกซึ้งขึ้น เพราะผู้เขียนเข้าไปคลุกคลีใช้ชีวิตกับคนจนหลายทวีปทั่วโลกเป็นเวลานานนับสิบปี ทำให้เข้าถึงบริบทของความจนด้วยว่าเหตุใดทำไมถึงยังจน ทำไมถึงไม่สามารถหลุดพ้นกับดักความยากจนแล้วขยับขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางได้ หนังสือเล่มนี้บอกว่าคนส่วนใหญ่เห็นใจคนจนกันทั้งนั้น แล้วเราต่างก็พยายามช่วยแก้ปัญหาความยากจนไม่ว่าจะผ่านโครงการกำจัดความจน เป็นศัตรูกับความจน หรือประกาศสงครามกับความจนต่างๆ นาๆ แต่หนังสือเล่มนี้ก็ทำให้รู้ว่าถ้าเราแก้ปัญหาโดยไม่เข้าใจบริบทรอบข้างอย่างรอบด้าน และไม่เข้าใจต้นตอของความจนว่าทำไมโลกเราถึงยังมีคนจนอยู่มากมายนับพันล้านคน ทั้งๆ ที่โลกใบนี้ก็มีทรัพยากรเหลือมากมาย เรามีอาหารล้นเหลือที่ต้องทิ้งมหาศาล แล้วเหตุใดคนจนถึงยังไม่หายไปจากโลกนี้เสียที ดังนั้นถ้าเราพยายามแก้ปัญหาโดยไม่เข้าใจปัญหา ก็เท่ากับว่าเรากำลังแก้ปัญหาอย่างผิดจุด ทำให้แก้เท่าไหร่ความจนก็ไม่หายไป ดังนั้นต้องขอบคุณหนังสือเล่มนี้ที่ช่วยเปิดโลกความจนให้คนอย่างผมได้เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงยังจนแต่กับบางคนกลับมีล้นเหลือเสียเหลือเกิน หนังสือเศรษฐศาสตร์ความจนเล่มนี้มี 10 บท ผมขอไล่เรียงสรุปทีละบทแบบสั้นๆ ไปให้คุณได้เข้าใจบริบทความจนไปพร้อมกันนะครับ 1. อย่าพูดถึงคนจนนับล้าน…

The Inevitable โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต

สรุปหนังสือ The Inevitable โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต 12 นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตคนทั้งโลก เขียนโดย Kevin Kelly เล่มนี้เล่าภาพรวมของเทคโนโลยีรอบตัวที่จะส่งผลต่อชีวิตเราอย่างคาดไม่ถึง หลายอย่างเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เรากลับไม่เคยคิดถึงแง่มุมเดียวกับที่ Kevin Kelly มาก่อน หรืออาจจะคิดไปไม่ถึงอย่างที่ผู้เขียนจินตนาการลึกลงไปว่าเทคโนโลยีหลายสิ่งในมือจะส่งผลต่อชีวิตเราอย่างไรในศตวรรษที่ 21 ครับ ดังนั้นถ้าใครอยากรู้ว่าอนาคตในศตวรรษที่ 21 จะเป็นอย่างไร อยากรู้ว่าเราจะมีวิถีชีวิตแบบไหนจากเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ ผมแนะนำหนังสือ The Inevitable โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต 12 พลังนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนวิถีชิวตคนทั้งโลกเล่มนี้ครับ ซึ่งพื้นฐานของ 12…

Global Change 6 วรากรณ์ สามโกเศศ

สรุปหนังสือ GLOBAL CHANGE เล่มที่ 6 ในฐานะที่ผมเป็นแฟนตัวยงของอาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ ดังนั้นจึงไม่พลาดที่จะตามหนังสืออาจารย์ทุกเล่มเท่าที่หาอ่านได้แน่นอน หนังสือ GLOBAL CHANGE เล่มที่ 6 นี้ทำให้คุณได้รู้เท่าทันโลก ทันกระแส ทันเทรนด์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ไม่ควรพลาด ในวันที่เต็มไปด้วยข่าวสารมากมายล้นหน้าจอการได้อ่านหนังสือ GLOBAL CHANGE เล่มนี้สำหรับผมก็เพียงพอที่จะเห็นภาพกว้าง เข้าใจภาพรวม พอจะเห็นทิศทางการเป็นไปของโลกในวันข้างหน้า บอกตรงๆ ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นอะไรที่สรุปยากมาก เพราะลำพังเนื้อหาในเล่มก็เหมือนสรุปแต่ประเด็นสำคัญๆ มาหมดแล้ว ดังนั้นผมขอเลือกหยิบบางส่วนในเล่มมาเล่าเพื่อเรียกน้ำย่อยให้คนที่ไม่เคยได้อ่านหนังสือชุด GLOBAL CHANGE…

โลกสามศูนย์ A WORLD OF THREE ZEROS

สรุปหนังสือ โลกสามศูนย์ A World of Three Zeros ที่เขียนโดย Muhammad Yunus เล่มนี้เป็นหนังสืออีกเล่มสำหรับคนที่เคยอ่าน สร้างโลกไร้จน ไม่ควรพลาด เพราะหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเข้าใจถึงสถานการณ์ล่าสุดของธุรกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise จากแนวคิดของ Yunus เมื่อหลายปีก่อนว่าในวันนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว และเป้าหมายต่อไปของธุรกิจเพื่อสังคมคืออะไร เกี่ยวอะไรกับโลกสามศูนย์ แล้วศูนย์แต่ละตัวหมายถึงอะไร คำตอบนั้นเรียบง่ายแต่ในขณะเดียวกันก็ลึกซึ้งมากครับ First Zero ศูนย์ที่หนึ่ง ความยากจนเป็นศูนย์ ความยากจนเป็นศูนย์หมายความว่าแท้จริงแล้วโลกเราไม่จำเป็นต้องมีใครตกอยู่ในตำแหน่งคนจนในทุกสังคมบนโลกเลย เพราะในความเป็นจริงแล้วโลกเรามีเงินทองและทรัพยากรมากมายมหาศาล เพียงแต่ปัญหาหลักที่ทำให้โลกเรายังคงมีคนจนอยู่ก็คือการกระจายทรัพยากรที่ไม่ดีพอ…

Business as Unusual สร้างความสำเร็จที่แตกต่าง ภายใต้โลกที่รอการเติมเต็ม

สรุปหนังสือ Business as Unusual เล่มนี้ถ้าให้สรุปสั้นๆ ก็คือแนวทางการสร้างแบรนด์ ในยุค 5.0 ในวันที่สินค้าหรือบริการแทบไม่เหลืออะไรให้ต่าง จนต้องใช้ความดีของการทำธุรกิจจากแต่ละแบรนด์มาเป็นเกณฑ์ใหม่ในการสร้างความต่างขึ้นมา ดังนั้นถ้าธุรกิจคุณใหญ่โตไปจนถึงขึ้นสุด แบบว่าไม่รู้ว่าจะ Growth ไปทางไหนต่อ หนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นแสงสว่างให้คุณเห็นทางออกว่าจะโตไปต่อได้อย่างไร ขอเกริ่นก่อนเข้าสรุป หนังสือเล่มนี้ผมได้รับจากสำนักพิมพ์อัมรินทร์ในวันที่ได้ไปร่วมงานสัมมนา World Marketing Summit 2019 ที่ผ่านมา ที่มีปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกอย่าง Philip Kotler มาพูดด้วย (โคตรตื่นเต้นตอนที่ได้เจอตัวจริงเสียงจริง) โดยทางสำนักพิมพ์อัมรินทร์ใจดีมากที่ได้ให้บัตรเข้าร่วมงานผมมาหนึ่งใบ แถมยังให้หนังสือดีๆ ผมมาอ่านอีก…

WHY WE POST ส่องวัฒนธรรมโซเชียลมีเดียผ่านมานุษยวิทยาดิจิทัล

Why We Post เล่มนี้แปลมาจากหนังสือ How the World Changed Social Media จากนักมานุษยวิทยาทั้ง 9 คนที่ลงพื้นที่จริงเพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของผู้คนจริงๆทั่วโลก และการลงพื้นที่เก็บข้อมูลของพวกเขาทั้ง 9 ก็ไม่ได้ไปแค่วันสองวัน หรือสัปดาห์สองสัปดาห์ แต่เป็นการลงไปขลุกอยู่กับผู้คนจริงๆ ชาวบ้านจริงๆ เป็นเวลานานกว่า 15 เดือนทีเดียวครับ ดังนั้นข้อมูลที่ได้มาเลยเป็นข้อมูลเชิงลึก ลึกขนาดว่าแลกโทรศัพท์กันดูเป็นประจำ ลึกถึงขั้นที่ว่าไปกินอยู่หลับนอนกับเขา ไปเข้าวัดไปงานแต่งงานของชาวบ้าน เรียกได้ว่าเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคนในสังคมนั้น ที่ต้องทำขนาดนี้ก็เพราะการที่นักมานุษยวิทยาจะได้ข้อมูลจริงๆมาก็คือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกลุ่มคนที่เขาต้องการสังเกตจริงๆครับ ถ้าให้สรุปสั้นๆผมก็สรุปได้ว่า Social…

Factfulness จริงๆแล้วโลกดีขึ้นทุกวัน

Factfulness หนังสือเล่มนี้ทำให้เข้าใจความจริงของโลกอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเค้าบอกว่าคนส่วนใหญ่แม้แต่เหล่าคนที่ฉลาดที่สุด รวยที่สุด หรืออยู่ในประเทศที่เจริญที่สุดของโลก ก็ยังมีความรู้ความเข้าใจที่ผิดไปต่อโลกมาก มากขนาดไหนหรอครับ ก็มากขนาดที่ว่าจากคำถาม 13 ข้อ ให้ควายทายยังถูกมากกว่าเลย ผมมีคำถามทั้ง 13 ข้อที่ว่าให้คุณทาย ลองดูนะครับว่าคุณจะตอบถูกกี่ข้อในประเทศทั้งหมดในโลกที่มีรายได้ทุกวันนี้ มีเด็กผู้หญิงจำนวนเท่าไหร่ที่จบการศึกษาระดับประถม 1.ในประเทศทั้งหมดในโลกที่มีรายได้น้อยทุกวันนี้ มีเด็กผู้หญิงจำนวนเท่าไหร่ที่จบการศึกษาระดับประถม A. ร้อยละ 20 B. ร้อยละ 40 C. ร้อยละ 60 2. ประชากรส่วนใหญ่ของโลกอาศัยอยู่ใน A.…

Futuration เปลี่ยนปัจจุบันทันอนาคต

หนังสือเล่มนี้สรุปภาพอนาคตจากสิ่งที่เป็นในวันนี้ บวกกับการคาดการณ์จากความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้เขียน ดร. สันติธาร เสถียรไทย ชายผู้ใช้คำว่า “อิจฉริยะ” ก็น่าจะน้อยไป แต่ขอโทษด้วยเพราะผมไม่สามารถหาคำไหนที่ดีกว่านี้ได้ในตอนนี้ ถ้าใครสนใจใคร่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้จะเกิดอะไรขึ้น ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ และถ้าใครสนใจว่าอนาคตที่ไกลออกไปจะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น รวมถึงจะมีอะไรบ้างที่จะดับสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่หลักธรรมของพุทธ แต่เป็นสัจธรรมของจักรวาล ขนาดดาวฤกษ์ดวงใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ยังดับสูญสลายหายไปเป็นหลุมดำได้ นับประสาอะไรกับเศษเสี้ยวฝุ่นธุลีเล็กๆเช่นมนุษย์เรา ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ ขอผมเล่าให้คุณฟังหน่อยว่า ดร. สันติธาร เสถียรไทย คนนี้เป็นใคร ทำไมเค้าถึงคาดการณ์อนาคตได้น่าสนใจขนาดนั้นครับ…

GLOBAL CHANGE 5

ถ้าใครอยากจะเข้าใจภาพรวมของโลกในวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง โลกกำลังจะไปทางไหน หรือแม้แต่ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารล้นเกินจนไม่รู้ว่าควรต้องรู้อะไร หนังสือเล่มนี้คือคำตอบครับ GLOBAL CHANGE ของอาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ มาถึงเล่มที่ 5 แล้ว ถ้าใครที่จะมาเริ่มจากเล่ม 5 ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เข้าใจ เพราะอาจารย์เขียนเป็นบทสั้นๆไม่กี่หน้าที่อ่านจบในตัวเองได้ ดังนั้นถ้าอ่านเล่ม 5 แล้วชอบ จะย้อนกลับไปหาเล่ม 1-4 หรือผลงานเก่ากว่านี้ของอาจารย์มาอ่านก็ได้ครับ เพราะผมเป็นคนนึงที่รู้สึกว่าเนื้อหาที่อาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ เขียนไม่เคยเก่าตามกาลเวลา เพราะแก่นแต่ละเรื่องนั้นแข็งแรงเสียจริง หนังสือเล่มนี้อัพเดทความรู้หลายสิ่งที่ทั้งจำเป็นในวันนี้ และควรรู้ล่วงหน้าก่อนวันพรุ่งนี้จะมาถึง ที่สำคัญคือหลายช่วงหลายตอนก็บอกให้เรารู้ว่ารู้อะไรไม่เท่ารู้เท่าทันตัวเอง เพราะอย่างที่บอกไปครับว่าในวันนี้เราเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย เต็มไปด้วยความรู้มากมายอยู่บนอินเทอร์เน็ต…