Stats & Curiosities from Harvard Business Review

เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่น่าสนใจและอ่านง่ายอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะอ่านแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จบแล้ว แต่กลับได้สถิติ ตัวเลข จากการสำรวจที่หลากหลาย จนทำให้ใครก็ตามที่กำลังหาข้อมูลสนับสนุนการทำพรีเซนเทชั่นสามารถเอาไปใช้ได้แบบน่าเชื่อถือ (ก็มาจาก Havard Business Review นิ จะมีซักกี่คนที่จะไม่เชื่อกันล่ะ)

ไม่ต้องเกริ่นเยอะกว่านี้แล้ว ผมขอเอาบางสถิติในเล่มที่ผมคิดว่าน่าสนใจด้วยความแปลกใหม่และไม่น่าเชื่อเอามาเล่าสรุปสู่กันฟังแล้วกันนะครับ

สถิติที่ 4 ผู้คนไม่ชอบธนบัตรเก่า และอยากใช้มันให้เร็วที่สุด

คนที่ได้รับธนบัตรดอลลาร์ใบเก่ามีโอกาสจะนำธนบัตรไปใช้มากกว่าคนที่ได้รับธนบัตรใบใหม่ถึง 82% เพราะผู้คนรู้สึกขยะแขยงธนบัตรที่มีสภาพยับเยินและอยากกำจัดไปให้พ้นๆ เพราะรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยเชื้อโรค…

ดังนั้นถ้ารัฐบาลอยากให้คนออมเงินเยอะๆช่วงไหน ก็พยายามแจกจ่ายธนบัตรใบใหม่ๆสวยๆออกไปนะครับ

สถิติที่ 32 ผู้ขับขี่รถไฮบริดส่วนใหญ่ ไม่หยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย

ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ขับขี่รถยนต์รุ่นพริอุสไม่ยอมหยุดให้คนข้ามถนน จากการทดลองหลายครั้งบริเวณทางม้าลายแถบอ่าวซานฟรานซิสโก มีแนวโน้มว่าเพราะผู้ขับขี่รถยนต์ไฮบริดเชื่อว่าตัวเองกำลังช่วยโลก จึงอาจรู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำตัวไร้น้ำใจบ้าง…เพราะรู้สึกตัวว่าทำดีไปบ้างแล้วนี่เองเลยจะทำตัวแย่ๆบ้างก็ไม่ผิด

คนเรานี่หาทางปรับสมดุลกับทุกเรื่องจริงๆ

สถิติที่ 42 การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม มอบความสุขให้พอๆกับการได้ขึ้นเงินเดือนก้อนโต

การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมอย่างสม่ำเสมอสามารถเพิ่มความสุขให้เทียบเท่ากับการได้ขึ้นเงินเดือน “สองเท่า” เลยทีเดียว…

ดังนั้นถ้าใครรู้ตัวว่าจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน ก็ลองลางานไปทำกิจกรรมทางสังคมดูนะครับ หรือถ้าบริษัทไหนหัวหมอหน่อยก็อาจจะใช้วิธีนี้แทนการขึ้นเงินเดือนพนักงานดูนะครับ

สถิติที่ 83 คนที่เกิดในอเมริกา(เจ้าของประเทศ)มีแนวโน้มจะเริ่มต้นธุรกิจน้อยกว่าผู้อพยพอยู่ครึ่งหนึ่ง

ในช่วงปี 1966-2011 พบว่าคนผิวขาว(เจ้าของประเทศ)นั้นเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสัดส่วนการเริ่มต้นธุรกิจน้อยลง สวนทางกับคนเชื้อสายลาติน(ผู้อพยพ)ที่พุ่งขึ้นจาก 10% เป็น 22.9% และขอกลุ่มชาวเอเซียก็พุ่งขึ้นเพิ่มเป็น 5.3%…

ถ้าคิดวิเคราะห์ตามดูจะพบว่าสาเหตุน่าจะมาจากการเป็น “เจ้าของประเทศ” ทั้งในความรู้สึกหรือผลประโยชน์จากสวัสดิการรัฐที่ได้นั้นอาจทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ต้องดิ้นรนมากนัก เมื่อเทียบกับผู้อพยพที่ไม่มีโอกาสอะไรเลย หางานก็ยาก ก็เลยต้องฟันฝ่าสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา

สถิติที่ 140 เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ พวกเขาก็จะตัดสินใจซื้อ

เมื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการทดลอง 2 กลุ่มได้ซื้อแก้วกาแฟลดราคา กลุ่มที่บอกว่าเป็นผู้โชคดีที่ถูกสุ่มเลือกให้ได้รับส่วนลดมีแนวโน้มที่จะซื้อมากกว่ากลุ่มที่เชื่อว่าทุกคนได้ส่วนลดเหมือนกันหมดถึง 3 เท่า

เหตุผลอธิบายคือ การได้รับสิทธิ “พิเศษ” เป็นเรื่องที่น่าดึงดูดใจ เพราะคนเราจะรู้สึกดีกับตัวเองเมื่อได้สัมผัสถึงความโดดเด่นหรือแตกต่างจากคนอื่น…ดังนั้นถ้าใครจะทำโปรโมชั่นอะไร ต้องบอกไปด้วยว่า ส่วนลดนี้ไม่ได้มีให้กับทุกคน เพราะว่าคุณหน้าตาดีถึงได้นะครับ

สถิติที่ 146 ถ้าโฆษณาของคุณมีช้อน ให้วางมันไว้ทางขวา

เพราะมีแนวโน้มว่าคนที่เห็นโฆษณาโยเกิร์ตที่มีช้อนวางอยู่ทางขวาในภาพจะซื้อสินค้ามากกว่าภาพโฆษณาที่มีช้อนวางอยู่ทางด้านซ้ายถึง 29%

สาเหตุเพราะภาพช้อนที่วางอยู่ทางขวาทำให้คนเราจินตนาการต่อถึงการกินและรสชาติที่จะตามมาได้ง่ายกว่าภาพช้อนทางซ้าย เพราะคนส่วนใหญ่ถนัดขวา…แต่ถ้าบ้านไหนเมืองไหนถนัดซ้าย ก็ต้องทำโฆษณาเอาช้อนวางไว้ทางซ้ายแทนนะครับ

ส่วนหัวข้ออื่นๆที่ผมเห็นว่าน่าสนใจแต่จะไม่ได้เล่าลงรายละเอียดแบบ 6 หัวข้อด้านบนก็อย่าง

– พนักงานเสริฟหญิงที่ใส่เสื้อสีแดงจะได้รับทิปจากลูกค้าผู้ชายมากกว่าเวลาใส่เสื้อสีอื่น

– เมื่อคนขับรถเมล์ถูกด่าจะทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงกว่า 60% กำลังคิดว่าถ้าอยากให้สาย 8 ขับรถดีไม่เกิดอุบัติเหตุเราอาจจะต้องช่วยกันด่าคนขับด้วยความหวังดีกันนะครับ

– การทำงานที่บ้านดีต่องานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะจะทำให้ได้งานมากขึ้นราวๆ 11-20% แฮ่ม…ขอทำงานที่บ้านได้มั้ยครับนาย

– เมื่อ CEO ได้ลูกสาว พนักงานก็จะมีโอกาสที่จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 1.1% แต่ถ้าได้ลูกชายก็จะลดลงนะจ้ะ

– เมื่อคนแปลกหน้ามาถูกตัวเราเวลาช็อปปิ้งจะทำให้เราไม่อยากช็อปปิ้ง ร้านค้าที่ดีควรเว้นทางเดินกว้างๆไว้นะ

– การเรียนดนตรีเป็นเวลา 20 วันของเด็กก่อนวัยเรียน ทำให้เรียนรู้ด้านภาษาดีขึ้น 20% โดยมีเด็กกว่า 90% เห็นผลชัดจน

– คนตายมากขึ้นเมื่อโบนัสออก

– พนักงานส่วนใหญ่มีความสุขเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับการฝึกอบรมใหม่ๆ

– กลิ่น Peppermint กระตุ้นให้เราทำงานได้ดีขึ้น

ยังมีอีกหลายสถิติที่น่าสนใจ ใครมองหาหนังสืออ่านเล่น อ่านง่าย ได้ความรู้ ต้องเล่มนี้เลยครับ

อ่านเมื่อปี 2017

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/