ในแสงแดดมีดวงดาว ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 24

มีคนเปรยว่า “ความฝัน” เป็นเหมือน “ดาวเหนือ” ของนักเดินทาง และถ้าเปรียบ “ดวงดาว” บนท้องฟ้าเป็นดั่ง “ความฝัน” ของเรา ยามค่ำคืนที่อากาศเย็นและสงบ เราจะเห็น “ความฝัน” ของเราชัดเจนบนท้องฟ้า แต่พอกลางวันที่แดดร้อนที่เรามองไม่เห็นดวงดาว เรากลับลืมไปว่าบนฟ้าเดียวกันนั้นยังมีดวงดาวที่เป็นดั่งความฝันเราอยู่ที่เดิมเสมอ เพียงแค่เรามองไม่เห็นชั่วคราว ใช่ว่าจะไม่มีอีกแล้วตลอดไป เหมือนกับเวลาที่เราเจออุปสรรคเข้ามาในชีวิต เรามักลืมความฝันของเราไปเสมือนว่าไม่มีทางเป็นจริง แต่พอปัญหาหายไปทุกอย่างราบรื่น ความฝันนั้นก็กลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง คุณปรีชา เจ้าของแบรนด์แฟชั่น FLYNOW และเจ้าของ FN OUTLET ที่โด่งดังบอกว่า คนส่วนใหญ่มักเป็น…

ความเชื่อคือเข็มทิศ ชีวิตเป็นของเรา ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 22

เป็นการไล่อ่านหนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจย้อนหลังของผมหลังจากที่ตามเก็บมาครบทุกเล่มจากงานหนังสือต้นปี 2561 ที่ผ่านมา แม้จะผ่านมา 22 เล่มแล้วแต่ก็ยังมีเกร็ดความรู้เด็ดๆทั้งในด้านธุรกิจ จนถึงการใช้ชีวิตให้ตามเก็บได้เสมอครับ อย่างเรื่องของ สมชาย เหล่าสายเชื้อ จากเด็กจบ ป.4 สู่ดีลเลอร์โตโยต้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย จนมีสินทรัพย์ร่วม20,000 ล้านบาท สมชายคนนี้มีคติความเชื่อในการใช้ชีวิตว่า “คิดเก่ง” ไม่เท่า “ก้าวก่อน”“ก้าวก่อน” สู้ “ก้าวยาว” ไม่ได้“ก้าวยาว” สู้ “ก้าวเร็ว” ไม่ได้“ก้าวเร็ว” เท่าไหร่ก็ไม่เท่า “การวิ่ง”แต่ “วิ่ง” เร็วแค่ไหนก็สู้คนที่ “เดินไม่หยุด”…

เอ๊ะ! เจแปน

Exclusive Scoop on Japanese โดย ณัฐพงศ์ ไชยวานิชย์ผล เป็นหนึ่งในนักเขียนอีกคนที่ผมกลายเป็นแฟนตัวยงได้ยังไงก็ไม่รู้แฮะ พอนับดูหนังสือของผู้เขียนคนนี้ที่บ้านก็พบว่ามีถึง 4 เล่มไปแล้ว ทำไมผมถึงชอบนักเขียนคนนี้ล่ะ.. ..อาจเพราะเค้าถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่แบบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่หาได้ทั่วไปตามแผงหนังสือกับหน้าปกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราเห็นกันจนเฝือล่ะมั้ง ผมเองอยากรู้เรื่องราวของคนในแต่ละที่มากกว่าสถานที่ๆน่าไปยิ่งกว่า..เพราะอะไรน่ะหรอ.. ..เพราะผมคิดว่าเวลาผมอ่านประสบการณ์ของเค้าก็เหมือนกับผมได้เข้าใจมุมมองความจริงในชีวิตจริงมากขึ้น นึกย้อนไปครั้งล่าสุดที่ผมไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมกลับเลือกเดินไปยังที่ต่างๆมากกว่าจะนั่งรถบัสหรือรถไฟอีกด้วยซ้ำถ้าผมสามารถเดินได้ ครั้งนึงตอนอยู่ในเกียวโตผมเดินกว่าครึ่งชั่วโมงจากวัดหนึ่งไปวัดหนึ่งเพื่อสำรวจดูบ้านเมืองของเค้าจริงๆ ดูว่าเค้าจัดหน้าบ้านกันยังไง จอดรถกันยังไง ระเบียงบ้านเค้าเป็นยังไง ตากผ้ากันยังไง มันเหมือนผมได้เห็นชีวิตจริงมากกว่าชีวิตปรุงแต่งเพื่อนักท่องเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ผมว่าเรื่องพวกนี้มันสุดนะ กลับมาที่หนังสือ เค้าคนนี้ถ่ายทอดมากมายหลายเรื่อง แต่หนึ่งเรื่องที่ผมชอบและติดใจมากก็คือเรื่อง “โอบะซัง” หรือมนุษย์ป้าฉบับญี่ปุ่นที่ผู้เขียนให้คำนิยามว่า…

เอ๊ะ!! เจป๊อป

เป็นหนังสือเจาะลึกเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นสารพัดกลุ่มจากประสบการณ์นานปีที่แบกเป้ไปเที่ยว แล้วติดใจจนไปเรียน และสุดท้ายได้ภรรยาญี่ปุ่นกลับมา (อันนี้แหละนะที่สุดของความน่าอิจฉาสำหรับชายไทยทั้งหลาย) นี่เป็นเล่มที่ 4 ของนักเขียนคนนี้ที่ผมซื้อมาอ่าน ที่ชอบขนาดนี้เพราะอะไร เพราะความง่ายในการอ่าน ภาษาชาวบ้านที่เล่าง่าย ไม่ต้องประดิษฐ์ปั้นคำอะไรให้วุ่นวาย อ่านง่ายเหมือนนั่งคุยกับเพื่อนไปจิบเบียร์ไปนั่นเอง..แล้วหนังสือเล่มนี้เจาะลึกเกี่ยวกับกลุ่มคนในญี่ปุ่นยังไง? ..ในเล่มเขียนถึงคน 13 กลุ่มดังนี้.. นักเขียนมังงะ..ผู้วาดการ์ตูนทั้งหลายทาเลนโตะ..ตัวประกอบในรายการทีวีที่มีประจำนางแบบกราเวียร์ไอดอล..นิตยสารชุดว่ายน้ำของสะสมหนุ่มน้อยใหญ่เมื่อหลายปีก่อนเด็กประถม..เพิ่งจะรู้ว่ากระเป๋านักเรียนสะพายหลังญี่ปุ่นนี่ผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างดี จนต้องมีมาตรฐานระดับชาติเด็กมัธยม..ทุ่มเทตามความฝันก่อนเข้าสู่โลกความจริง “เราจะไปโคชิเอ็ง” คุ้นมั้ยประโยคนี้นักศึกษามหาวิทยาลัย..ชิลครึ่งทางแรกและเฟ้นหางานครึ่งทางหลังไม่ได้ลำบากเท่ามัธยมปลายผู้ประกาศข่าวสาว..อาชีพในฝันของสาวญี่ปุ่นแม่บ้าน..ผู้เป็นกองหนุนสำคัญที่ทำให้พ่อบ้านออกไปทำงานนอกบ้านได้อย่างเต็มที่นักการเมือง..ก็ไม่ต่างจากบ้านเรา ที่เห็นต้องลาออกต้องฆ่าตัวตายเพราะโดนกดดันจากข่าวและสังคม..แต่บ้านเราหน้าด้านกว่าเยอะเรื่องนี้เหล่าคนในเครื่องแบบ..ตำรวจที่เป็นเสมือนเพื่อนบ้านจริงๆของญี่ปุ่น กระจายตัวอยู่ตามป้อมยามเล็กๆทั่วเมือง หาง่าย ช่วยเหลือได้จริงๆนักแสดงคาบูกิ..อาชีพศักดิ์สิทธิ์ของนักแสดงที่สืบทอดมาร่วม 400 กว่าปี กว่าจะเป็นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องเข้าค่ายฝึกอาชีพตั้งแต่เล็กผู้สูงอายุ..ที่จะกลายเป็นประชากรกลุ่มหลักในประเทศญี่ปุ่นเร็วๆนี้ เค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีและหลายคนเลือกมาอยู่เมืองไทยเพราะอะไรและดาราเอวี..ชายไทยหลายคนคงคุ้นเคย เพิ่งรู้ว่าดาราเอวีเองก็มีแบ่งเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่โนเนมยันระดับซุปเปอร์สตาร์ และเข้ามาอยู่วงการบันเทิงยาวๆได้ด้วย…

ช้า ให้ ชนะ

ยิ่งเร่งรีบเท่าไหร่ ยิ่งต้องเดินให้ช้าลงเท่านั้น.. ..ในชีวิตที่มีแต่ความรีบเร่งให้บรรลุเป้าหมายหรือความต้องการในชีวิต เราต่างลืมศิลปะในการใช้ชีวิตอย่างความใส่ใจกับสิ่งดีๆรอบตัวต่างๆมากมาย.. ..คนส่วนใหญ่มองหาทางลัด แต่จากประสบการณ์ผู้มากประสบการณ์และความสำเร็จอย่างผู้เขียนกลับบอกชัดเจนว่า “ไม่มีทางลัดสำหรับความสำเร็จ” แล้วอย่างนั้นทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จได้เร็วที่สุดล่ะ นี่คงเป็นคำถามของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน.. ..ผู้เขียนบอกว่าความสำเร็จได้จะมาจาก 3 ส่วนสำคัญที่ช่วยทวีคูณกัน สมการนั้นคือ ความสามารถ x ความพยายาม x ทัศนคติ = ผลลัพธ์ของชีวิต.. ..และสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความสามารถที่เป็นความเก่งกาจหรือพรสวรรค์ ไม่ใช่ความพยายามที่เป็นความอดทนมุมานะ แต่เป็นทัศนคติความคิดรู้จักคิดในทางที่ดีสิ่งที่ถูก เพราะถ้าทัศนคติผิดเมื่อไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็พาลเป็นติดลบไปหมด.. ..จงให้คนเก่งทำงาน แต่ผลักดันให้คนดีเป็นผู้นำ เมื่อคนดีเป็นผู้นำหรือผู้บริหาร ผลลัพธ์ที่ได้ยังไงก็จะออกมาดีจะดีมากหรือดีน้อยก็ยังเป็นผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าคุณเลือกคนเก่งเป็นผู้นำ…

ปัญญาญี่ปุ่น

สรุปหนังสือ ปัญญาญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่เล่าให้เห็นวิวัฒนาการของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคอดีตจนปัจจุบัน ผ่านบริษัทรถยนต์ชื่อดังทั้งโตโยต้า และฮอนด้า เริ่มจากคนลากรถที่วัดธารน้ำในที่เมืองเกียวโต ที่ต้องลากรถขึ้นเขาพานักท่องเที่ยวไปส่งปลายทางบนเขา การจะลากรถขึ้นเขานั้นถ้าต้องลากท่าปกติเป็นอะไรที่ต้องใช้แรงมาก ท่าปกติคือการหันหน้าไปทางข้างหน้าเหมือนปกติ แต่นักลากรถคนหนึ่งค้นพบว่าถ้าหันหลังแล้วค่อยๆเหมือนดันรถขึ้นเขาจะใช้แรงน้อยลง เหนื่อยน้อยกว่า แถมยังสามารถหันหน้ามาพูดคุยกับคนที่นั่งบนรถได้ สามารถพูดบรรยายเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ได้. พอคนนึงค้นพบ ที่เหลือก็ทำตาม จนกลายเป็นท่าลากรถขึ้นเขามาตรฐานของวัดธารน้ำใสชื่อดังในเกียวโตแห่งนี้ ถ้าไม่ได้อ่านเล่มนี้ก็คงไม่รู้ว่าโตโยต้าที่โด่งดังเรื่องรถยนต์นั้น แต่ตะกูลโตโยดะเจ้าของบริษัทนี้กลับเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำเครื่องทอผ้า จากเครื่องทอผ้า ส่วนฮอนด้านั้นเริ่มจากสร้างจักรยานที่ติดเครื่องยนต์ให้ผู้คนได้ใช้ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ถึงทุกวันนี้ ส่วนโตโยต้าเองก็เริ่มจากผลิตรถยนต์ให้กับกองทัพในช่วงสงครามโลก โดยเฉพาะพวกรถขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะขนาดใหญ่ หรือรถบรรทุก จนค่อยๆพัฒนากลายมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ญี่ปุ่นเองแม้จะผ่านสงครามมาอย่างหนักหนาแต่ก็สามารถพัฒนาจนกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกได้ในเวลาไม่กี่สิบปี ทั้งฮอนด้า และโตโยต้าก็เช่นกันที่ต้องผ่านอุปสรรคทางเศรษฐกิจมาหลายต่อหลายครั้ง…