ยังหายใจต้องไม่แพ้

เป็นหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มเฉพาะกิจ ที่เอาเรื่องดีๆจาก 19 เล่มแรกของหนุ่มเมืองจันท์มารวมไว้ในเล่มเดียว แม้ทั้ง 19 เล่มแรกผมจะอ่านมาหมดแล้ว แต่เล่มนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนความจำให้สมองได้ทำงานอีกครั้งนึง อย่างเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากตั้งแต่อ่านครั้งแรก จนพอได้อ่านครั้งนี้ก็ทำให้รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ คือเรื่องของนักวิ่งที่ชื่อว่า “จอห์น สตีเฟ่น อัควารี” จอห์น สตีเฟ่น อัควารี เป็นชาวแทนซาเนียที่มาเข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนที่โอลิมปิกแม็กซิโกในปี 1968 เค้าวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายแบบไม่มีใครคาดคิด เพราะมาหลังจากพิธีมอบเหรียญรางวัลเรียบร้อย และผู้คนก็พอกันเดินออกจากสนามกีฬาแล้ว แต่ อัควารี คนนี้กลับเพิ่งวิ่งเข้ามาในสนามด้วยอาการบาดเจ็บเลือดโชกขาข้างขวา จนต้องเอาผ้าพันแผลห้ามเลือดไว้ เค้าวิ่งด้วยความเร็วที่ช้ากว่าเดินของคนปกติเสียอีก แต่ อัควารี คนนี้ก้ยังไม่หยุดวิ่ง…

ความรู้สึกคือเหตุผลอย่างหนึ่ง ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 19

ล่าสุดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ UNTHINK หรือชื่อไทยว่า “หลอกสมองให้ไม่ต้องคิด” แก่นของเรื่องคือแท้จริงแล้วมนุษย์เราไม่ได้คิดแบบมีเหตุผลอย่างที่เราคิด มนุษย์เรายังคงใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นประจำในทุกเรื่อง เพียงแต่เรามีเหตุผลมาสนับสนุนความรู้สึกนั้นเสมอ จนเผลอให้เราคิดว่าเราช่างเป็นสัตว์ประเสริฐที่ใช้สมองคิดอย่างมีเหตุผลอยู่เสมอ หนังสือเล่มนี้ของหนุ่มเมืองจันท์ก็เหมือนกัน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความรู้สึกในหลากแง่มุมที่น่าสนใจ ผมขอหยิบบางช่วงบางตอนในเล่มมาสรุปไว้เรียกน้ำย่อยแล้วกันครับ อุปสรรคเหมือนหินลับมีด อุปสรรคในชีวิตคือสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเรามัวแต่ทุกข์เมื่อเกิดปัญหา ชีวิตก็คงไม่สนุกและสุขซักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองอุปสรรคหรือปัญหานั้นเป็นเสมือนหินลับมีด และมองว่า “ปัญญา” ของเรานั้นก็เปรียบเสมือนมีด มีดที่ต้องการหินลับ เพื่อให้คมอยู่เสมอ ดังนั้นหินที่ใช้ลับมีดไม่เคยราบเรียบ เพราะถ้าหินเรียบ มีดก็จะไม่คม หินต้องมีความสาก มีสะดุด เหมือนกับอุปสรรคที่เข้ามาลับมีดสติปัญญาเราให้เฉียบคมเสมอ เมื่ออุปสรรคผ่านไป ก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า แต่คุณค่าของประสบการณ์นั้นไม่ใช่การบอกว่าเรา…

ดีที่สุดในสิ่งที่เป็น ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 18

“อะไรที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ” เป็นการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และหาข้อดีในสิ่งที่เป็นอยู่ให้เจอ แม้จะไม่มีข้อดีมีแต่ปัญหา แต่ถ้ารู้จักใช้ปัญญา แก้ปัญหา ก็ย่อมมีโอกาสใหม่ๆตามมาทุกครั้ง เพราะปัญหาคือบิดาของนักประดิษฐ์ และไม่ใช่แค่นักประดิษฐ์ แต่ยังหมายถึงโอกาสของชีวิต และทางธุรกิจมากมายด้วย มีตอนหนึ่งในเล่มที่เปรียบปัญหาในการทำงาน เหมือนกับการทำอาหารด้วยเตาถ่า ตอนจะจุดให้ไฟติดนั้นแสนลำบาก ต้องคอยหาถ่านก้อนเล็กมาเติม มือก็ต้องคอยพัดให้ไฟติด ก็เหมือนกับตอนเริ่มต้นธุรกิจ อะไรก็ยากไปหมด การทำงาน การใช้ชีวิต นั้นมี “สูตร” แต่ไม่มี “สูตรทำเร็จ” ที่ทำตามได้เป๊ะๆแล้วเพอร์เฟ็คเหมือนเค้า แต่ต้อง กะ กะ เอาว่าสูตรที่เรากำลังทำ ใช้กับชีวิตนี้ต้องประมาณไหน…

Marketing 3.0 from product to customer to human spirit

บางคนอาจสงสัยหรือไม่ก็ผมเองนี่แหละที่ตั้งคำถามกับตัวเองตอนหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านว่า “สมัยนี้อะไรๆก็ 4.0 หมดแล้ว จะมัวมาอ่านอะไรที่ช้าไปแล้วทำไม?” ครับ 3.0 อาจเชยกว่า 4.0 จริง แต่สำหรับผมๆคิดว่าต่อให้มี 1.0 หรือ 0.1 ที่เชยตกยุคไปแล้วสุดๆผมก็จะตามอ่านถ้าผมยังไม่รู้ในสิ่งนั้น ผมคิดว่าผมเป็นพวกนักการตลาดแบบมวยวัดนะ ไม่ได้ร่ำเรียนมาแบบชาวบ้านเค้า ปากกัดตีนถีบหาความรู้มาเองตลอก ถ้าถามว่าอ่านจบแล้วได้อะไรบ้างล่ะ ก็ต้องบอกว่าได้ไม่น้อยเลยกับเรื่องที่ยังไม่รู้ จริงๆแล้วผมคิดว่าเล่มนี้น่าจะเป็นเรื่องของ social network หรือการตลาดแบบ social media มากกว่านะถ้าถอดเปลือกเอาแก่นมาคุยกัน เพราะการตลาดแบบ human spirit…

แย็บบ่อยๆสอยด้วยฮุคขวา Jab, Jab, Jab, Right Hook

เขียนโดย Gary Vaynerchuk นักเขียนผู้เปิดบริษัทที่ปรึกษาด้านโซเขียลมีเดียที่อเมริกาชื่อ VaynerMedia ที่คอยให้คำปรึกษาบริษัทชั้นนำระดับ Fortune 500 และเป็นผู้ลงทุนใน Start Up ด้าน Social Media ที่ดังๆตั้งแต่เริ่มตั้งไข่หลายราย เช่น Twitter เป็นต้น เมื่อพูดถึงโซเชียลมีเดียที่ใครๆก็คุ้นเคย.. ..แต่คนที่คุ้นเคยที่สุดคงหนีไม่พ้นนักการตลาดทั้งหลาย เพราะตั้งแต่มีเจ้า Social Media นี้เข้ามาทำให้บรรดานักการตลาดและเอเจนซี่โฆษณาเองต้องปวดหัวกันไปตามๆกันแบบไม่มีหยุดพัก เพราะอะไรน่ะหรอ.. ..เพราะแต่ก่อนช่องทางการสื่อสารของเรามีจำกัดจำเขี่ยมาก ขนาดยุคอินเตอร์เนตและเวปเข้ามาก็ยังไม่ปวดหัวเท่า Social Media ครองโลก…