Connected by Design แบรนด์ดีมีแต่ได้

เขียนจากประสบการณ์ตรงของ 2 นักโฆษณามากฝีมือระดับโลกอย่าง Barry Wacksman เป็น Global Chief Strategy Officer และ Chris Stutzman อดีต Managing Director จากเอเจนซี่ระดับโลกอย่าง R/GA ที่ปีล่าสุดคว้าสิงโตคานส์มา 18…

Driven to Delight ขับเคลื่อนความสุข

สรุปหนังสือ Driven to Delight ขับเคลื่อนความสุข, ส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าระดับโลก แบบวิถีเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยสำนักพิมพ์ Mc Graw Hill Education บอกตรงๆว่าวินาทีแรกสนใจเล่มนี้เพราะหน้าปกที่มีโลโก้ดาวสามแฉกอย่างเบนซ์เด่นหรา แต่พอได้หยิบขึ้นมาอ่านผ่านๆก็รู้ว่ามีอะไรมากกว่านั้น นอกจากหน้าปกที่สามารถฮุคให้ผมหยุดแล้ว ประโยคที่เขียนเด่นชัดว่า “ขับเคลื่อนความสุข” ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์สำคัญที่สามารถดึงกระเป๋าตังค์ผมออกมาได้ด้วย หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเบนซ์ที่อเมริกา (ผมขอเรียกสั้นๆแทนชื่อเต็มว่า…

กลยุทธ์การตลาด On Strategic Marketing

รวม 10 บทความดีๆจากนิตยสาร Harvard Business Review เรามักจะตัดสินเนื้อหาในหนังสือจากหน้าปก แต่หนังสือเล่มนี้ถ้าคุณตัดสินจากหน้าปกจะถือว่าคุณพลาดมากจริงๆ (แต่อ่านจบก็อยากจะออกแบบหน้าปกใหม่ให้ฟรีๆเลยนะ) แม้หน้าปกจะดูเป็นตำราน่าเบื่อ ให้อารมณ์คล้ายๆหนังสือเรียนมหาลัยสมัยโบราณมากๆ ด้วย font ด้วยสี การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ แต่ถ้าเราลดอคติ 5 วิแรก (คล้ายๆ YouTube…

GameChangers เปลี่ยนเกมธุรกิจ พลิกเป็นผู้ชนะ

เป็นหนังสืออีกเล่มที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆนักสายนักการตลาด นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ และใครก็ตามที่สนใจอยากรู้ว่าโลกธุรกิจในวันนี้เปลี่ยนไปยังไง รวมถึงเรื่องราวของ 100 บริษัทที่น่าสนใจแต่น้อยคนนักจะรู้จักทั้งหมดให้เรียนรู้กัน Game Changers ความหมายก็ตรงตัวคือตัวเปลี่ยนเกม ถ้าเป็นฟุตบอลก็คือนักเตะที่เข้ามาพลิกเกมจากไล่ตามเป็นนำได้เลย ในแง่ของธุจกิจก็เหมือนกันครับ Game Changers คือคนที่เข้ามาเปลี่ยนตลาด เปลี่ยนกฏกติกา หรือคือการเปลี่ยนกระดานแผ่นเดิมไปเล่นเกมใหม่ที่ตัวเองเป็นผู้สร้างกฏขึ้นมา การคิดแบบ Game Changers…

BRANDiNG 4.0 จากการตลาด 3.0 สู่การสร้างแบรนด์ 4.0

เมื่อการตลาดเปลี่ยนไป แต่ใจความสำคัญ…ยังเหมือนเดิม ถ้าจะบอกว่าใจความสำคัญของการตลาดก็ยังเป็นการสร้างผลกำไรหรือเงินเข้าบริษัทก็คงไม่ผิดนัก เพราะถ้าบริษัทไม่มีกำไรแล้วจะอยู่ได้อย่างไร เพียงแต่หนทางในการได้เงินมาขององค์กรทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากกว่าเดิมจากการเริ่มค้าขายในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มากนัก ในสมัยโบราณถ้าจะบอกว่าการตลาดก็คือการที่คนเอาของที่ตัวเองต้องการน้อยกว่าไปแลกกับของที่ตัวเองมากกว่ากับคนอื่นมา เช่น คนที่ปลูกพืชได้เยอะเกินความจะกินหมดหรือเก็บไว้ได้ ก็เอาพืชผลที่ปลูกได้เงินมานั้นไปแลกกับอีกคนที่อาจจะมีเนื้อสัตว์ที่เกินกินเกินเก็บไว้ และก็กำลังต้องการธันญพืชอยู่พอดี การแลกเปลี่ยนกันก็เลยเกิดขึ้นโดยความพร้อมใจทั้งสองฝ่าย แล้วก็วิวัฒนาการกลายเป็น “เงิน” หรือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อทุกฝ่ายมากขึ้น ถ้าการตลาดทุกวันนี้ต่างจากเมื่อหลายพันหมื่นปีก่อนยังไง ถ้าจะบอกว่าแก่นใจความสำคัญก็คือการสร้างความพึงพอใจให้ทั้งสองฝ่ายที่ได้แลกเปลี่ยนกันก็คงไม่ผิดนัก เพราะถ้าเราไม่พอใจมากพอก็คงไม่ยอมเสียเงินมีอยู่ไปแลกมันมากันใช่มั้ยล่ะครับ การตลาดทุกวันนี้ไปไกลมากจนผู้เขียนนิยามว่าเป็นการตลาดยุค 4.0 (ไม่รู้ทำไมต้อง…