สรุปหนังสือ ประวัติศาสตร์โลก World of Knowledge Series หน้าประวัติศาสตร์ที่อยู่ในใจคนไม่มีวันถูกลืม หนังสือที่รวบรวมเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์โลกแล้วสรุปเรียบเรียงให้กระชับ อ่านเข้าใจง่าย ไล่มาตั้งแต่เรื่องราวของโมเสส กับการอพยพหนีภัยของขาวอิสราเอลจากอียิปต์ ไปจนถึงนักรบสปาร์ตา 300 คนที่กลายเป็นภาพยนต์ในตำนาน
จากนั้นก็เชื่อมโยงไปถึงการก่อสร้างตั้งกรุงโรมของ สองพี่น้องฝาแฝดโรมิวลุส และ เรมุส ไปจนถึงตำนานของฮันนิบาล ชายชาวเปอร์เซียร์ที่กลายเป็นฝันร้ายสุดๆ ของชาวโรมัน และก็กลายเป็นภาพยนต์ชื่อดังที่ฉายแต่ภาพความสยดสยองของชื่อนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วมีรายละเอียดน่าสนใจมากมายที่ควรรู้
แล้วก็ต่อด้วยเรื่องราวของชาวไวกิงคนแรกที่บุกขึ้นสู่เกาะอังกฤษอย่าง แรกนาร์ โลดบรอค มาจนถึง เอล ซิด วีรบุรุษผู้กู้แผ่นดินสเปน แล้วก็มาต่อด้วยประวัติศาสตร์ของวีรสตรี โจน ออฟ อาร์ค ที่เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ดังเช่นกัน หญิงชาวบ้านผู้เชื่อว่าตัวเองได้รับเสียงจากพระเจ้า ให้มาช่วยกอบกู้ฝรั่งเศสจนท้ายที่สุดเธอก็ถูกทรยศจับส่งอังกฤษ
จากนั้นก็ถึงคราวเรื่องราวสงครามกุหลาบที่เป็นการแย่งชิงบัลลังก์เกาะอังกฤษ จากนั้นก็นำมาสู่วีรบุรุษอย่างโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ของแผ่นดินอังกฤษเช่นกัน จบท้ายด้วยประวัติศาสตร์การปล่อยปล่อยแผ่นดินอเมริกาใต้ ของไซมอน โบลิวาร์ ที่ถูกยกย่องเอาไปตั้งเป็นชื่อประเทศโบลิเวีย
หาดมาราธอน จุดเริ่มต้นการวิ่งมาราธอน แต่ไม่ได้เริ่มต้นที่ระยะทาง 42 กิโลเมตรแต่อย่างใด
ในเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ระหว่างบทในหนังสือประวัติศาสตร์โลกเล่มนี้คือ การแข่งขันวิ่งมาราธอนนั้นมีต้นกำเนิดมาจากหาดชื่อ Marathon หาดนี้อยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซแค่ 40 กิโลเมตรเท่านั้น
และการเริ่มต้นของการวิ่งมาราธอนครั้งแรกก็เกิดที่หาดนี้ แต่ไม่ได้ไปจบที่กรุงเอเธนส์หรือระยะทาง 42 กิโลเมตรในปัจจุบันแต่อย่างไร แต่การเริ่มต้นวิ่งครั้งแรกนั้นมีระยะทางถึง 240 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มต้นที่หาดมาราธอน แต่ไปจบที่รัฐสปาร์ตา เกิดจากชายที่ชื่อว่าไฟดิปพิดิส Pheidippides วิ่งถือสาส์นขอความช่วยเหลือจากชาวสปาร์ตาด้วยเท้าเปล่าเป็นระยะทางกว่า 240 กิโลเมตร วิ่งแบบไม่หยุดพักนานถึงสองวัน
และนั่นจึงเป็นที่มาของกีฬาวิ่งทนทางไกล ที่เรียกว่ามาราธอนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งใช้จุดเริ่มต้นของหาดมาราธอนในการวิ่ง และไปจบที่กรุงเอเธนส์ ซึ่งรวมแล้วก็เป็นระยะทางของการวิ่งมาราธอนทุกวันนี้นั่นเองครับ
โรมัน จุดกำเนินของตำแหน่งประมุข ผู้นำจากการคัดสรร หาใช่การสืบอำนาจจากสายเลือดแบบกษัตริย์อีกต่อไป
เดิมทีการปกครองในยุคโบราณ คือการสืบทอดอำนาจทางสายเลือดเป็นหลัก โดยไม่ได้สนใจว่าผู้สืบทอดอำนาจนั้นมีความสามารถมากพอที่จะบริการจัดการอำนาจนั้นได้มีคุณภาพและเป็นธรรมหรือไม่ แต่กับโรมันนั้นต่างไป เพราะเป็นที่แรกที่มีการสร้างตำแหน่งประมุขเพื่อปกครองรัฐขึ้นมา และก็นำไปสู่การกำเนิดสาธารณรัฐ โรมัน เป็นครั้งแรกในโลก
และการเป็นประมุขก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามใจคิดแบบกษัตริย์ แต่ยังถูกคานอำนาจด้วย Cenate หรือสภา ที่มีวาระในการดำรงตำแหน่งชัดเจน นั่นหมายความว่าถ้าประมุขถึงวาระ หมดอำนาจลง หรือเสียชีวิตไป ทางสภาก็จะแต่งตั้งประมุขของรัฐคนใหม่ขึ้นมา จึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตยทุกวันนี้
กลยุทธ์การกลืนชาติของโรมิวลุส ผู้สร้างโรมัน
ไม่น่าเชื่อว่ากลยุทธ์การกลืนชาตินั้นมีกำเนิดมายาวนานมาก สมัยโรมันต้องกระทบกระทั่งกับชาไบน์มายาวนาน ด้วยความที่สองเผ่านี้อยู่ติดกัน ทางโรมิวลุสเลยออกกลุยทธ์ให้ชาวหนุ่มชาวโรมัน เข้าฉุดหญิงสาวชาวซาไบท์อย่างเอิกเกริก ก็เพื่อกลืนชาติชาวซาไบท์ให้ออกลูกหลานเป็นชาวโรมันมากที่สุดครับ
โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีที่ทำผลงานดีจนถูกพวกเดียวกันเองกำจัด
มนุษย์เราก็น่าตลกดีนะครับ เรามักเกิดการอิจฉาริษยากันได้ง่ายมาก โดยเฉพาะพวกที่ด้อยความสามารถมักจะหาเรื่องทำให้ฝ่ายที่ผลงานดีมีความเก่งกาจนั้นต้องดับสูญไป อย่าง โจน ออฟ อาร์ค ที่เป็นวีรสตรีชื่อดังของชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาอาสารบไล่ศัตรูอย่างอังกฤษออกไปจากประเทศ พอทำผลงานได้ดีมากก็ถูกคนข้างในฝรั่งเศสเองร่วมมือกับอังกฤษ หาทางร่วมมือกันจับตัวเพื่อกำจัดนางออกไป
สมัยนั้นยังมีความเชื่อเรื่องแม่มด การล่าแม่มดอยู่ โจน ออฟ อาร์ค ถูกพิพากษาตัดสินว่าเป็นแม่มด เพราะไม่อย่างนั้นจะสามารถนำทัพรบชนะผู้ชายได้อย่างไร
ความน่าเศร้าของมนุษย์ไม่ว่าจะผ่านมานานกี่ร้อยพันปีขนาดไหน ก็ยังคงยอมกลัวให้ความไม่รู้มากกว่า แทนที่จะยอมรับว่าตัวเองนั้นไร้ประสิทธิภาพความสามารถแล้วในวันนี้
สุดท้ายเธอถูกเผาไฟทั้งเป็นวันเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1431 และนั่นก็เป็นชนวนให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาประท้วงก่อจราจลมากมาย ดูคุ้นๆ เหมือนประเทศใกล้ตัวที่พยายามกำจัดคลื่นลูกใหม่ ดูเหมือนประวัติศาสตร์การเมืองมนุษย์นั้นฉายวนซ้ำไปมาครั้งแล้วเล่าแต่หาได้จดจำไม่
Magna Carta เพราะใช้อำนาจไม่ชอบธรรมมากเกินไป จึงถูกบังคับให้สละอำนาจ
เรื่องราวของกษัตริย์อังกฤษ John of England ในปี ค.ศ. 1215 ในสมัยนั้นอังกฤษเองก็มีการสร้างสภาเพื่อมาช่วยปกครองและคานอำนาจของกษัตริย์ ซึ่งเราจะเห็นการคานอำนาจแบบนี้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ในสมัยนั้นเองกษัตริย์อังกฤษก็มักใช้พระราชอำนาจตามใจชอบ ซึ่งทำให้หลายครั้งก็มีการปะทะกับสภาผู้ปกครอง
แต่หลายครั้งก็จบด้วยการที่กษัตริย์ยอมถอย นั่นเพราะกษัตริย์ John มักเอาแต่ใจที่จะเอาแต่ได้ แต่มีครั้งสุดท้ายที่ไม่ยอมถอยจนถูกบังคับให้ต้องเซ็นรับรองในกฏบัตร Magna Carta
กฏบัตรนี้คือการระบุว่า ให้กษัตริย์อยู่ภายใต้กฏหมายและสามารถถูกตรวจสอบได้ จากผู้มีอำนาจล้นฟ้า กลายต้องยอมสละอำนาจให้กับประชาชนคนส่วนใหญ่และกฏหมายไป นั่นก็เพราะมีอำนาจแล้วไม่รู้จักใช้ หรือรู้จักแต่ใช้ให้ประโยชน์ตัวเองโดยไม่ได้สนใจความทุกข์ร้อนของคนอื่นเลย
สรุปหนังสือ ประวัติศาสตร์โลก World of Knowledge Series
เป็นหนังสือที่รวบรวมประวัติศาสตร์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แล้วสรุปย่อยเรียบเรียงให้อ่านสนุกเข้าใจง่าย ใครที่ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ อยากรู้ว่าในอดีตโลกใบนี้เคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนตัวผมแนะนำหนังสือเล่มนี้ ลองหามาอ่านดู น่าจะชอบเหมือนกันครับ
อ่านแล้วเล่า เล่มที่ 11 ของปี 2023
สรุปหนังสือ ประวัติศาสตร์โลก
World of Knowledge Series
หน้าประวัติศาสตร์ที่อยู่ในใจคนไม่มีวันลืม
พรหมพร พิชชานันท์ เขียน
สำนักพิมพ์ โนเบิ้ลบุ๊คส์
อ่านสรุปหนังสือแนวนี้ต่อ > https://www.summaread.net/category/history/