ในฐานะคนที่กินกาแฟเข้าปากอยู่ทุกวัน แต่กับเรื่องกาแฟนั้นกลับไม่ค่อยมีความรู้อะไรเลย หนังสือเล่มนี้เลยเหมือนเติมคาเฟอีนเรื่องกาแฟให้สมองผม เผื่อคราวหน้าที่มีใครถามเรื่องกาแฟจะได้พอมีอะไรไปโม้เขาได้บ้าง

ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้เลยว่า กาแฟชั้นเยี่ยมที่อิตาลีนั้น เมล็ดส่วนใหญ่กลับมาจากอินเดีย

อินเดียเป็นหนึ่งในชาติที่ส่งออกเมล็ดกาแฟเป็นลำดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะส่งออกไปยังอิตาลี ดินแดนต้นตำรับเอสเพรสโซ่ของโลก

ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านกาแฟที่อิตาลีนั้น ถ้ายืนกินที่บาร์จะถูกกว่านั่งกินที่โต๊ะถึงเกือบเท่าตัว และที่นั่นมีร้านกาแฟเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 200 ปี ที่ชื่อ Cova Pasticceria ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1817

รู้แบบนี้อยากลองบินไปดื่มซักช็อตเลยครับ

แต่ก็ยังไม่สุดเพราะมีร้านกาแฟที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่ที่เมืองเวนิส ที่มีอายุเกือบ 300 ปี ชื่อ Caffe Florian ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1720 จนถึงทุกวันนี้

และว่ากันว่าหลายๆบทประพันธ์ที่ดังก้องโลก ก็ถูกเขียนขึ้นที่ร้านนี้ตั้งแต่สมัยนั้น

สุดท้ายถึงได้รู้ว่าผู้เขียนเป็นเจ้าของร้าน Pacamara ร้านกาแฟคุณภาพดีที่ผมเคยได้ลองไปกินมาครั้งนึง พออ่านจบทำให้ผมอยากไปอีกรอบนึงเลยวันหยุดนี้

สิ่งนึงที่ผู้เขียนพูดไว้อย่างน่าสนใจคือ เมืองไทยเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอาหารที่ซับซ้อนและลุ่มลึก จนดังระดับโลก แต่ทำไมกับรสชาติกาแฟของคนไทยนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ ไม่ว่าจะ อเมริกา อิตาลี อินเดีย หรือ ออสเตรเลีย อยากจะเห็นคนไทยเปิดรับกาแฟรสชาติใหม่ๆจากโลคัลแบรนด์บ้าง ไม่ใช่ต่อแถวกับร้านกาแฟเชนใหญ่ๆอย่างเดียว

นั่นซิครับ เป็นการเปรียบเทียบที่ทำให้เห็นภาพชัดดี

ว่าแต่วีคเอนนี้ผมคงต้องไปอุดหนุนความตั้งใจของคนเขียนถึงความพยายามยืนหยัดในโปรไฟล์กาแฟของตัวเองหน่อยละครับ

อ่านแล้วเล่า อ่านเมื่อปี 2018

บันทึกการเดินทางในโลกกาแฟ
จากเอสเพรสโซ่แก้วแรก และห้องเรียนวิชาผู้ประกอบการ สู่แรกบันดาลใจในโลกกาแฟ
ชาตรี ตรีเลิศกุล เขียน
สำนักพิมพ์ Pannbooks

เล่มที่ 21 ของปี 2018
20180221

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/