โดย โอมศิริ วีระกุล คนเดียวกับที่เขียน สิ่งที่เจ้านายไม่เคยบอก นั่นแหละครับ เหมือนกันครับหนึ่งในนักเขียนคนไทยที่พอบังเอิญได้อ่านเล่มแรกแบบไม่ตั้งใจก็ฝากตัวเป็น FC ชั้นดีรอวันแล้ววันเล่าว่าเมื่อไหร่จะออกเล่มใหม่ แล้วก็นี่ครับ..มาอยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้ว

เหมือนเช่นเคยครับ ผู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์ตรงจากตัวเองและคนรอบข้างมาให้เราฟัง บางเรื่องก็รู้อยู่แล้ว บางเรื่องก็ไม่เคยรู้ และบางมุมก็ไม่เคยคิดครับ

ในเล่มนี้แบ่งออกเป็น 23 บทอ่านง่ายๆ ผมว่าถ้าคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือแล้วอยากหาหนังสือซักเล่มอ่าน ผมว่าเล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีโดยเฉพาะคนทำงานอย่างเราๆ

งั้นผมขอสรุปเป็นเรื่องๆที่น่าสนใจจากในเล่มไว้ให้ตัวผมเองเมื่อเปิด timehop เห็นปีหน้าจะได้อ่านทวนความคิดตัวเองอีกครั้งนึง

1. อย่าอ้อยอิ่งใช้เวลากับงานมากเกินไป พยายามสร้าง deadline ขึ้นมากับทุกงาน ถ้างานเดียวกันถ้าคนนึงสามารถจัดการได้จบใน 8 ชั่วโมงแล้วเลิกงานกลับบ้านตรงเวลา กับอีกคนนึงที่ต้องใช้เวลาทำงานถึง 12 ชั่วโมงจนต้องกลับบ้านดึก นั่นหมายความว่าการอยู่ดึกไม่ได้บอกว่าขยันเสมอไป แต่อาจจะหมายถึงการไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน

2. ไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ขอเพียงใส่ใจ มุ่งมั่น และพยายามเปิดตา เปิดใจให้กว้าง เราก็จะเห็นโอกาสอยู่ตรงหน้าเสมอ และอย่าด่วนกับการตัดสินคนคนอื่น เพราะนั่นจะนำมาซึ่งความล่มจม คุณต้องทุ่มเทให้กับทุกคนอย่างเต็มที่ นี่คือคำพูดจากบ๊อบ โกลอมป์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายของนิสสัน

3. ไม่มีชนชั้น มีแต่หน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องทำต่างกัน เพราะสิ่งที่เหมือนกันคือเราต่างต้องดิ้นรนต่อชีวิตที่ยังมีลมหายใจ

4. ช่วงของชีวิตที่ต้องรู้จักใช้ ก็เหมือนช่วงใช้ของฉากเวลาถ่ายหนัง ต้องดูให้ออกว่าสิ่งสำคัญในแต่ละฉากนั้นคืออะไร เราสามารถเป็นพนักงานที่ดีได้ เป็นหัวหน้าที่ดีได้ และเป็นคนในครอบครัวที่ดีได้ ใช้ให้ถูกช่วงที่ต้องใช้

5. เบื้องหลังของความสำเร็จ นักแสดงที่ได้รับรางวัลออสการ์นั้นไม่ได้เป็นเจ้าของรางวัลนั้นเพียงคนเดียว แต่เค้าได้รางวัลเพราะทีมสนับสนุนเบื้องหลังทั้งหมดไม่ว่าจะเด็กยกไฟ ช่องแต่งหน้า เบสบอย คนขับรถ คนทำความสะอาด ทุกคนทำให้เค้าได้รางวัลไม่ใช่เพราะเค้าเพียงคนเดียว

6. จงเริ่มการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่จะมีใครมาบังคับให้คุณต้องเปลี่ยน

7. มองปัญหาในชีวิตให้เป็นเกมส์ปริศนาที่ท้าทาย และทุกเรื่องใหญ่สามารถแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆเพื่อจัดการได้เหมือนกัน

8. ไม่ว่าจะเก่งยังไงหรืออัจฉริยะแค่ไหน ก็อย่าลืมพื้นฐานหัวใจของความเป็นคน

9. ใช้ความลำบากในวันนี้เป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จในวันหน้า อย่าหนีปัญหา เพราะถ้าคุณไม่แก้มันก็จะยังเป็นปมอยู่แบบนั้น

10. ทิ้ง Comfort Zone เพื่อรู้ว่าคุณยังไปได้ไกลกว่าที่คิด แม้จะผิดพลาดแต่เราก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้นได้

11. เพราะชีวิตคือผลรวมของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง มันก็มาจากทุกวันต่อจากนี้ไปจนครบ 5 ปีนั้น

12. ถ้าอยากให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือชุมชน ทุกสิ่งเริ่มเป็นไปได้ได้ที่ตัวคุณ เพราะคุณก็เป็นตัวอย่างให้คนรอบตัวเช่นกัน

13. ค้นหาสิ่งที่คุณสนใจแล้วก็เริ่มใช้เวลาไปกับมัน แล้วเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะพบว่าคุณได้สะสมอะไรดีๆและเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้อีกเยอะ

14. ของไกล้ตัวที่เคยไร้ค่าหรือเป็นปัญหา กลับกลายเป็นทางออกหรือสิ่งใหม่ได้แค่เปลี่ยนมุมมองให้กับมัน เหมือนที่ญี่ปุ่นใช้วิธีแพคของใส่กล่องลังเก่าให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อลดปัญหาลังเก่าไม่ใช้ และยังเป็นการส่งออกขยะไปนอกประเทศในเวลาเดียวกัน

15. การจดบันทึกชีวิตประจำวันไม่ใช่แค่ให้เรากลับมาอ่านทบทวนมันถึงความหมายซึ้งเสมอไป แต่ยังเป็นการขัดเกลาความคิดของตัวเราเองเพื่อวันข้างหน้า

16. จงลุกเดินบ่อยๆอย่างนั่งติดเก้าอี้ทำงาน เพราะมันสะสมโรคร้ายให้คุณ และอย่ากลัวที่จะว่างถ้าคุณต้องว่าง นั่นถือว่าเป็นข้อดีเพราะคุณจัดการได้ดีกว่าคนที่ยังยุ่งอยู่ในเวลาเดียวกัน

17. ถ้าถอดหัวโขนก็คนเหมือนกัน อย่าให้ความสำคัญกับหัวโขนแต่จงให้ความสำคัญกับหัวคิด

18. ความโกรธทำให้เราต้องอยู่ในสภาวะนั้นไปกว่า 6 ชั่วโมง ฉะนั้นถ้าไม่โกรธกันจะดีกว่า

19. สิ่งสำคัญสองอย่างของการใช้ชีวิตคือพยายามคาดการณ์ล่วงหน้า และเผื่อพื้นที่ให้กับสิ่งที่อาจจะเข้ามาโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ด้วย

20. เพราะขาวจึงมีดำ ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ แค่มองมันให้ออก เข้าใจมันให้ได้ แล้วชีวิตก็จะง่ายขึ้น

21. อย่าลืมความฝันในวัยเด็ก

22. แค่ลดมาตรฐานความสุขลง แล้วจะพบว่าเราช่างมีความสุขเหลือเฟือ

23. ความคิดคือเงินตราแห่งศตวรรษที่ 21

หมดแล้วครับ 23 ข้อคิดจาก 23 บทที่ผมได้จากเล่มนี้

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/