กรอบที่ไม่มีเส้น ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 20

การ “ตีกรอบ” ให้บางเรื่อง หรือบางแง่มุมในชีวิต อาจเป็นสิ่งที่เราหลายคนเคยชินกัน เช่น กรอบความสำเร็จของชีวิต ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง มีบ้านมั้ย มีรถมั้ย มีครอบครัวมั้ย หรือ มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีมั้ย หรืออาจมีอีกหน่อยเป็นมีเงินฝากเก็บไว้ใช้ตอนเกษียณซักสองสามล้านมั้ย พอมีกรอบ เราก็รู้ว่าจะต้องไปถึงแค่ไหน หรือแค่ไหนที่ไม่ต้องเกินกว่ากรอบที่กำหนดไป แม้แต่ในการทำงานการตลาด ก็ต้องมีการกำหนดกรอบการทำงาน ที่เรียกว่า Framework ว่าอะไรบ้างที่ต้องทำ เพื่อให้รู้ว่าอะไรบ้างที่ไม่ต้องทำ เราส่วนใหญ่ชอบพูดเหมือนกันว่า ไม่ต้องการให้ชีวิตมีกรอบ แต่เรามักใช้ชีวิตแบบมีกรอบจนเคยชิน หนุ่มเมืองจันท์ นำเสนอแนวคิดใหม่ในชื่อของฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มที่ 20 นี้ว่า…

อารมณ์ดีกับชีวิต, ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่ม 5

อ่านเล่มนี้จบทำให้คิดได้ว่าใครที่สามารถทำให้ตัวเอง “อารมณ์ดี” ได้มากกว่า และบ่อยครั้งกว่าคนอื่น ถือว่าคนนั้นเป็นคนมีบุญหนักหนา เพราะในในแต่ละวันเป็นที่รู้กันดีว่าเราอารมณ์ของเราไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาตลอดทั้งวัน มีดี มีเสีย มีดี มีร้าย มีสุข มีเศร้า มีหัวเราะ มีโกรธ แต่ทุกอารมณ์ของเราก็ล้วนแล้วแต่มาจากมุมในการมองโลกของเราทั้งนั้น ไม่แปลกที่เราจะอารมณ์ไม่ดี เวลาที่ชีวิตมีปัญหา แต่กับคนที่น่าอิจฉาหรือเกิดมาโชคดีบางคน ที่สามารถมองปัญหาให้เป็นโอกาส และอารมณ์ดีไปกับมันได้ คนแบบนี้ซิ คือคนที่จะไปได้ไกลกว่าคนทั่วๆไปมาก อาจจะมีเพื่อนเราบางคนที่เป็นคนอารมณ์เสียกับอะไรได้ง่ายๆ แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ยังพาลทำให้อารมณ์เสียได้ทั้งวัน แม้จะมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่กลับมีคุณภาพเวลาของความสุขที่ไม่เท่ากันกับคนที่สามารถมองโลกในแง่ดีได้บ่อยๆ แม้แต่กับปัญหาก็กลับมองเป็นเกมส์ปริศนาที่น่าท้าทาย…