ONE MILLION ปัญหาหนึ่งถึงร้อยหมื่น

สรุปหนังสือ ONE MILLION ปัญหาหนึ่งถึงร้อยหมื่น ว่าด้วยเรื่องของผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ มักก่อกำเนิดมาจากจุดเล็กๆเพียงแค่หนึ่ง และจาก 1 ผลลัพธ์อาจมาจากความพยายามนับล้านครั้ง ใครจะเชื่อว่าหนังสือหนึ่งเล่มนี้ จะสามารถร้อยเรียงเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายในโลกเอาไว้ได้อย่าแยบคายไม่น่าเชื่อ ด้วยการใช้ถ้วยคำที่สละสลวยอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน จนผมแทบจะคิดว่านี่คือหนังสือที่เล่าด้วยสัมผัสแบบกาพย์กลอนอย่างน่าทึ่ง แทบทุกหน้านั้นมีข้อคิด และแทบทุกวรรคนั้นมีคำคม ถ้ามีปากกาไฮไลท์อยู่ใกล้มือ คงต้องหมดไปหลายด้ามแน่ๆ เรื่องในเล่มเริ่มที่กระสุนหนึ่งนัด จากกระสุนหนึ่งนัด ทำให้เกิดห่ากระสุนนับล้านๆนัดตามมา นี่คือต้นกำเนิดของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อครั้งที่ Archuduke Franz Ferdinand หรือ อาร์ชดยุคฟรันซ์ แฟร์ดินันด์ องค์รัชทายาทของราชวงศ์ฮับสบูรก์ เสด็จฯ…

Drama Sutra สารพัดความขัดแย้งที่แฝงอยู่ในวัตถุรอบตัวคุณ

สรุปหนังสือ Drama Sutra สารพัดความขัดแย้งที่แฝงอยู่ในวัตถุรอบตัวคุณ ตอนซื้อหยิบขึ้นมาเพราะนึกว่าอ่านง่ายตามสไตล์แซลมอน แต่ที่ไหนได้เนื้อหาข้างในกลับอัดแน่นเต็มไปด้วยสาระ เรื่องราว ประวัติศาสตร์ การเมือง ข้อคิด และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าจะเป็นแซลมอน ก็คงเป็นปลาแซลมอนตัวใหญ่ที่กินจนสมองกางแทนพุง ดรามา สุตรา เป็นหนังสือที่เล่าประวัติศาสตร์การเมือง การปกครอง ผ่านสิ่งของรอบตัวที่เราคิดว่ารู้จักดี แต่แท้จริงแล้วกลับไม่รู้จักเลย ไม่ว่าจะเป็น เกลือ เกลือ ที่มีตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารทั่วไป หรือมีเก็บไว้ในครัวของทุกบ้าน รู้หรือไม่ว่าในอดีตนั้นเกลือไม่ได้หาง่าย จนเททิ้งขว้างได้อย่างทุกวันนี้ ครั้งหนึ่งเกลือมีค่าดั่งเงิน จนคำว่า Salary ที่แปลว่าเงินเดือน…

21 Lessons for the 21st Century 21 บทเรียนสำหรับศตวรรษที่ 21

ชีวิตในศตวรรษนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเลยนะครับ และถ้าคุณคิดว่ามันยากแล้วที่จะใช้ชีวิตในศตวรรษนี้ แต่เหมือนว่าความเป็นจริงที่น่าจะเกิดขึ้นนั้นกลับยากยิ่งกว่าจะจินตนาการไหว จนผมคิดว่าที่คิดๆกันว่า “ยาก” อยู่แล้วนั้นอาจจะกลายเป็น “ง่ายไปเลย” เมื่อเจอกับความน่าจะเป็นที่จะถาโถมเข้ามาดุจพายุทั้งหลายด้านพร้อมๆกัน หนังสือเล่มนี้บอกถึง 21 สิ่งสำคัญที่น่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษนี้ ในศตวรรษที่เราส่วนใหญ่จะมีอายุยืนกว่าคนในวันนี้มาก หรือเอาง่ายๆว่าถ้าค่าเฉลี่ยของอายุคนในวันนี้อยู่ที่ 70 กว่าปี แต่เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไปน่าจะอายุยืนกันถึง 100 ปีเป็นเรื่องปกติ แล้วเมื่อเราอายุยืนขึ้นแต่การใช้ชีวิตกลับยิ่งยากขึ้นอย่างที่ยากจะจินตนาการได้ แต่หนังสือเล่มนี้ก็พอให้แนวทางที่น่าสนใจและก็มีความเป็นไปได้ไม่มากก็น้อยที่ให้เราได้เตรียมตัวรู้เพื่อจะรับมือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หรือถ้าไม่เกิดขึ้นก็ถือว่าโชคดีเสียด้วยซ้ำ ผมว่าหนังสือเล่มนี้ถ้าคุณได้อ่านหนังสือ “ทางรอดในโลกใบใหม่ แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ของ Klaus Schwab”…

วัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์ในอาเซียน

ไทยแท้ไม่มีอยู่จริง นี่คือความรู้สึกหลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทำให้รู้ว่าไอ้ความเป็น “ไทยแท้ๆ” ที่เราหวงกันนักหนา ไม่ว่าจะ อาหารไทย มวยไทย ลายเส้นไทย การไหว้แบบไทย สงกรานต์ไทย หรือแม้แต่ภาษาไทยแท้จริงแล้วก็ไม่ใช่ของที่กำเนิดมาจาก “ไทย” เลยซักอย่าง แต่กลับเป็นของส่วนร่วม ตามชื่อหนังสือที่บอกว่า “วัฒนธรรมร่วม” นั่นเอง ไทย หรือ คนไทย นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของอาเซียนที่เอาเข้าจริงแล้วก็แยกแทบไม่ออก ถ้าถอดเสื้อผ้า ให้ดูแต่หน้าไม่ต้องพูดซักคำ ก็ยากที่จะแยกออกว่าหน้าแบบนี้คือไทย หน้าแบบนี้คือลาว หน้าแบบนี้คือพม่า เขมร หรือแม้แต่ทางใต้มาเลเซีย ฟิลิบปินส์…

ประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่ง่วง, The Mental Floss – History of the World

สรุปโดยย่อ หนังสือเล่มนี้เล่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติย้อนหลังไปราวหมื่นกว่าปีก่อน ตั้งแต่มนุษย์เริ่มมีอารยธรรม หรืออย่างน้อยก็เริ่มทิ้งหลักฐานหรือตั้งใจส่งต่ออะไรบางอย่างไว้ให้เราเรียนรู้ จากเนื้อหาที่ควรจะหนากว่า 500,000,000 หน้า ถูกย่อจนเหลือแค่ 500 หน้าเท่านั้นเอง (ก็ยังถือว่าหนาอยู่ดีนั่นแหละ) หรือจะบอกว่าอ่าน 1 หน้าของประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่ง่วงเล่มนี้ เท่ากับอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไปกว่าล้านหน้าได้มั้ยนะ จริงๆน่าจะเอาเป็นจุดขายให้ทีมตลาดได้เลยนะเนี่ย นั่นคือสรุปแบบย่อครับ ส่วนถ้าให้สรุปแบบยาวขึ้นมาอีกหน่อย ผมว่าหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์มากมาย อารมณ์เหมือนเราเดินเข้าไปในอภิมหาซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดยักษ์ที่มีสารพันของกินให้ชิมมากมายเป็นล้านสิ่ง ชิมอย่างละคำสองคำ จนได้ชิมเป็นพันคำแทบจะยิ่งกว่าอาหารมื้อหลักมื้อใหญ่ดีๆเลยก็ว่าได้ นี่คือคำนิยามของหนังสือเล่มนี้ที่ผมจะมอบให้ ถ้าใครอยากจะมีเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์เอาไว้คุยเท่ห์ๆในวงสนทนา ไม่ว่าจะวงข้าวหรือวงเหล้า หรือวงที่เต็มไปด้วยสาวๆสำหรับหนุ่มๆ หนังสือเล่มนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งครับ แต่หนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้เพอร์เฟคในความรู้สึกผม เพราะหลายครั้งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวมันกระโดดไปกระโดดมา อารมณ์เหมือนกำลังชิมของคาวอร่อยๆได้หนึ่งคำ…

โลกาภิวัตน์ Globalization; A very short introduction

หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นที่คำถามว่า “โลกาภิวัตน์” คืออะไร? การเจริญขึ้นของสังคม? การพัฒนาขึ้นของเทคโนโลยี? หรืออะไรคือโลกาภิวัตน์.. ..โลกาภิวัตน์หมายถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในระดับโลกได้หรือไม่ น่าจะได้ งั้นคำถามต่อไปคือแล้วโลกาภิวัตน์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ในยุคอินเตอร์เนตใช่หรือไม่? หรือช่วงเวลาไหนที่เกิดนิยามความเป็น “โลกาภิวัตน์” ขึ้น? ..ถ้าเราค่อยๆย้อนกลับไปเสมือนเลื่อนลงไล่ดู Facebook Timeline ก็จะเห็น Social Media ที่เชื่อมคนทั้งโลกให้เข้าไกล้กันได้มากขึ้น ถอยกลับไปอีกหน่อยก็จะพบว่าเป็นยุคของ Smartphone และ Internet ไร้สายที่ทำให้การเชื่อมต่อไม่ต้องติดอยู่กลับที่ เลื่อนหน้าฟีดของโลกาภิวัตน์ลงไปอีกก็อาจจะพบเจอกับยุค www หรือยุคเริ่มต้นอินเตอร์เนตนั่นเอง หรือย้อนกลับไปอีกอาจเป็นยุคของ PC…

ปัญญาญี่ปุ่น

สรุปหนังสือ ปัญญาญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่เล่าให้เห็นวิวัฒนาการของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคอดีตจนปัจจุบัน ผ่านบริษัทรถยนต์ชื่อดังทั้งโตโยต้า และฮอนด้า เริ่มจากคนลากรถที่วัดธารน้ำในที่เมืองเกียวโต ที่ต้องลากรถขึ้นเขาพานักท่องเที่ยวไปส่งปลายทางบนเขา การจะลากรถขึ้นเขานั้นถ้าต้องลากท่าปกติเป็นอะไรที่ต้องใช้แรงมาก ท่าปกติคือการหันหน้าไปทางข้างหน้าเหมือนปกติ แต่นักลากรถคนหนึ่งค้นพบว่าถ้าหันหลังแล้วค่อยๆเหมือนดันรถขึ้นเขาจะใช้แรงน้อยลง เหนื่อยน้อยกว่า แถมยังสามารถหันหน้ามาพูดคุยกับคนที่นั่งบนรถได้ สามารถพูดบรรยายเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ได้. พอคนนึงค้นพบ ที่เหลือก็ทำตาม จนกลายเป็นท่าลากรถขึ้นเขามาตรฐานของวัดธารน้ำใสชื่อดังในเกียวโตแห่งนี้ ถ้าไม่ได้อ่านเล่มนี้ก็คงไม่รู้ว่าโตโยต้าที่โด่งดังเรื่องรถยนต์นั้น แต่ตะกูลโตโยดะเจ้าของบริษัทนี้กลับเริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำเครื่องทอผ้า จากเครื่องทอผ้า ส่วนฮอนด้านั้นเริ่มจากสร้างจักรยานที่ติดเครื่องยนต์ให้ผู้คนได้ใช้ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ถึงทุกวันนี้ ส่วนโตโยต้าเองก็เริ่มจากผลิตรถยนต์ให้กับกองทัพในช่วงสงครามโลก โดยเฉพาะพวกรถขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะขนาดใหญ่ หรือรถบรรทุก จนค่อยๆพัฒนากลายมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ญี่ปุ่นเองแม้จะผ่านสงครามมาอย่างหนักหนาแต่ก็สามารถพัฒนาจนกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกได้ในเวลาไม่กี่สิบปี ทั้งฮอนด้า และโตโยต้าก็เช่นกันที่ต้องผ่านอุปสรรคทางเศรษฐกิจมาหลายต่อหลายครั้ง…

เซ็กซ์ดึกดำบรรพ์ของบรรพชนไทย

อาจจะเป็นหนังสือที่ดูแปลกในสายตาของคนอื่น โดยเฉพาะคนไกล้ตัวที่สงสัยว่าทำไมผมถึงซื้อเล่มนี้มาอ่าน ก็แหม จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงล่ะครับ กิน ขี้ ปี้ นอน มันเป็นเรื่องสามัญในชีวิตประจำวันเราทุกคน (แต่บางเรื่องก็คงทำกันไม่ได้ทุกวันหรอกเนอะ..มั้ง) ผมก็เลยอยากรู้ว่าในสมัยก่อนหรือสมัยโบราณนั้น เรื่องเซ็กซ์(แปลกดีใช้ ซ์ แทน ส์ อย่างที่คุ้นเคยกัน)ของเค้าเป็นอย่างไร และต่างกับคนสมัยนี้มากน้อยแค่ไหน พออ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ถึงกับตาสว่างและน่าประหลาดใจกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เพราะเรื่องเซ็กซ์ในสมัยก่อนย้อนหลังไปเป็นร้อยเป็นพันปีได้นั้น กลับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญออกจะสาธารณะนิดๆกว่าที่คิดเอาไว้ด้วย เช่น การอยู่กินหรือมีเซ็กซ์กันก่อนแต่งในสมัยโบราณนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ผิดกับค่านิยมหรือจารีตของคนสมัยนี้เลยและผู้ชายก็ต้องกลายไปเป็นบ่าวรับใช้ของบ้านฝ่ายหญิง เลยเป็นที่มาขอคำว่า “เจ้าบ่าว” ฝ่ายชายได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเยี่ยงบ่าวรับใช้ จนกว่าพ่อแม่คนในครอบครัวฝ่ายหญิงจะพอใจยอมยกลูกสาวให้เป็นเมีย เรื่องที่ว่านี้ถึงขนาดเป็นกฏหมายในช่วงต้นอยุธยาเมื่อกว่า 500 ปีก่อนมาแล้ว…