Unlucky Millionaire คนโชคร้ายที่กลายเป็นเศรษฐี

สรุปหนังสือ Unlucky Millionaire คนโชคร้ายที่กลายเป็นเศรษฐี เล่มนี้ เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของ 10 คนดังมหาเศรษฐีที่จะไม่อยากเชื่อว่าเคยโชคร้ายขนาดที่ว่าเรื่องของเราว่าหนักหนาแล้วกลายเป็นเด็กๆไปเลย เริ่มกันที่ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรสาวคนดังผิวสีร่างอวบจากอเมริกา..ใครจะเชื่อว่าชีวิตนี้เธอเคยถูกคนในครอบครัวข่มขืนมานานหลายปี ถึงสองครั้ง กว่าจะเป็นเธอที่แข็งแกร่งและโด่งดังจนสามารถแบ่งพลังเพื่อช่วยคนด้อยโอกาสอีกนับล้านๆคนได้ โคโค่ ชาแนล หญิงหัวใจแกร่งผู้ให้กำเนิดแบรนด์หรูของโลก ที่ฉีกขนมแฟชั่นเดิมๆเพื่อผู้ชาย กลายเป็นผู้นำด้านความคิดให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาสวยเพื่อตัวเอง ความโชคร้ายของเธอคือเธอแทบไม่เคยประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลยหลายครั้งหลายครา เจ.เค. โรว์ลิ่ง กว่าจะกลายเป็นผู้หญิงที่ขึ้นแท่นว่ารวยที่สุดในโลกมาได้ ความโชคร้ายซ้ำซ้อนคือการแยกทางกับสามีแล้วต้องไปอาศัยน้ำไฟในร้านกาแฟของญาติเพื่อนั่งทำงาน และต้องรอเช็คเงินสงเคราะห์พร้อมกับดูแลลูกที่ยังเล็กไปพร้อมกัน และต้องรอถึง 6 ปีกว่าหนังสือ Harry Poter…

ฟายน์แมน อัจฉริยะโลกฟิสิกส์ Surely you’re joking Mr.Feynman

ฟายน์แมนคนนี้ คงไม่ต้องบอกว่าอัจฉริยะขนาดไหน เพราะมีรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เป็นเครื่องยืนยัน แต่ที่สำคัญยังเป็นอัจฉริยะในด้านการอำ และการกวนคนรอบตัวอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เลยไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทฤษฎีพลศาสตร์ไฟฟ้าควอนตัม ซึ่งนำไปสู่รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1965 ที่ทำให้เค้าโด่งดังซักเท่าไหร่ แต่กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวในชีวิตของเค้า กับวีรกรรมสุดกวนที่อ่านไปยิ้มไป หัวเราะไป ได้ไม่น่าเชื่อ สารภาพตรงๆผมอ่านแล้วขำในร้านกาแฟ และรถไฟฟ้าก็หลายครั้ง ส่วนครั้งไหนที่พอรู้ตัวหน่อยผมจะอมยิ้มเพราะกลั้นขำไว้ในใจ กลัวคนหาว่าผมบ้าที่อ่านหนังสือชีวประวัติของนักฟิสิกส์แล้วขำเหมือนอ่านขายหัวเราะ ทั้งที่ฟายน์แมน ชายผู้นี่เป็นส่วนหนึ่งของทีมนักวิทยาศาสตร์สำคัญที่ทำให้อเมริกาสร้างระเบิดปรมาณูได้สำเร็จ จนพลิกเอาชนะสงครามโลกครั้งที่สองได้ ชายผู้เคยหลงไหลบราซิล จนต้องขอลางานประจำเป็นปี เพื่อไปสอนวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ให้กับเด็กๆชาวบราซิลหลายต่อหลายครั้ง และก็กล้าพูดวิจารณ์ออกสื่อต่อหน้าผู้คนมากมายในวันส่งท้ายการสอนของเค้าว่า การศึกษาที่บราซิลนั้นล้มเหลวขนาดไหน เพราะที่นั่นสอนให้เด็กท่องจำตำรา โดยไม่สอนให้เกิดความเข้าใจที่แท้จริงของการเรียน และยังไม่กระตุ้นให้เด็กเกิดคำถามกับตำราเรียน หรือผู้สอนอีกด้วย อ่านดูแล้วคุ้นๆเหมือนการศึกษาบ้านเรายังไงยังงั้น…

ชุมนุมชีวประวัติ Biographical Round-Up

เขียนโดย เดล คาร์เนกี นักเขียนผู้โด่งดังที่นักอ่านหลายคนคงรู้จัก เล่มนี้เป็นหนังสือรวบรวมประวัติบุคคลโด่งดังสำคัญแบบสั้นๆแต่ยังเข้าใจได้ครบ.. ..แต่หลายบุคคลในเล่มนี้ผมไม่คุ้นเคยมาก่อน เพราะเป็นบุคคนสำคัญผู้โด่งดังจากการทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ในยุคของเดลเองส่วนหนึ่ง แต่สิ่งนึงที่ทำให้ทึ่งมากคือตัวผู้เขียนหรือเดลเอง ได้ออกเดินทางไปสัมภาษณ์บุคคลเหล่านี้ด้วยตัวเอง หรือครอบครัวของคนสำคัญเหล่านั้นไปตามที่ต่างๆทั่วโลก เท่ากับว่าหนังสือเล่มนี้เป็นตัวแทนของการเดินทางไปเกือบทั่วโลกก็ว่าได้.. ..ผมขอยกบุคคลหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่พอได้อ่านจากเล่มนี้เพียงครั้งเดียวกลับทำให้ผมจำได้คร่าวๆก็คือ มาดามคูรี.. ..มาดามคูรี เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์หญิงคนแรกและคนเดียวของโลก(มั้ง) ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งด้วยกัน และสิ่งนึงที่ทำให้น่าทึ่งและน่านับถือมากคือการที่เธอเป็นผู้ประดิษฐ์จนค้นพบธาตุตัวใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาลก็คือ เรเดียม.. ..เรเดียมซึ่งเป็นธาตุที่ไม่มีตามธรรมชาติแต่ต้องสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากของมาดามคูรีและสามีของเธอตามลำพัง จากการต้องใช้ทุนตัวเองอดมื้อกินมื้อเพราะไม่มีใครให้ทุนอุดหนุนเธอแต่เธอก็พยายามทำ บางคนอาจสงสัยว่าธาตุเรเดียมนั้นสำคัญและมีมูลค่ามหาศาลอย่างไร นั่นเพราะธาตุเรเดียมนั้นใช้ในการฉายแสงรักษาโรคมะเร็งในสมัยนั้น(ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังใช้อยู่รึเปล่า) และด้วยเหตุนี้เองทำให้น่าจะมีมูลค่ามหาศาลถ้ามาดามคูรีเลือกที่จะจดสิทธิบัตรและขายความรู้นี้ในเชิงพานิชย์เพื่อเก็บเงินเข้ากระเป๋าเธอกับสามีให้ได้กินอยู่สบายตลอดชีวิต…