ว่าด้วยเรื่องของการพูดคุยกันระหว่างสองมหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกสองขั้ว Bill Gates ขั้วเทคโนโลยี และ Warren Buffett ขั้วแห่งนักลงทุน

การถกเถียงเริ่มต้นจาก Bill Gates ผู้ผันตัวไปทำมูลนิธิเพื่อสังคมอย่างเต็มตัวและถอนตัวจากบริษัท Microsoft ที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา ตั้งคำถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกจะช่วยกันสละทรัพยากรของตนเพื่อตอบสนองกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในโลกกว่าหนึ่งพันล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินดำรงชีพไม่ถึง 1 เหรียญสหรัฐ

เป็นไปได้มั้ยว่าเศรษฐกิจทุนนิยมจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นทุนนิยมสร้างสรรค์ที่ไม่ได้มุ่งหวังแต่กำไรสูงสุด แต่มุ่งหวังเรื่องชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับเพื่อกลับมาสร้างผลกำไรสูงสุดที่อาจจะไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่จะเป็นการยอมจ่ายมากขึ้นของลูกค้า การดึงดูดพนักงานเก่งๆให้เข้ามาด้วยค่าแรงที่ถูกกว่า เพราะภูมิใจที่ตัวเองจะได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเพื่อสังคม หรือแม้แต่สละผลกำไรก่อนหักภาษีเพื่อช่วยเหลือคนยากจนที่สุดในโลกหนึ่งพันล้านคน

เกิดเป็นการถกเถียงผ่านเวปบอร์ดที่ผู้เขียนตั้งใจให้เกิดขึ้น โดยเริ่มต้นจากวิวาทะของ Bill Gates ที่กรุงดาวอสที่เริ่มพูดถึงเรื่องทุนนิยมสร้างสรรค์ และการสนทนาส่วนตัวระหว่างเขากับ Warren Buffett และ Michael Kinsley ก่อให้เกิดการถามตอบต่อขยายแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย

ต่อยอด และติหนิ กันมากมายระหว่างนักคิดหลายคนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น ความคิดเห็นทั้งหมดถูกรวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงของทุนนิยมสร้างสรรค์ สิ่งนึงที่อ่านจบแล้วรับรู้ได้คือ ทุกคนต่างต้องการเห็นโลกในวันหน้าดีกว่าวันนี้

ทุกคนอยากเห็นคนจนสามารถเข้าถึงสวัสดิภาพ และสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ แม้แต่ละคนจะมีความคิดและวิธีการที่ตัวเองคิดว่าดีต่างกัน แต่ผมในฐานะคนอ่านเชื่อว่า ขอแค่ทุกคนเริ่มต้นจากความตั้งใจดี แล้วลงมือทำ จากนั้นแบ่งปันความรู้หรือผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งในแง่ที่ล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ เพื่อให้คนรุ่นหลังต่อๆไปสามารถต่อยอดแบ่งปันจากความรู้ที่เรามีในวันนี้เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น…

Michael Kinsley เขียน

สฤณี อาชวานันทกุล แปล

สำนักพิมพ์ Openworlds

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/