เป็นหนังสือที่น่าจะซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเมื่อปลายปีก่อน แล้วเพิ่งจะได้หยิบมาอ่านเมื่อสามวันก่อน(ตอน July 2017) แวปแรกแอบท้อเพราะหนังสือมันหนากว่าหนังสือปกติเพราะมีตั้ง 3ร้อยกว่าหน้า..

แต่พอได้อ่านดูเลยรู้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่ายมากแถมยังสนุกและได้ความรู้ที่น่าสนใจอีกด้วย เลยทำให้ 300 กว่าหน้านั้นอ่านจบได้ภายใน 3 วันไม่ขาดไม่เกิน

ถ้าหน้าปกบอกว่า #ถอดรหัสรักออนไลน์ แล้วหลังจากปกเข้าไปข้างในล่ะเป็นไง..ก็ต้องบอกว่าทั้งเล่มกว่าสามร้อยหน้าเป็นเรื่องของนักพูดเดี่ยวไมค์ไมโครโฟนที่ค่อนข้างดังคนนึงของอเมริกาที่ชื่อว่า Aziz Ansari เกิดสงสัยในเรื่องความรักของคนสมัยใหม่หรือจะบอกว่าสมัยนี้แทนดีนะ ก็เลยสนใจศึกษาจนกลายเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา

และได้รับความร่วมมือมากมายไม่ว่าจากนักจิตวิทยาสังคมจาก 5 ประเทศที่ออกไปสำรวจเรื่องราวรักๆออนไลน์ แถมยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าของเวปไซต์และแอพหาคู่ดังๆในอเมริกามากมายอีกด้วย

สรุปเนื้อหาที่น่าสนใจก็คือสมัยก่อนรุ่นปู่ย่าหรือพ่อแม่เรานั้นมักพบรักและแต่งงานกับคนไกล้ตัวรั้วไกล้บ้าน พอนึกย้อนกลับมาที่ครอบครัวตัวเอง เออ..ก็จริงว่ะ

เพราะจำได้ว่าตอนถามยายว่าเจอกับตาได้ไงก็บอกว่าคนหมู่บ้านเดียวกันเห็นหน้ากันมาแต่เด็ก พอโตขึ้นหน่อยก็เลยแต่งงานกัน ถ้าถามว่าเบื้องหลังการแต่งงานกับคนบ้านไกล้เรือนเคียงนั้นคืออะไรก็ต้องบอกว่าเพราะคนยุคสมัยนั้นไม่ได้มีตัวเลือกมากเหมือนสมัยนี้

ในยุคสมัยที่การเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก ทำให้ได้เจอคนในวงแคบๆไกล้ตัวเท่านั้น และการแต่งงานในสมัยก่อนก็ยังถือว่าเป็นการที่ทำให้ผู้หญิงได้ออกจากบ้านมากลายเป็นผู้ใหญ่ ผู้หญิงสมัยก่อนนั้นจะถูกตีกรอบอย่างมากว่าต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไปไหนมาไหนไม่ได้ จนกระทั่งต้องยอมแต่งงานเพื่อเป็นการพาตัวเองออกไปจากบ้าน ไปใช้ชีวิตได้มากขึ้น

แต่พอนึกถึงสมัยนี้เราจะพบว่าเรามีตัวเลือกมากมายขึ้น ลำพังการอยู่ในเมืองก็ทำให้เรามีตัวเลือกที่จะพบเจอคนแปลกหน้ามากมายเมื่อเทียบกับสมัยปู่ย่าหรือพ่อแม่เราแล้ว เรายังมีเครื่องมือออนไลน์มากมายทั้งเฟซบุ๊คทั้งไลน์ที่ทำให้เจอคนแปลกหน้าไกลตัว เมื่อเปรียบเทียบแล้วเราจะพบว่าเรามีตัวเลือกมหาศาลจนเราไม่รู้ว่าเราจะเลือกอะไรให้กับชีวิตดี ดังนั้นชีวิตคนส่วนใหญ่สมัยนี้ก็เลยเอาแต่เลือก เลือก เลือก แล้วก็เลือก

เลือกไปเรื่อยๆเหมือนชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนไม่คิดว่าตัวเองจะแก่ตัวลงไป เราเอาแต่เลือกเพราะคิดว่าจะมีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่ข้างหน้า..แน่นอน คนในเฟซบุ๊ควันนี้มีออนไลน์กว่าสองพันล้านคนแล้ว ลำพังแค่ในกรุงเทพเพศตรงข้ามในอายุไล่ๆกันก็มีตั้งหลายล้านคน ฉะนั้นเราจึงมักจะมองหาแต่สิ่งที่ดีกว่าไปเรื่อยๆ

เลือกไปเรื่อยๆ จนลืมที่จะเริ่ม..เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่จริงจังกับใครซักคน

นี่คือปัญหาที่ผู้เขียนพบในอเมริกาของวัยผู้ใหญ่ตอนต้น 22-30 โดยประมาณ ที่จะเอาแต่ค้นหาความรักที่สมบูรณ์แบบจนลืมความจริงต้นหน้าไป บางคนอาจจะคิดว่าจะมีแค่ไหนกันที่คนจะเจอกันบนเนตบนเฟซ แล้วรักกันจนแต่งงานกันจริงได้นานๆ อยากจะบอกว่าตามสถิติปัจจุบันคู่รักกว่า 3 ใน 5 ที่อเมริกานั้นพบกันบนออนไลน์แล้วก็แต่งงานกัน..มากกว่าเจอกันตามร้านหนังสือ หรือร้านกาแฟอีกนะครับ

ดังนั้นความรักออนไลน์จึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือเราเอาแต่เลือกจนลืมที่จะรัก เพราะความรักนั้นคือการทุ่มเทลงไปในความสัมพันธ์

จากคู่รักที่เร่าร้อนในช่วง 2 ปีแรกก็จะกลายเป็นคู่รักแบบเพื่อนคู่เคียง ความเร่าร้อนหมดไปความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าก็ตามมา แม้จะไม่หวือหวาเท่าช่วงแรกแต่ก็จะมีอะไรบางอย่างที่มีคุณค่าถ้าคุณอดทนไหว

แต่ปัญหาก็คือคนสมัยนี้ไม่ค่อยอดทนแล้ว ไม่ใช่แค่เด็กวัยรุ่ยแต่เป็นกันทุกรุ่นทุกวัย ในผลสำรวจบอกว่าที่อเมริกาขณะที่บางคนกำลังเดินทางไปหาแฟนของตัวเองก็ยังมองหาตัวเลือกใหม่ไปพร้อมกัน เค้าบอกว่าก็แค่เผื่อไว้ในกรณีที่ความสัมพันธ์ในปัจจุบันจบลง

นี่แหละครับปัญหา เราเอาแต่เลือก แต่เผื่อ จนลืมทุ่มเทลงไปจนหมดหน้าตักแล้วรอดูผลลัพธ์สุดท้ายที่ตามมาและเรียนรู้จากมันไป

ยังมีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ที่คุณน่าจะอยากรู้ และรู้เพื่อเข้าใจและเตรียมรับมือกับมัน รู้จากประสบการณ์ที่ผิดพลาดของคนอื่นในเล่มนี้ให้มากที่สุดเพื่อที่จะลดโอกาสการผิดพลาดของตัวเราเอง

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยังไง เทคโนโลยีจะพัฒนาไปแค่ไหน แต่พื้นฐานที่ดีของความสัมพันธ์ก็คงเดิมเหมือนเมื่อรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า หรือตาทวด นั่นก็คือการเรียนรู้ไปด้วยกันกับคนที่เราทุ่มเทให้..ผมคิดว่าแบบนั้นนะ

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/