จริงหรือมั่ว? ชัวร์หรือมั่วนิ่ม ให้แน่ใจต้อง “เช็ก” ก่อน “แชร์”

พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กๆฉบับพกพาหยิบไปอ่านที่ไหนก็ง่าย แถมยังได้เกร็ดสาระความรู้มากมายกว่า 36 บท โดยอาจารย์เจษฏา อมยิ้มล็อคอินดังห้องหว้ากอผู้ที่คอยมาไขปัญหาคาใจของชาวพันทิปและชาวเน็ตมากมาย

พูดถึงพันทิปสมัยก่อนนั้นคนที่เป็นล็อคอินดังๆสมัยซักสิบปีก่อนของห้องหว้ากอก็น่าจะหนีไม่พ้นพี่ช่างไฟ คุณหมอเจ และ Mr.T ที่ตามตำนานว่ากันว่าเป็น…. ที่เวลามีปัญหาข้องใจอะไรก็มักจะปรึกษาสองล็อคอินนี้เป็นประจำ ด้วยความที่ผมก็ไม่ได้เล่นพันทิปมานานมากแต่มาได้ยินชื่อล็อคอินอาจารย์เจษฎาตามช่องข่าว และหน้าฟีดพวกเวปข่าวหรืออะไรที่เพื่อนๆแชร์กัน จนทำให้รู้ว่าตอนนี้มีล็อคอินนี้กำลังเป็นที่นิยมในช่วงเวลานี้

จริงๆสมัยนี้ต่างกับสมัยสิบปีก่อนตรงที่ social media ยังไม่บูมเท่าทุกวันนี้ ด้วยสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เนต 4G ทั่วทุกหย่อมหญ้าราคาถูกให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลและแชร์กันได้ง่ายๆกว่าสมัยสิบปีก่อนมากนัก

ผมจำได้ว่าสมัยนั้นจะเล่นเนตทีต้องไปร้านเนต ไม่ก็ต้องติดเนตที่บ้าน โชคดีหน่อยสมัยนั้นเนตไฮสปีดเริ่มระบาดแล้ว แต่ความเร็วสูงสุดในแพคที่ชาวบ้านจะจ่ายได้อย่างผมเดือนละ 590 บาทก็คือ 128/64Kbps หลายคนอาจจะงงว่าตกลงมันเร็วกี่เม็กกะบิทฟะ เอาง่ายๆ 1 ใน 8 ของ 1Mbps ของทุกวันนี้ก็ได้ครับ คุณอาจจะเดาความเร็วไม่ออกว่ามันเร็วขนาดไหนฟะเพราะทุกวันนี้เนตมันไปหลายสิบ Mbps แล้ว แต่ผมจะบอกว่าความเร็วเนตที่เพิ่มขึ้นก็สัมพันธ์กับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นตามไป ผมไม่รู้สึกเลยว่าเนตมันเร็วขึ้นซักนิดเดียวจากวันนั้นจนวันนี้ เพราะจากสถิติค่าเฉลี่ยนของระยะเวลาในการโหลดหน้าเวปหลักๆยังอยู่ที่ราวๆ 6-8 วินาทีอยู่ดี แต่ถ้าคุณลองเอาเนตสมัยก่อนมาโหลดหน้าเวปสมัยนี้ผมว่าคุณคงนึกว่าโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์คุณ error ทั้งวันแน่ๆ

กลับมาที่เรื่องราวในหนังสือ พออ่านจบก็พบว่าอาจารย์เจษฏาท่านนี้ได้ช่วยไขข้อสงสัยของมวลมหาประชาชนโซเชียลมากมาย รวมถึงข่าวดังกระแสแชร์แรงๆในเนตให้หายสงสัยหรือคาใจไปตามๆกัน เช่น ปลาดิบไม่ได้โดนย้อมสี

มาจากข้อสงสัยของชาวเนตว่าทำไมปลาดิบในร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ดูแดงสดสวยน่ากินจนคิดอีกทีก็แอบดูไม่เป็นธรรมชาติหรืออัตรายหรือเปล่า

พอมีคนลองเอาปลาดิบเนื้อแดงๆไปแชร์น้ำก็พบว่าสีนั้นละลายออกไปกลายเป็นปลาสีซีดๆขาวๆ ก็พาลโวยโพสลงเฟซตัวเองให้เพื่อนแชร์ว่า ปลาดิบสีสดต้องย้อมสีไม่ธรรมชาติเป็นอันตรายหลอกให้เรากินแน่ๆ

แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจารย์เจษฏาเฉลยว่า จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปว่าสีแดงในเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลาดิบนั้นมาจากสารโปรตีนตามธรรมชาติที่ชื่อว่า มายโอโกลบิน (myoglobin) สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อมาก

มายโอโกลบินนี้มีฮีม (heme) ซึ่งเป็นรงควัตถุสีแดงที่สามารถจับกับออกซิเจนได้ดี มีหน้าที่เก็บออกซิเจนเพื่อเป็นพลังงานให้แก่กล้ามเนื้อ เนื้อปลาดิบจึงมีสีแดงเข้มโดยเฉพาะส่วนด้านข้างลำตัวที่ค่อนข้างแข็ง สีก็จะยิ่งเข้มเข้าไปอีก

ประเด็นสำคัญคือ สารมายโอโกลบินนี้เป็นโปรตีนที่ละลายน้ำได้ดีมาก จึงไม่แปลกถ้านำเนื้อปลาแดงๆมาแช่น้ำ มายโอโกลบินจะละลายออกมาจนทำให้น้ำเป็นสีแดง และเนื้อปลาจะกลายเป็นซีดขาว คล้ายๆเวลาที่เราย่างเนื้อวัวและเนื้อหมูแล้วมีน้ำสีแดงออกมา ซึ่งน้ำนั้นก็ไม่ใช่เลือด แต่เป็นมายโอโกลบินที่ละลายออกมาจากเนื้อ..

นี่แหละครับหนึ่งในเรื่องที่อาจารย์เจษฏาผู้เขียนอยากให้คนใช้โซเชียลทุกคนช่วยกัน “เช็คก่อนแชร์” กันบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ใครหลอกให้เราเป็นฟรีมีเดียหลอกใช้ได้ง่ายๆ

โดยเฉพาะเรื่องไสยศาสตร์ลวงโลกทั้งหลาย เช่นเรื่อง ไข่อาถรรพ์

ที่คนไทยบางกลุ่มที่ถูกสำนักพ่อหมอทรงเจ้าเครื่องทรงทั้งหลายลวงว่าให้ซื้อไข่หน้าวัดมาถวายแล้วจะช่วยล้างคุณไสยที่โดนเข้าตัวให้ออกไปแล้วหายซวย หายเจ็บป่วย จนเงินหายหมดตัวเพราะซื้อไข่ไปได้ เราอาจจะคุ้นที่ว่าแค่เอาไข่ถูกตัวพอตอกไข่ออกมาก็มีเลือดอยู่ในไข่ มีตะปูอยู่ในไข่ ทำไมถึงไม่เจอฝาอิชิตันแจกเบนซ์ในไข่บ้างนะ

อาจารย์แกก็มาเฉลยว่าความจริงแล้วการเอาสิ่งของต่างๆที่ดูเป็นคุณไสยใส่ในไข่นั้นง่ายนิดเดียว ก็แค่เอาเข็มฉีดยาเจาะรูเล็กๆตรงด้านแป้นแล้วดูไข่ข้างในออกแล้วใส่เลือดหมู หรือใส่ตะปูเล็กๆลงไปในไข่ จากนั้นก็เอาพวกขี้ผึ้งเทียนไขปิดรูนั้นแล้วก็ทาสีปิดรอยขี้ผึ้งว่าเป็นลงยันต์อาคม เพียงเท่านี้พอตอกไข่ออกมาจากไข่ไก่พร้อมดาวก็กลายเป็นไข่อาถรรพ์หลอกค่าครูเงินบริจาคคนที่ต้องการที่พึ่งทางใจได้สบาย

อยากรู้ว่าถ้าสำนักนั้นเอาไข่ CP มาทำแล้วฟ้องว่ามีสิ่งแปลกปลอมในไข่น่าจะรวยหลายสิบล้านได้สบายๆเลยนะครับ

และนี่ก็เป็นเหตุผลส่งท้ายที่อาจารย์เจษฏาพูดได้โดนใจผมมากว่า..เลิกพูดว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” แล้วเปลี่ยนเป็น “ไม่เชื่อต้องพิสูจน์” กันนะครับ

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/