Purple Cow การตลาดแบบวัวสีม่วง

การตลาดแบบวัวสีม่วงคืออะไร? แล้วทำไมต้องวัวสีม่วง? นี่คือคำถามแรกตอนเห็นหน้าปกเล่มนี้ว่าทำไมต้องวัวสีม่วงด้วยนะ เอาวะ หยิบติดมือมาอีกเล่มก็ได้ (จากงานหนังสือเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมาครับ) พออ่านจบปุ๊บก็เข้าใจปั๊บว่าทำไมต้องเป็น Purple Cow ผู้เขียน Seth Godin ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด(เค้าเขียนหนังสือมาหลายสิบเล่มแล้ว)ตั้งใจจะล้อกับหลักการตลาด 4P 5P หรือ 7P อะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะ Product, Price, Place, Promotion, People ว่าไหนๆก็ชอบใช้ทฤษฎีตัว P กัน ก็เลยขอเอี่ยวไปอีก…

HOOKED สร้างของให้คนติด

ความลับเบื้องหลังจองเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิล และแอปเปิลว่าทำอย่างไรคนถึงชอบจนหยุดใช้ไม่ได้ ผมว่าเป็นหนังสือด้านจิตวิทยาการตลาดอีกเล่มที่น่าสนใจ โดยที่แก่นหลักของเรื่องก็คือการสร้างพฤติกรรมการเสพย์ติดผ่านวงจรการสร้างที่มี 4 ขั้นตอนหลักที่เริ่มด้วย “ตัวกระตุ้น” ที่เป็นการสะกิดให้คนรู้ตัว จากนั้นก็ “ทำให้ง่าย” อะไรที่คนเคยทำได้อยู่แล้วก็ทำให้ง่ายขึ้น หรืออะไรที่คนเคยอยากทำแต่ไม่ได้ทำเพราะความยุ่งยากก็ทำให้ง่ายลง แล้วก็ต่อด้วย “รางวัลที่คาดเดาไม่ได้” แต่รู้ว่าต้องได้อะไรซักอย่างจากการกระทำนั้น เพียงแค่ยังเดาไม่ออกว่าจะเจออะไรบ้าง และสุดท้ายคือ “การลงทุนลงแรง” ไม่ว่าจะเป็นการขอให้คนทำมากขึ้น หรือยอมจ่ายเงินเข้าไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นเหตุผลให้คนยิ่งติดและถอนตัวไม่ขึ้นด้วยตัวเองจนกลายเป็นนิสัยใหม่ของคนขึ้นมา และนี่ก็คือใจความของหมดของหนังสือเล่มนี้ แต่ถ้าจะให้สรุปจบแค่นี้ก็คงไม่สนุก ผมขอเล่าให้ฟังเพิ่มถึงบางช่วงบางตอนที่ผมสนใจเป็นพิเศษแล้วกันนะครับ บริษัทที่ดีหรือจะเป็นผู้นำในตลาดได้ ต้องเป็นสิ่งแรกที่คนคิดถึงเมื่อต้องการทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จ เช่น เบื่อ…เปิดเฟซบุ๊กหรือ…

ไม่มีอะไรในเกาหลีเหนือ

เพิ่งอ่านมหัศจรรย์เกาหลีใต้จบเมื่อวานก็เลยนึกขึ้นได้ว่ายังเหลือหนังสือเกาหลีอีกเล่มที่ดองไว้นานแล้วนี่นา และหนังสือเกาหลีอีกเล่มที่ว่าก็คือ “เกาหลีเหนือ” เล่มนี้ที่ได้มาตั้งแต่ตอนงานหนังสือเมื่อต้นปี 2018 นี่แหละครับ เกาหลีเหนือประเทศที่หลายคนคุ้นหูดีผ่านสื่อต่างๆที่คอยฉายภาพว่ามีผู้นำเผด็จการที่แสนบ้าคลั่ง ดูเผินๆเหมือนเป็นประเทศที่แสนจะโหดร้าย เป็นประเทศปิดที่มอมเมาผู้คนทั้งหลายให้หลงไหลในตัวผู้นำ ประเทศที่มักถูกฉายภาพอีกว่าผู้คนนั้นอดอยาก คนส่วนใหญ่ไม่มีความสุข แถมยังล้าหลังสุดๆเสมือนหยุดประเทศไว้เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว จนอาจเผลอคิดได้ว่าถ้าอยากย้อนเวลาไปดูโลกเมื่อซัก 40-50 ปีที่แล้วให้ลองไปดูที่เกาหลีเหนือก็ได้มั้ง แต่นั่นแหละครับ สิ่งที่เรามักคิดว่ารู้ดีแท้จริงแล้วเรากลับไม่รู้อะไรเลยก็ได้ ครั้งหนึ่งผมเคยดูสารคดีเกาหลีเหนือทาง Netflix กลับพบอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจว่า ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องวิ่งให้ทันโลก เราไม่จำเป็นต้องเปิดรับอะไรมากมาย สำคัญคือเรามีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นมั้ย ในเมื่อผู้คนในเกาหลีเหนือผ่านภาพฉายของสารคดีเหล่านั้นก็แลดูมีความสุขตามอัตภาพดี ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าประเทศที่เจริญกว่าทั้งหลายในโลกแต่กลับป่วยใข้ทางจิต เต็มไปด้วยโรคซึมเศร้าทุกวันนี้ แท้จริงแล้วใครกันแน่ที่ล้าหลังกว่ากัน ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนระบอบราชาธิปไตย หรือเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จที่มีผู้ปกครองเป็นสมมติเทพแบบเกาหลีเหนือหรอกนะครับ เพราะผมก็ยังพยายามหาความสุขตามอัตภาพจากหนังสือที่ผมมี…

KOREA, The impossible country, มหัศจรรย์เกาหลี จากเถ้าถ่านสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

พูดถึงเกาหลีมั่นใจว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ตั้งแต่แดจังกึม ที่ถูกเอามาล้อกันเป็นแดกจังมึง กิมจิ, Super Junior, เพลงฮิตอย่าง NOBODY NOBODY BUT YOU และ กังนัมสไตล์ที่ได้พันล้านวิวแรกบนยูทูป เกาหลีที่ดูมหัศจรรย์เต็มไปด้วยสีสันและสวยงามด้วยศัลยกรรมในความรู้สึกเราในวันนี้ ใครจะรู้ว่าเมื่อ 60 ปีที่แล้วเกาหลีเองเคยจะเป็นหนึ่งในชาติที่พังพินาศอย่างถึงที่สุด เกาหลีเองเพิ่งได้เอกราชจากญี่ปุ่นเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อปี 1945 จากนั้นก็ยังถูกสองขั้วมหาอำนาจโลกฉีกประเทศเกาหลีออกเป็นสองส่วน เกาหลีเหนืออยู่ภายในการชี้นำจากโซเวียตหรือรัสเซียในวันนี้ ส่วนเกาหลีใต้อยู่ในความดูแลของสหรัฐ แต่ใช่ว่าเกาหลีใต้ในยุคแรกที่ได้เอกราชจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเกาหลีใต้ถูกปกครองด้วยผู้นำเผด็จการมาอย่างยาวนาน จนอาจบอกได้ว่าเกาหลีใต้เพิ่งจะเป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบจริงๆก็เมื่อสามสิบปีที่ผ่านมาก็ว่าได้ เกาหลีใต้หนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วจนมีเศรษฐกิจติดลำดับต้นๆของโลกในวันนี้ แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับไม่เคยพบความสุขเลย หนึ่งในชาติที่มีชั่วโมงการทำงานสูงที่สุดในโลก หนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงแซงญี่ปุ่นขึ้นไปแล้ว และหนึ่งในชาติที่ถูกปลูกฝังให้แข่งขันกันจนถึงที่สุด…

Modern Romance ถอดรหัสรักออนไลน์

เป็นหนังสือที่น่าจะซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเมื่อปลายปีก่อน แล้วเพิ่งจะได้หยิบมาอ่านเมื่อสามวันก่อน(ตอน July 2017) แวปแรกแอบท้อเพราะหนังสือมันหนากว่าหนังสือปกติเพราะมีตั้ง 3ร้อยกว่าหน้า.. แต่พอได้อ่านดูเลยรู้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่ายมากแถมยังสนุกและได้ความรู้ที่น่าสนใจอีกด้วย เลยทำให้ 300 กว่าหน้านั้นอ่านจบได้ภายใน 3 วันไม่ขาดไม่เกิน ถ้าหน้าปกบอกว่า #ถอดรหัสรักออนไลน์ แล้วหลังจากปกเข้าไปข้างในล่ะเป็นไง..ก็ต้องบอกว่าทั้งเล่มกว่าสามร้อยหน้าเป็นเรื่องของนักพูดเดี่ยวไมค์ไมโครโฟนที่ค่อนข้างดังคนนึงของอเมริกาที่ชื่อว่า Aziz Ansari เกิดสงสัยในเรื่องความรักของคนสมัยใหม่หรือจะบอกว่าสมัยนี้แทนดีนะ ก็เลยสนใจศึกษาจนกลายเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา และได้รับความร่วมมือมากมายไม่ว่าจากนักจิตวิทยาสังคมจาก 5 ประเทศที่ออกไปสำรวจเรื่องราวรักๆออนไลน์ แถมยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าของเวปไซต์และแอพหาคู่ดังๆในอเมริกามากมายอีกด้วย สรุปเนื้อหาที่น่าสนใจก็คือสมัยก่อนรุ่นปู่ย่าหรือพ่อแม่เรานั้นมักพบรักและแต่งงานกับคนไกล้ตัวรั้วไกล้บ้าน พอนึกย้อนกลับมาที่ครอบครัวตัวเอง เออ..ก็จริงว่ะ เพราะจำได้ว่าตอนถามยายว่าเจอกับตาได้ไงก็บอกว่าคนหมู่บ้านเดียวกันเห็นหน้ากันมาแต่เด็ก พอโตขึ้นหน่อยก็เลยแต่งงานกัน ถ้าถามว่าเบื้องหลังการแต่งงานกับคนบ้านไกล้เรือนเคียงนั้นคืออะไรก็ต้องบอกว่าเพราะคนยุคสมัยนั้นไม่ได้มีตัวเลือกมากเหมือนสมัยนี้ ในยุคสมัยที่การเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก…

Animal Farm แอนิมอลฟาร์ม สงครามกบฏของสรรพสัตว์

เป็นวรรณกรรมเล่มที่สองที่เคยอ่าน เล่มแรกคือ Utopia (ไม่ใช่สถานที่อาบน้ำหลังศูนย์วัฒนธรรมนะครับ) และมาถึงเล่มนี้คือ Animal Farm ว่าด้วยเรื่องของการลุกขึ้นปฏิวัติของเหล่าสัตว์ในฟาร์มจากมนุษย์ จากเหล่าสัตว์ที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงจากมนุษย์เดินสองขากลายมาเป็นเหล่าสัตว์ลุกขึ้นฮือไล่มนุษย์เจ้าของฟาร์มออกไปเพื่อปกครองดูแลกันเอง แต่พอเมื่อเวลาผ่านไปก็จะพบว่าความโลภและอำนาจนั้นทำให้สัตว์นั้นค่อยๆกลายเป็นมนุษย์ที่เจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ กดขี่สัตว์ด้วยกันเองขึ้นเรื่อยๆ บิดเบือนหลอกลวงกันขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดบรรดาสัตว์อย่างหมูที่เป็นกลุ่มผู้นำในฟาร์มแห่งสรรพสัตว์นั้นทำตัวเยี่ยงมนุษย์เองที่เค้าเคยโกรธเกลียด และสาบแช่งต่างๆนาๆ จากบัญญัติ 7 ประการตอนตั้งต้นว่าสุดท้ายแล้วสัตว์อย่างพวกเค้าจะไม่ทำตัวเยี่ยงมนุษย์นั้นกลับเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่ามนุษย์ยิ่งนัก ผู้เขียนๆเรื่องนี้ในยุคที่รัสเซียปฏิวัติการปกครองจากพวกราชวงศ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 จนถูกห้ามตีพิมพ์ในอังกฤษ์เป็นเวลาหลายปีเพราะในช่วงนั้นอังกฤษเป็นพันธมิตรกับรัสเซียในช่วงสงครามโลก แม้จะคนละประเทศแต่อิทธิพลก็ยังแผ่ขยายมาถึงอังกฤษอดีตมหาอำนาจของโลกได้เต็มที่ในช่วงนั้น สุดท้ายแล้วอ่านจบพบว่านี่คือนวนิยายตลกร้ายของสังคมโลกในหลายๆประเทศทั่วโลก ไม่เหมือนมากหน้าก็น้อยบท เพราะกลุ่มผู้นำก็อยากจะคงอำนาจตัวเองไว้ และกลุ่มผู้คนประชาชนก็ได้แต่คว้าฝันให้อิ่มท้องไปเรื่อยๆ George Orwell เขียน คนเดียวกับผู้เขียน 1984

Marketing 3.0 from product to customer to human spirit

บางคนอาจสงสัยหรือไม่ก็ผมเองนี่แหละที่ตั้งคำถามกับตัวเองตอนหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านว่า “สมัยนี้อะไรๆก็ 4.0 หมดแล้ว จะมัวมาอ่านอะไรที่ช้าไปแล้วทำไม?” ครับ 3.0 อาจเชยกว่า 4.0 จริง แต่สำหรับผมๆคิดว่าต่อให้มี 1.0 หรือ 0.1 ที่เชยตกยุคไปแล้วสุดๆผมก็จะตามอ่านถ้าผมยังไม่รู้ในสิ่งนั้น ผมคิดว่าผมเป็นพวกนักการตลาดแบบมวยวัดนะ ไม่ได้ร่ำเรียนมาแบบชาวบ้านเค้า ปากกัดตีนถีบหาความรู้มาเองตลอก ถ้าถามว่าอ่านจบแล้วได้อะไรบ้างล่ะ ก็ต้องบอกว่าได้ไม่น้อยเลยกับเรื่องที่ยังไม่รู้ จริงๆแล้วผมคิดว่าเล่มนี้น่าจะเป็นเรื่องของ social network หรือการตลาดแบบ social media มากกว่านะถ้าถอดเปลือกเอาแก่นมาคุยกัน เพราะการตลาดแบบ human spirit…

HEGARTY ON CREATIVITY THE ARE NO RULE ลบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง

คำนิยามหน้าเล่มบอกไว้ว่า “คู่มือสามัญประจำตัวสำหรับคนที่ใช้ “ความคิด” ทำงาน ส่งตรงจากนักโฆษณามือหนึ่งของอังกฤษ แล้ว “นักโฆษณามือหนึ่งของอังกฤษ” ที่ว่าผู้นี้เป็นใคร? อ๋อเค้าคือ John Hegarty หนึ่งในนักโฆษณาที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษคนหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้ง Bartle Bogle Hegarty (BBH) บริษัทโฆษณาระดับโลกที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก และมีลูกค้าเป็นบริษัทดังๆ ไม่ว่าจะเป็นลีวายส์ ออดี้ เพลย์สเตชั่น ยูนิลีเวอร์ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บริติชแอร์เวย์ และอีกเพียบที่เค้าไม่ได้บอก นอกจากนี้เขายังเคยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท Saatchi &…

The Life of Nicola Tesla นิโคลา เทสลา อัจฉริยะนักฝันผู้เดียวดาย

สรุปหนังสือ The Life of Nicola Tesla นิโคลา เทสลา อัจฉริยะนักฝันผู้เดียวดาย เรื่องราวชีวิตของยอดนักประดิษฐ์ผู้เปลี่ยนโลก แต่กลับไร้ชื่อเสียง ลาภยศ และความรัก ผมได้ยินคำว่า “Tesla” ครั้งแรกสมัยเล่นเกมส์ Red Alert ฝ่ายสัมพันธมิตรจะมีอาวุธป้องกันฐานที่ชื่อว่า Tesla Coil ที่สามารถยิงสายฟ้าป้องกันฐานเวลาฝั่งตรงข้ามส่งทหารเข้ามาบุก และถ้าสร้างติดๆกันสามารถรวมพลังสายฟ้าให้แรงขึ้นและยิงได้ไกลขึ้นอีก และถ้าเป็น Red Alert 2 ก็จะมีตัวทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่ชื่อว่า Tesla Soldier…

Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก

โดย พิชารัศมิ์ Marumura ถ่ายทอดเรื่องราวของการทำธุรกิจด้วยใจรักผ่าน 16 บริษัทที่ดีของญี่ปุ่น.. เมื่อพูดถึงคำว่า “ธุรกิจ” หรือ “บริษัท” คนส่วนใหญ่มักนึกถึงภาพองค์กรที่แสวงหาผลกำไร ซึ่งก็ไม่ผิดครับเพราะธุรกิจคือการหาเงินเข้ามาเพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจเติบโตอยู่รอดได้ในการแข่งขันของตลาด เพียงแต่บริษัทส่วนใหญ่มักจะแสวงหากำไรไปในทางที่คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงสังคมคนรอบข้างหรือแม้แต่พนักงานด้วยซ้ำ ก็เลยทำให้ผมนึกถึงชาวบังกลาเทศคนนึงที่ชื่อ ยูนุส เค้าได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์จากการก่อตั้ง กรามีน หรือธนาคารจนคน และกลายเป็นต้นแบบของ “ธุรกิจเพื่อสังคม” ให้กับหลายๆประเทศทั่วโลก กลับมาที่ 16 บริษัทที่ดีของญี่ปุ่นนี้ มีทั้งบริษัทที่คุ้นหูและหลายบริษัทก็ไม่คุ้นเอาเสียเลย แต่พอได้อ่านดูก็จะพบเรื่องราวและแนวคิดที่น่าทึ่งเพราะทุกบริษัทเริ่มจากการคิดเพื่อผู้อื่นหรือสังคมคนรอบข้างก่อนจะมาสู่ผลกำไร เพราะบริษัทเหล่านี้มีแนวทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า ถ้าสังคมอยู่ได้เราก็อยู่รอด ถ้าสังคมพัฒนาเราก็จะเจริญ..…