ชีวิตผิดได้ หนุ่มเมืองจันทร์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ๒๘

เล่มล่าสุดจากงานหนังสือล่าสุดที่ผ่านมา(ปลายปี2560)ของคุณ หนุ่มเมืองจันทร์ นักเขียนชายที่ทำให้ผมตกหลุมรักในสำนวนลีลาการเขียนของแกซะเหลือเกิน ในชื่อเล่มว่า “ชีวิตผิดได้” เหมือนจะ “ไม่ได้” แต่ก็มีการขีดฆ่าทับจงใจให้ดูออกว่าชีวิตจริงมันผิดได้เว้ย ถ้าจะให้สรุปก็คงสรุปได้ไม่ยากเลยว่า เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ “ผิด” และ “พลาด” จากคนเก่งทั้งดังและไม่ดังจากทั่วโลก ที่กว่าจะเก่งและดังได้อย่างทุกวันนี้ในจริงในชีวิตเค้าเต็มไปด้วยบทเรียนจากความผิดพลาดมากมาย และในโลกที่เราคุ้นเคยกับการ “ห้าม” การ “ผิด” ในแทบทุกเรื่องตั้งแต่เป็นเด็กเล็กจนเริ่มเข้าเรียน ตั้งแต่เลิกเรียนจนเข้าสู่วัยทำงาน เราถูกหล่อหลอมสั่งสอนเหลือเกินให้อย่าทำพลาด หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำผิด โดยหารู้ไม่ว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายนั้น เต็มไปด้วยบทเรียนจากความผิดพลาดที่ยากจะมีสอนจากที่ไหน เหมือนประโยคนึงที่ผมจำเนื้อหาได้ แต่กลับจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูดว่า “คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด คือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย” ถ้าใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดช่วยกระซิบบอกผมทีผมอยากตามมาเติมเครดิตให้เจ้าของครับ…

THE 100 YEAR LIFE ชีวิตศตวรรษ

เมื่ออ่านจบก็พบว่า โอ้ ทำไมเราไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่สิบปีที่แล้วนะ และจะมีซักกี่คนนะที่ได้อ่านหรือตระหนักถึงในสิ่งที่หนังสือเล่มนี้พูดถึงแล้ว เรื่องที่เราส่วนใหญ่กำลังจะมีอายุยืนยาวกันถึง 100 ปี ฟังเผินๆฟังดูเป็นเรื่องดี แต่ถ้าใช้ชีวิตแบบผิวเผินแบบนี้ต่อไปนี่นรกบนดินแน่ ค่าเฉลี่ยของอายุคนไทยตอนนี้น่าจะอยู่ราวๆ 71-77 ปีครับ ฟังดูแบบนี้เราอาจเผลอคิดว่า “อ้อ นี่ชั้นจะมีอายุถึงประมาณนี่ก่อนจะตายซินะ” แต่ความจริงแล้วคุณคิดผิดครับ เพราะนี่คือค่าเฉลี่ยของปีนี้ครับ ไม่ใช่ปีที่คุณกำลังใกล้จะตาย เพราะกว่าถึงคุณจะอายุถึงเลข 7 นำหน้า ถ้าคุณอายุประมาณเดียวกับผม คือขึ้นต้นด้วยเลข 3 นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะอายุยืนยาวถึง 90 ปีขึ้นไปเลยล่ะครับ เพราะอะไรน่ะหรอครับ ก็เพราะว่าทุกๆสิบปีอายุคนเราจะยืนยาวขึ้นอีกสองปีเป็นอย่างน้อยครับ นั่นทำให้ถ้าเรายิ่งอายุน้อยในวันนี้เราก็จะยิ่งมีอายุที่ยืนยาวขึ้นในวันข้างหน้า…

Dutchland ดัชต์แลนด์ แดนมหัศจรรย์

Dutch หรือ ดัชต์ แวปแรกคนส่วนใหญ่คงนึกถึงประเทศฮอลแลนด์ เนเธอร์แลนด์ นี่แหละบางทีก็แอบงงๆว่าทำไมประเทศเดียวถึงมีสองชื่อได้นะ และก็คงหนีไม่พ้นที่จะนึกไปถึงกังหันลมแบบนมดัชต์มิลในบ้านเรา ตลาดประมูลดอกไม้สดที่โด่งดังระดับโลก หรือแม้แต่ทุ่งดอกทิวลิปที่โด่งดังก็ตาม แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องส่วนน้อยที่คนส่วนใหญ่รู้จักเกี่ยวกับประเทศนี้หรือผู้คนชาวดัชต์ และหนังสือ Dutchland นี่เองที่จะมาเปิดโลกของชาวดัชต์ให้เราได้รู้จักเค้ามากขึ้น การประมูล คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักการประมูลดี มันคือการที่ให้คนที่สนใจค่อยๆเพิ่มค่าเพิ่มราคาขึ้นไปเรื่อยๆ จากน้อยสุดไปสู่มากสุด จนไม่มีใครให้มากกว่านี้ แล้วสินค้าที่ถูกประมูลนั้นก็จะกลายเป็นผู้ที่ให้ราคาคนสุดท้ายไป นี่คือการประมูลแบบอังกฤษ(English Auction)ในแบบที่เราชาวโลกคุ้นเคย แต่ยังมีการประมูลอีกแบบที่น้อยคนจะรู้จักและเป็นการประมูลแบบกลับหัวกลับหางกันแบบที่เราทุกคนคุ้นเคย นั่นคือการประมูลจากราคามากไปหาน้อย เหมือนเริ่มจาก 100 ไปสู่ 0 และระหว่างที่ผู้ควบคุมการประมูลขานราคาแบบลดลงไปเรื่อยๆ คนแรกที่ประมูลก็จะได้เป็นเจ้าของไปเลย ไม่ต้องแข่งกับใครเหมือนแบบแรก(แต่จริงๆก็แข่งนะ…

THE STRATEGIST คิดอย่างนักวางกลยุทธ์

โดย Cynthia A. Montgomery เป็นผู้สอนในหลักสูตรยอดนิยมของ Harvard Business School ที่มีชื่อว่า EOP ย่อมาจาก Entrepreneur, Owner และ President ผู้เรียนส่วนใหญ่เลยเป็นบรรดา CEO ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจ หรือไม่ก็ทายาทที่กำลังจะมารับช่วงต่อ จากบริษัทระดับกลางที่มีรายได้หรือยอดขายต่อปีอยู่ที่หลักสิบล้านดอลลาร์ จนถึงพันล้านดอลลาร์ เราอาจจะคิดว่าคนเหล่านี้ต้องรู้จักและเข้าใจในเรื่องกลยุทธ์ หรือ strategy เป็นอย่างดีอยู่แล้วซิ ไม่งั้นจะสามารถพาบริษัทให้โตจนมียอดขายต่อปีหลายสิบจนถึงพันล้านดอลลาร์ได้หรอ แต่ในความเป็นจริงแล้วใช่ครับ เพราะผู้เขียนบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงการคิดแบบนักวางกลยุทธ์อย่างแท้จริง และงานการวางกลยุทธ์ส่วนใหญ่ก็กลับเป็นของที่ปรึกษา…

จากศูนย์สู่ซาร่า From Zero to Zara

อามันซิโอ ออร์เตกา จากชายธรรมดากลายเป็นคนที่ร่ำรวยอันดับ 4 ของโลก ด้วยทรัพย์สินรวมกว่า 78.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2017) ด้วยการขายเสื้อผ้าให้คนกว่าครึ่งโลกสวมใส่กัน เมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆของโลก อามันซิโอ ออร์เตกา คงดูไม่หวือหวาน่าสนใจนักสำหรับใครๆ เพราะเขาไม่ได้ร่ำรวยด้วยการทำธุรกิจเทคโนโลยีทันสมัย แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อเขาได้ติดอันดับบุคคลที่ร่ำรวย 10 อันดับแรกของโลก สปอร์ตไลท์จากความสนใจทั้งหลายก็กลับให้ความสนใจกับชายนิรนามผู้นี้อย่างมาก เหมือนจะบอกว่าอยู่ดีๆประเทศจากหมู่แฟโรอะไรก็ไม่รู้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกได้ก็ไม่ผิดนัก แล้ว Amancio Ortega ผู้นี้เป็นใคร? ทำไมเจ้าของแบรนด์ Zara ร้านขายเสื้อผ้าที่ดูไม่ได้หวือหวาหรูหราใดๆถึงได้ทำให้เขากลายเป็นคนที่รวยเป็นอันดับ 4…

กิน หลับ ขยับตัว, Eat Move Sleep

ถ้าจำให้มีคำนิยามซักประโยคให้กับหนังสือเล่มนี้ ผมว่าน่าจะเป็น “กินให้ดี หลับให้พอ ขยับตัวให้มาก” น่าจะเป็นประโยคนี้แหละครับ คือใจความของเล่มนี้ TOM RATH ผู้เขียนป่วยเป็นโรคที่หาได้ยากมาก เป็นโรคผิดปกติทางพันธุกรรมที่เรียกว่า Von Hipple-Lindau (VHL) ที่พบเพียง 1 ใน 4,400,000 คนเท่านั้น การกลายพันธุ์นี้ไปปิดสวิตช์ยีนที่ควบคุมเนื้องอก ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย จากคนปกติมีเนื้องอกไม่กี่จุดในตัวก็ถือเป็นเรื่องใหญ่แล้ว แต่สำหรับชายคนนี้มีเป็นสิบๆจุดพร้อมกัน แถมแต่ละจุดก็ไม่ใช่เล็กๆ เนื้องอกก้อนโตๆผสมมะเร็งอยู่เต็มตัวไปหมด หลังจากผู้เขียนรู้ว่าตัวเองเป็นชายที่โชคร้ายติดอันดับโลก เค้าเริ่มตั้งสติได้แล้วก็หาทางที่จะมีชีวิตให้ยาวนานที่สุด เริ่มจากการพยายามศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเนื้องอกเนื้อร้ายที่อยู่ในร่างกายเค้า ศึกษาหาจุดอ่อนของมัน และพยายามเล่นงานจุดอ่อนของโรคร้ายนี้กลับคืน…

99เรื่องต้องรู้ก่อนมีบ้าน

และต่อให้มีบ้านแล้วก็ควรต้องอ่าน เพราะเชื่อได้เลยว่าหลายเรื่องเจ้าของบ้านไม่เคยรู้มาก่อนเลย อย่างผมมีบ้านของตัวเองมา 3 ปีแล้ว ใน 99 เรื่องผมกลับรู้ไม่ถึงสิบเรื่องด้วยซ้ำ วันนี้เลยขอหยิบยกบางเรื่องเอามาเล่าให้คนที่อยากมีบ้าน กำลังจะมีบ้าน และมีบ้านแล้ว ได้อัพเดทความรู้เอาไว้ ซี่กุญแจต้องหงายขึ้น…นึกภาพเวลาเรากำลังจะเข้าบ้านแล้วหยิบกุญแจจะเสียบเข้าลูกบิดประตูบ้านนะครับ ทีนี้ดูที่ลูกกุญแจของเราว่าตอนที่เรากำลังจะเสียบเข้ารูกุญแจเพื่อปลดล็อคบ้านนั้น มันจะมีสองด้าน ด้านที่เรียบๆกับด้านที่เป็นซี่ๆแบบฟันปลา การติดกุญแจประตูที่ถูกต้องนั้นต้องให้เราหันด้านซี่แหลมๆของลูกกุญแจขึ้นด้านบนเวลาจะไขเข้าประตูบ้านทุกครั้ง เพราะจะช่วยยืดอายุของสปริงในรูกุญแจให้ใช้ได้ยาวนานที่สุด กุญแจเขาควายดีกว่า…ถ้าไม่เห็นภาพประกอบก็คงจะงงได้ไม่ยาก แต่คิดภาพง่ายๆตามผมนะครับ กุญแจประตูส่วนใหญ่มีสองแบบที่เราคุ้นๆกัน คือแบบลูกบิดที่ใช้กันเป็นประจำ กับแบบเป็นก้านออกมาให้เราบิด กุญแจเขาควายคือแบบก้านครับ และที่ผู้เขียนแนะนำแบบนี้เพราะมันง่ายต่อการใช้งานกว่า เพราะแม้มือของคุณจะไม่ว่างบิดเพื่อเปิดเพราะหอบหิ้วของมาเต็ม ก็สามารถใช้ข้อศอกหรือแขนกดกุญแจแบบเขาควายเพื่อเปิดประตูได้ ดีใจที่กุญแจที่บ้านทางโครงการติดตั้งแบบนี้ให้หมดทุกห้องเลย บานเลื่อนอากาศรั่ว…ถ้าเราสังเกตุดูเวลาไปดูบ้านตามโครงการใหม่ๆ จะเห็นว่ามักติดตั้งประตูหรือกระจกบานเลื่อนไว้รอบบ้าน…

เศรษฐศาสตร์มีจริต

ดร. วิรไท สันติประภพ, นักเศรษฐศาสตร์พเนจร เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องเศรษฐศาสตร์อีกเล่มที่อ่านเข้าใจได้ไม่ยาก และก็ทำให้เข้าใจภาพความจริงของเศรษฐกิจบ้านเมืองเราในช่วงก่อนยุค คสช ได้มากพอควร และพออ่านจบก็เลยเพิ่งรู้ว่าผมมีหนังสือของนักเขียนคนนี้อยู่อีกเล่มแต่ยังไม่ได้อ่าน คือ “ประชานิยม: ทางสู่ความหายนะ” เป็นเล่มที่ได้จากงานหนังสือเมื่อต้นปี 2560 แต่เล่มนี้เพิ่งได้มาจากงานหนังสือเมื่อปลายปีเดียวกันแต่ดันอ่านจบก่อนซะงั้น เนื้อหาหลักๆของเล่มผมว่าแบ่งเป็นสองส่วน คือ “ประชานิยม” กับ “ทุนนิยม” (ความจริงในเล่มมีเนื้อหาหลายหัวข้อ อันนี้ผมขอสรุปจากความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ) “ประชานิยม” กลายเป็นสิ่งที่คนไทยถูกพรรคการเมืองและรัฐบาลตั้งแต่ยุคทักษิณมอบให้ เสมือนขนมเค้กที่ปราศจากคำเตือนถึงอันตรายของโรคต่างๆที่จะตามมา เพราะทุกครั้งที่ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือพรรคการเมืองใดๆก็ตามต้องการคะแนนนิยมจากประชาชน ก็จะหยิบเอานโยบายประชานิยมต่างๆขึ้นมาหาเสียง ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า 20บาททุกสายทุกเส้น(จนวันนี้บินหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้) ไปจนถึงจำนำข้าวทุกเมล็ด…

เศรษฐศาสตร์เปลี่ยนสิ่งประหลาดให้เป็นเรื่องปกติ

ถ้าใครที่ชื่นชอบผลงานของอาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์หลายชุด ที่เขียนให้ชาวบ้านอ่านเข้าใจได้แม้จะไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์มา(ตัวอย่างผมเป็นต้น) เช่น โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี หรือล่าสุดก็ Global Change ที่มีถึงเล่ม 5 เข้าไปแล้วกับสำนักพิมพ์ Openbooks ก็น่าจะชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกับที่ผมชอบ และส่วนนึงผมก็คิดว่าหนังสือเล่มนี้ออกไปทางแนวเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในบ้านเรา ทำให้อ่านง่าย อ่านสนุก แถมยังได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้และมองข้ามมาตลอดด้วย ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องเกริ่นเพื่อปูความเข้าใจของหนังสือเล่มนี้เยอะ ผมขอหยิบยกตัวอย่างบางเรื่องที่ผมคิดว่าน่าสนใจเอามาสรุปให้อ่านโดยประมาณนึงก็แล้วกัน รูปแบบ 3 อย่างของการตัดสินใจ....คนเรามีรูปแบบการตัดสินใจอยู่ 3 รูปแบบ 1. การใช้จุดอ้างอิง (reference-dependence) คือ…

Sapiens; A Brief History of Humankind เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ

สรุปแบบย่อเมื่ออ่านจบ หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะหนา(ซึ่งก็ควรจะหนาเพราะมีทั้งหมด 608 หน้า) แต่เนื้อหาข้างในกลับสนุกมากจนไม่อยากให้จบเลย(นี่พูดจริงๆไม่ได้เวอร์) เพราะหนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติที่เป็นเราทุกวันนี้ ภายใต้สายพันธุ์ที่ชื่อว่า Sapiens หรือเรียกเต็มๆว่า Homo Sapiens ที่หมายความว่ามนุษย์ผู้เจริญแล้ว(เป็นการตั้งชื่อที่อวยตัวเองสุดๆเลยนะเจ้ามนุษย์) แต่ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์นั้นไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียวแบบโดดๆ แต่ก่อนหน้านี้มนุษย์เองก็มีมากมายหลายสายพันธุ์ ถ้าให้เปรียบก็คงเหมือนกับแมวมากมายที่มีหลายสายพันธุ์ เพียงแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมมนุษย์สายพันธุ์อื่นถึงสูญพันธุ์ไปหมดขนาดสายพันธุ์อย่างนีแอนเดอร์ทาล (Homo Neanderthalensis) ที่ดูจากโครงสร้างที่เหลืออยู่แล้วก็แข็งแรงกว่าเซเปียนส์อย่างเราด้วยซ้ำ แต่ทำไมกันเราผู้อ่อนแอกว่าถึงอยู่รอดและครองโลกอยู่ในวันนี้ได้ หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้ตั้งแต่อดีตกาลอันไกลโพ้นของมนุษย์สายพันธุ์แรกเริ่ม ตั้งแต่เริ่มแยกสายพันธุ์จากลิงไร้หางออกมา แล้วก็ปฏิวัติการเกษตร จนเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ และให้ภาพถึงอนาคตของอภิมนุษย์ หรือมนุษย์เซเปียนอย่างเรานั้นอาจขึ้นมาเป็นผู้นำเพื่อล้างเผ่าพันธุ์เราเองก็ได้ หนังสือเซเปียนส์เล่มนี้แบ่งเนื้อหาออกเป็นสี่ส่วน ตามการปฏิวัติครั้งสำคัญของมนุษยชาติ เริ่มตั้งแต่การปฏิวัติการรับรู้ ที่แยกเราออกจากฝูงสัตว์หรือมนุษย์สายพันธุ์อื่นโดยเด็ดขาด…