The Story ชีวิต วิสัยทัศน์ แรงบันดาลใจ

หนังสือที่รวบรวมบทสัมภาษณ์คนเก่งๆ ทั่วฟ้าเมืองไทยที่คัดเลือกอย่างบรรจงจากเว็บไซต์ The Story หนึ่งในเว็บประจำที่ผมชอบเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ดีๆ อยู่เรื่อยๆ หนังสือเล่มนี้ผมได้จากมือคุณเล็ก หนึ่งในผู้ก่อตั้ง The Story ในวันที่เรานัดคุยสบายๆ กันที่ร้านกาแฟ ส่วนตัวผมรู้สึกว่านักข่าวน้อยคนที่จะสามารถตั้งคำถามได้ดี สามารถดึงคำตอบที่คนถูกถามก็คาดไม่ถึงออกมาได้ และที่ดีกว่านั้นคือสามารถทำให้คนถูกสัมภาษณ์รู้สึกดีและอยากที่จะตอบคำถามเราไปพร้อมกัน คุณเล็กคือหนึ่งคนนั้นที่หาได้น้อยยิ่งในความคิดผมครับ ที่น่าสนใจไปกว่านั้นของหนังสือ The Story ชีวิต วิสัยทัศน์ แรงบันดาลใจ คือนอกจากจะมีคนเก่งและดังที่เราหลายคนคุ้นชื่อคุ้นหน้ากันอยู่แล้ว แต่หนังสือเล่มนี้ยังมีบทสัมภาษณ์คนเก่งมากๆ ที่ยังไม่ได้ดังอะไร ผมว่าประเด็นนี้น่าสนใจเพราะส่วนตัวผมก็อยากให้คนที่เก่งและดีได้มีพื้นที่ฉายแสงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อที่จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานทำธุรกิจ แล้วอาจจะเผลอมีความคิดว่า “ฉันเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้มีต้นทุนอะไรแต่กำเนิด ไม่ได้ดังเพราะนามสกุลหรือเป็นที่รู้จักมาก่อน…

A Little History of Science วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์การไขความจริงแห่งสรรพสิ่ง

สรุปหนังสือ A Little History of Sciencce ที่มีชื่อไทยว่า วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์การไขความจริงแห่งสรรพสิ่งเล่มนี้ทำให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์ความเป็นมาของความเป็นวิทยาศาสตร์ หรือศาสตร์แห่งการค้นคว้า ทดลอง ตรวจสอบ เพื่อหาความจริงแท้ของแต่ละสิ่งที่เราไม่รู้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสมัยก่อนเราอยู่ในยุคของความเชื่อและเรื่องเล่าเป็นส่วนใหญ่ เราเรียกลูกไฟกลมๆ บนฟ้าว่าพระอาทิตย์ แต่พอวิทย์ศาสตร์เข้ามาไขคำตอบเราก็เรียกกันใหม่ว่า ดวงอาทิตย์ หรือจากที่เคยเชื่อว่าโลกแบนห้ามเดินทางออกไปไหนไกลเดี๋ยวตกจากผืนโลก เราก็ได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วโลกกลม และโลกก็ไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลอย่างที่เคยเชื่อ และดวงอาทิตย์ก็เป็นแค่หนึ่งในดาวฤกษ์จำนวนมากมายหลายล้านล้านดวงในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพรศาลแห่งนี้ ไปจนถึงการไขความลับว่าความเจ็บป่วยเราไม่ได้มาจากภูติผี หรือวิญญาณชั่วร้าย แต่มาจากเชื้อโรคร้ายตัวเล็กๆ ในระดับที่ตามองไม่เห็นต่างหากที่สามารถทำให้เราป่วยไข้หรือตายได้โดยง่าย ทำให้มนุษย์เราเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคใหม่ จากที่เคยต้องสวดมนต์บูชาอะไรก็ไม่รู้ กลายมาเป็นกินยารักษาโรคได้แบบตรงจุด แม่นยำ…

Leadershit ผู้นำคนนั้นสอนให้รู้ว่า – ท้อฟฟี่แบรดชอว์

ทักษะการเป็นผู้นำดูเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นผู้นำได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็สามารถเรียนรู้การจะเป็นผู้นำที่ดีจากแบบอย่างที่ดี และเราก็สามารถเรียนรู้ที่จะไม่เป็นผู้นำแย่ๆ จากตัวอย่างที่มีให้เห็นได้ เหมือนที่หนังสือ Leadershit เล่มนี้รวบรวมตัวอย่างผู้นำที่ดีและผู้นำแย่ๆ มาให้เราเห็นภาพโดยสะดวกว่าเราอยากจะเป็นผู้นำแบบไหนกันแน่นะ เพิ่มเติมอีกนิดคำว่า Leadershit ผมเคยพูดเล่นๆ กับพี่เก่ง Creative Talk ในช่วงกลางปี 2021 ที่โควิดระบาดหนักมากในบ้านเรา ถึงขนาดที่มีคนมากมายที่ติดเชื้อต้องรอเตียงอยู่บ้านจนพาลทำให้คนทั้งบ้านติดเชื้อตามไปด้วย และที่หนักกว่านั้นคือการที่คนรอเตียงอยู่บ้านจนต้องตายคาบ้านท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องที่ได้แต่มองดูตาปริบๆ ท่ามกลางศึกยื้อชิงวัคซีนในบ้านเราที่สะท้อนให้เห็นภาพผู้นำที่วันๆ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากว่าเรามีวัคซีนที่ดีที่สุดแล้ว เหมาะสมที่สุดแล้ว เราดำเนินการเต็มที่แล้ว พยายามโทรหาเตียงหน่อยเดี๋ยวก็ติด เรียกได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด ที่เผยให้เห็นความเป็นผู้นำของผู้ใหญ่ในบ้านเราหลายคนว่าชีวิตประชาชนอาจไม่ได้มีความหมายใดกับท่านๆ เลย ในช่วงนั้นผมได้เห็นหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ท่านผู้นำ รัฐบาล…

Data-First Marketing บทที่ 9 สร้างทีมและวัฒนธรรมที่ใช่

สรุปหนังสือ Data-First Marketing มาถึงบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ บทที่ 9 ว่าด้วยเรื่องการสร้างทีมที่ใช่และวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการใช้ Data-Driven Business ลองมาดูกันนะครับว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง จะทำองค์กรให้ Data-Driven ต้องเริ่มจาก Head ที่เป็น Top Management Level ถ้าไม่ผลักดันจากบนลงล่างก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้จากล่างขึ้นบน แล้วทีม Marketing ที่เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจกลับไม่ค่อยได้เข้ามาร่วมวางแผนงานเรื่อง Technology หรือ Data สักเท่าไหร่ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว Data ทำให้ Marketing…

Data-First Marketing บทที่ 8 Campaign Framework

สรุปหนังสือ Data-First Marketing บทที่ 8 The Data-First Marketing Campaign Framework เมื่อการตลาดแบบฉลาดใช้ดาต้าคือการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยดาต้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือต้องตอบโจทย์ทางธุรกิจ ยอดขายต้องเพิ่มหรือต้นทุนต้องลด ไม่ใช่ทำไปแค่เพื่อให้ได้ตัวเลข Traffic, Enagement หรือใดๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเป้าหมายทางธุรกิจที่สามารถวัดผลได้จริง และบทนี้จะอธิบายให้เป็นขั้นตอนว่าการจะเปลี่ยนมาเป็น Data-First Marketing นั้นมีขั้นตอนไปจนถึงวิธีการทำงานอย่างไร Development Phase วางแผนให้พร้อมก่อนลงมือทำ ก่อนจะเริ่มต้นทำงานใดแม้จะไม่ใช่การตลาด ก็ต้องเริ่มจากการวางแผนให้ดีก่อนค่อยลงมือทำ เพราะมันจะทำให้เราเหนื่อยนน้อยลงกับปัญหาที่เราสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ เราต้องเริ่มจากการรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่เราต้องการ เราจะสื่อสารด้วยอะไร…

Data-First Marketing บทที่ 7 Data Analysis ลด Bias และ Belief ที่ทำร้ายธุรกิจเสียที

สรุปหนังสือ Data-First Marketing บทที่ 7 กับการทำ Data Analysis หรือการใช้ Data เพื่อลด Belief และ Bias จากการตัดสินใจออกไปให้เหลือน้อยที่สุด ยุค Digital Driven Data เมื่อเราหันมาใช้ดิจิทัลมากขึ้นก่อให้เกิดดาต้ามากมาย และทุกวันนี้เราใช้ดาต้าแค่เพียงน้อยนิดเท่านั้น เปรียบกับนักเดินเรือที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร แม้รอบตัวจะเต็มไปด้วยน้ำมากมายแต่ก็ล้วนแต่เป็นน้ำทะเล เป็นน้ำเค็มที่ไม่สามารถดื่มกินเข้าไปได้ เราต้องหาวิธีการกลั่นหรือสกัดน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดที่เราสามารถดื่มได้ กับการทำ Data Analysis ก็เช่นเดียวกัน อุปสรรคสำคัญคืออย่างของการจะทำ…

Data-First Marketing เริ่มต้นด้วย Data Integration และ MarTech Stack Strategy

บนก่อนหน้าจะพูดถึงการวางแผนโดยละเอียด มาถึงบทที่ 6 ของ Data-First Marketing นี้จะเป็นการเริ่มลงมือทำ ตั้งแต่การทำ Data Integration, Architecture และ Technical Resource ว่าก่อนจะเริ่มต้นทำ ​Data-Driven Marketing ได้เราจะต้องเริ่มจากการเชื่อมดาต้าเข้าด้วยกัน และต้องวาง MarTech Stack Strategy ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจเรา Data-Driven เริ่มที่ Marketing Technology Stack Strategy อันดับแรกต้องวาง…

Data-First Marketing บทที่ 5 การตลาดกับธุรกิจต้องประสานกัน

การจะทำให้บริษัทหรือองค์กรตัวเองเป็น Data-Driven Marketing ได้ต้องเกิดจากการทำงานใกล้ชิดกันระหว่างทีมต่างๆ จนเป็นเสมือนทีมเดียวกันทั้งองค์กร โดยเฉพาะทีมการตลาดจะต้องทำงานร่วมในการกำหนดกลยุทธ์บริษัทร่วมกับทีมบริหารธุรกิจดุจทีมเดียวกัน จะไม่ใช่การที่ทีมธุรกิจไปกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายมา จากนั้นก็ส่งให้ทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทีมการตลาดไปกำหนดแผนการของตัวเองต่อท้ายอีกทีหนึ่ง และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการที่ทีมการตลาดหรือทีมต่างๆ ต้องสามารถเข้าถึงดาต้าที่ต้องการได้โดยสะดวก เพื่อจะได้เอามาใช้วัดผลแคมเปญการตลาดว่าเกิดประสิทธิผลมากแค่ไหน ทำไปแล้วเกิดยอดขายจริงเข้ามาเท่าไหร่จากแคมเปญนี้ หรือทำไปแล้วไม่เกิดผลเลยแต่แค่ลูกค้าส่วนใหญ่แวะเข้ามาซื้อด้วยตัวเองเพราะความคุ้นเคย หรืออาจจะมาจากแคมเปญการตลาดช่องทางอื่น เพราะถ้าวัดผลไม่ได้เราก็ไม่มีทางรู้ว่าจะต้องปรับปรุงตรงไหน หรือตรงไหนที่ดีแล้วจะได้เอามาถอดรหัสแกะเป็นสูตรสำเร็จเพื่อขยายผลเพิ่มในครั้งหน้า เพราะส่วนใหญ่แล้วทีมการตลาดที่ต้องใช้ดาต้าลูกค้ามากที่สุดกลับเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้น้อยที่สุด จนทำให้มักจะถูกมองว่าเป็นทีมที่เอาแต่ใช้เงิน ไม่ใช่ทีมที่สร้างเงิน ขนาดคนการตลาดเองยังมองแบบนั้นเลยเมื่อทำการสำรวจออกมา ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างมากเมื่อปัญหาหลักเป็นแค่ว่าไม่สามารถเข้าถึงดาต้าที่ต้องการเพื่อติดตามวัดผลประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดที่ทำลงไปได้ครับ และยิ่งถ้าเป็นบางธุรกิจที่อาจจะไม่ได้มีแค่ Online data หรือ Digital data เท่านั้นที่ส่งผลกระทบสำคัญต่อธุรกิจ แต่ยังมี…

5 เลเวลการใช้ Data-Driven Marketing จากหนังสือ Data-First Marketing

บทที่ 4 นี้จะเป็นแบบสอบถามวัดระดับความพร้อมของบริษัทคุณว่าอยู่ในระดับไหนของการใช้ Data-Driven Marketing ในหนังสือ Data-First Marketing ที่จะแบ่งออกได้เป็น 5 Level ที่สามารถลองทำตามแล้วนับคะแนนดูครับว่าทีมการตลาดบริษัทคุณอยู่ในเลเวลไหนวันนี้ แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเดินไปข้างหน้าได้เราควรรู้ก่อนว่า ณ ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน หลายครั้งเรามักหลงคิดไปเองว่าเราทำได้ดีกว่าที่ทำได้จริง และมีน้อยบริษัทจริงๆ ที่ประเมินตัวเองต่ำไป ดังนั้นในบทที่ 4 ของหนังสือ Data-First Marketing จึงแบ่งระดับการใช้ Data-Driven Marketing ของบริษัทต่างๆ ออกเป็น 5 ระดับ…

Data-First Marketing กลยุทธ์ Transform บริษัทให้เป็น Data-Driven Marketing

บริษัทต่างยอมรับว่า Data นั้นสำคัญต่อธุรกิจและการตลาดขนาดไหน แต่กลับมีน้อยมากที่ยอมลงทุนในการทำเรื่อง Data-Driven Marketing อย่างจริงจัง จนทำให้ผู้ที่กล้าลงทุนก่อนใครค่อยๆ กลายเป็นผู้นำที่ทิ้งห่างคู่แข่งไปเรื่อยๆ ในระยะยาวแบบที่ยากจะไล่ตามได้ทันเหมือนการทำธุรกิจและการตลาดยุคก่อนด้วย บ้างก็ไปให้ความสำคัญกับแค่การทำ Data Analytics เข้าใจผิดว่าการทำ Data-Driven Marketing ทั้งหมดคือการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ในมือ ในความเป็นจริงแล้วการทำ Analytics เป็นแค่ปลายทางของการทำ Data-Driven เพราะในความเป็นจริงแล้วการจะทำ Data-Driven ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การวาง Data Strategy ให้สอดคล้องกับ Business Strategy และ…