สรุปหนังสือ ขยับแค่ 1 องศา ปัญหาก็หายไปครึ่งหนึ่ง

สรุปหนังสือ ขยับแค่ 1 องศา ปัญหาก็หายไปครึ่งหนึ่ง The Obstacle is the Way หนังสือเล่มนี้เตือนสติให้รู้ว่า “ปัญหา” ส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ “ใหญ่” อย่างที่เรามักคิดไว้ เพราะคนเรานั้นมักเติมความคิดและอารมณ์เข้าไปในปัญหาส่วนใหญ่ให้ร้ายแรงเกินจริงกันทั้งนั้น

เช่น เวลามีเพื่อนมาปรึกษาปัญหาอะไรก็ตามกับเรา เรามักจะมีคำแนะนำที่ดูเหมือนทำได้ง่าย ใช้ได้จริง และไม่ต้องเสียเวลาคิดเยอะก็หาคำตอบได้ทันทีให้กับเพื่อนเสมอ แต่พอปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเราๆมักจะมองไม่เห็นทางออก คิดไม่เจอคำตอบ หรือแม้กระทั่งตัดสินไปแล้วว่าชีวิตต้องพังพินาศแน่ๆ

แต่ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งชีวิตที่ผ่านมานั้น ปัญหาที่ทำให้ชีวิตเราต้องพังพินาศ หรือร้ายแรงอย่างที่คิดนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย หรือถ้าจะเกิดขึ้นก็น้อยครั้งมาก คำถามคือทำไมเราส่วนใหญ่หรือแทบทุกคนถึงชอบจินตนาการถึงปัญหาของตัวเราไปในทิศทางนั้นเสมอล่ะ

ผมขอเปรียบง่ายๆให้เห็นภาพว่าปัญหาก็เหมือนกัน “กล่อง” หรือ “ห้อง” ที่มืดไม่มีแสงไฟ ทำให้เราไม่รู้ว่าห้องๆนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน เพราะไม่มีแสงให้เรารู้ขนาดของห้อง พอห้องนั้นมันมืดมาก เราก็ไม่รู้ว่ามันจะมีหน้าต่างหรือประตูอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วห้องๆนั้นอาจจะเล็กมาก แค่เดินสามก้าวก็ถึงประตูแล้ว หรืออาจจะเป็นห้องที่มีหลอดไฟเต็มห้องไปหมด แค่สวิทไฟมันห่างจากเราแค่เอื้อมมือไปทางขวาเอง

ด้วยความที่มันเป็นห้องปิดที่ไม่มีแสงจากภายนอกเข้ามา ในหัวเราก็จะจินตนาการไปเองโดนสัญชาติญาณว่ามันต้องเต็มไปด้วยอันตรายแน่ๆ ห้องนี้อาจจะกว้างใหญ่มากและไม่มีประตูใดๆอยู่เลย หรือพื้นห้องอาจจะเต็มไปด้วยหลุมบ่อที่พอขยับพลาดแค่ก้าวเดียวก็จะตกลงไปคอหักตายในความมืดจนไม่มีใครรับรู้แน่ๆ

นี่แหละครับ คนเราส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบนี้เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเอง รวมถึงผมเองก็ยังเป็นอยู่บ่อยๆ คือการ “หลงคิดไปเองว่าปัญหาแย่เกินจริง” แต่พอเป็นปัญหาของเพื่อนหรือคนอื่น เรามักจะมองเห็นทางออกทันที ก็เพราะเรายืนอยู่นอกห้องหรือกล่องของปัญหานั้น พอเราเอาตัวเองมาวางไว้ข้างนอก เราก็สามารถสำรวจปัญหาอย่างที่มันเป็นจริงได้ทุกแง่มุม โดยไม่ต้องเอาอารมณ์หรือความกลัวมาปรุงแต่งมันเพิ่ม

ถ้าจะสรุปว่า “ปัญหาคือความจริง ความทุกข์คือความคิด” ก็ไม่ผิดหรอกครับ

ถ้าเรามองปัญหาที่ตัวเองเจอ เหมือนเป็นปัญหาของคนอื่น แล้วเราก็ปรึกษากับตัวเอง เหมือนที่เราให้คำปรึกษาคนอื่น ร้อยละ 99 ของปัญหาในชีวิตคงจะกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปถนัดตา

ในหนังสือเล่มนี้พูดถึงจักรพรรดิ์แห่งจักรวรรดิโรมันที่ชื่อว่า มาร์คัส ออเรลิอัส ได้เรียนรู้จากนักปราชญ์คนสำคัญ และอาจารย์ดังๆในยุคนั้นมากมาย และหลักการแนวคิดในลัทธิสโตอิก จนออกมาเป็นหนังสือชื่อดังที่ยังมีขายที่คิโนะคุนิยะจนถึงทุกวันนี้ หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “Meditation”

ถ้าจะสรุปว่าเป็นหนังสือที่แนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาทุกอย่างของชีวิตก็ไม่ผิดนัก ออเรลิอัสเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นเชื่อได้เลยว่าต้องเจอปัญหาหนักหนากว่ามนุษย์เงินเดือน หรือพ่อค้านักธุรกิจอย่างเราๆส่วนใหญ่มากกว่าไม่รู้ตั้งกี่ร้อยกี่พันเท่า ทั้งการฆ่าฟัน แย่งชิงบัลลังก์ หรือการทรยศหักหลัง ดังนั้นถ้าจะสรุปว่าถ้าหนังสือเล่มนั้นแก้ปัญหาของแม้แต่ออเรลิอัสได้ ปัญหาของเราส่วนใหญ่ในชีวิตก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

หนังสือเล่มนี้บอกวิธีแก้ปัญหาทุกชนิดบนโลกพร้อมด้วยเรื่องราวการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ของคนสำคัญบนโลก โดยมีแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆที่ไม่ว่าปัญหาจะเล็กใหญ่แค่ไหนก็จัดการได้ ประกอบด้วย

ขั้นตอนที่ 1 มุมมอง

บอกให้เรารู้ว่าปัญหาส่วนใหญ่นั้นแก้ได้ด้วยที่ความคิด แค่เปลี่ยนความคิด หรือปรับมุมมองที่มีต่อปัญหาซะใหม่ แล้วปัญหาก็จะไม่ได้ใหญ่อย่างที่เราคิด

ประกอบด้วย การกำหนดมุมมอง/รับรู้ถึงพลังในตัว/จงมีสติ/ควบคุมอารมณ์ให้อยู่หมัด/หัดมองโดยปราศจากอคติ/ปรับเปลี่ยนมุมมอง/เรื่องที่เราควบคุมได้และไม่ได้/อยู่กับปัจจุบัน/คิดนอกกรอบ/ค้นหาโอกาส/เตรียมลงมือทำ

ขั้นตอนที่ 2 การลงมือทำ

หลังจากเราเริ่มปรับมุมมองความคิดแล้ว ถ้าเราไม่ลงมือทำปัญหาก็คงจะไม่ได้ละลายหายไปเองเสมอไป แม้บางครั้งบางปัญหาจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ เพียงแต่การลงมือทำแบบไหนที่จะทำให้ปัญหานั้นแก้ได้โดยไม่ต้องเหนื่อยเกินจำเป็น

ลงมือทำแต่เนิ่นๆ/เริ่มต้นได้แล้ว/จงมุ่งมั่น/ทดลองซ้ำ/ทำตามขั้นตอน/ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด/วิธีที่ได้ผลคือวิธีที่ถูกต้อง/ประโยชน์ของการต่อสู้ทางอ้อม/ใช้อุปสรรคโค่นอุปสรรค/จงควบคุมจิตใจ แต่ปล่อยให้ร่างกายเป็นอิสระ/คว้าโอกาสจากอุปสรรค/เตรียมใจรับความล้มเหลว

ขั้นตอนที่ 3 พลังใจ

การจะแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงได้แค่ลงมือทำก็ยังไม่พอในบางครั้ง พลังใจที่จะมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ หรือบางครั้งก็แค่ต้องยอมรับมันก็เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการทำด้วยความตั้งใจในตอนแรก แต่หมดพลังใจในเวลาไม่นานก็คงไม่อาจสู้พลังใจที่ทำให้เราไม่ย่อท้อต่อปัญหาได้

พลังใจเอาชนะทุกสิ่ง/สร้างป้อมปราการภายในจิตใจ/คาดการณ์ในแง่ลบเสมอ/ศิลปะแห่งการยอมรับความจริง/จงรักในโชคชะตาของตัวเอง/มีความอุตสาหะ/เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว/ระลึกถึงความตายอยู่เสมอ/เตรียมพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนเริ่มด้วย มุมมองที่มีต่อปัญหา ทำให้เราเห็นแก่นปัญหาที่แท้จริงโดยไม่มีเปลือกของอารมณ์มาครอบงำ พอถึงขั้นตอนการลงมือทำก็จะทำให้เราแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องเหนื่อยเกินจริง หรือต้องทำมากเกินไป สุดท้ายพลังใจที่ทำให้เราไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลวที่จะแก้ปัญหา หรือบางครั้งที่เราไม่สามารถทำอะไรกับปัญหานั้นได้จริงๆก็ต้องรู้จักทำใจยอมรับให้ได้ ถ้าทำได้ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ตามหลักแนวคิดของลัทธิสโตอิก เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาไหนที่จะกลายเป็นปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป

อ่านแล้วเล่า

สรุปหนังสือ ขยับแค่ 1 องศา ปัญหาก็หายไปครึ่งหนึ่ง
The Obstacle is the Way
Ryan Holiday เขียน
สำนักพิมพ์ We Learn

สรุปครั้งแรกเมื่อ 2018 09 10

อ่านสรุปหนังสือเล่มอื่นของ We Learn ต่อ https://www.summaread.net/category/we-learn/

สนใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ http://www.welearnbook.com/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&pid=1080573

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/