สรุปหนังสือ ทำไมเราเลี้ยง Pig แต่กิน Pork

สรุปหนังสือ ทำไมเราเลี้ยง Pig แต่กิน Pork และ ทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม โดยทั้งสองเล่มเหมือนหนังสือภาคต่อที่ควรอ่านต่อกันเพื่อไม่ให้ขาดอรรถรส เพราะเป็นหนังสือที่ได้ทั้งสาระ เกร็ดความรู้ ความสนุกกับประวัติศาสตร์กว่า 6,000 ปีของ “คำ” ใกล้ตัวที่คล้ายกันอย่างไกล้เคียงโดยที่สองภาษานี้ไม่ได้อยู่ไกล้กันเลยแม้แต่น้อย

เช่น เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคำว่า “ไฟ” ในภาษาไทย ถึงไปคล้ายกับคำว่า “Fire” ในภาษาอังกฤษซะเหลือเกิน จะบอกว่าเราเอามาจากเค้า หรือเค้าเอาไปจากเรากันแน่นะ เรื่องเล็กๆที่ใครๆก็มองข้ามกลับจุดประเด็นความสังสัยใหญ่หลวงให้กับ William Jones

William Jones ผู้นี้แหละที่เป็นคนช่างสงสัยว่าทำไมคำหลายคำที่ออกเสียงคล้ายกันทั้งที่อยู่กันคนละทวีป อย่างอังกฤษ กับอินเดีย ถึงได้บังเอิญมีความหมายคล้ายกันด้วย จนเหมือนกับว่าทั้งสองภาษาที่ห่างกันหลายพันหลายหมื่นกิโลนั้นกับใช้คำเดียวกันโดยไม่บังเอิญ

เมื่อศึกษาไปก็พบว่าบรรดาภาษาทั้งหลายกว่า 6,000 ภาษาที่ใช้กันบนโลกนั้นต่างมีจุดกำเนิดจาก “ภาษาพ่อ” ร่วมกันอย่างน่าทึ่ง โดยภาษาพ่อที่ว่านี้นักวิชาการเรียกกันว่าภาษา PIE ที่ย่อมาจาก Pronto-Indo-European ที่น่าจะมีต้นกำเนิดอยู่แถวๆตอนใต้ของรัสเซีย ตอนเหนือของทะเลดำ ที่น่าจะเป็นประเทศยูเครนในปัจจุบัน

เมื่อระยะเวลาผ่านไปผู้คนที่ใช้ภาษา PIE นี้ก็กระจายตัวกันออกไปสร้างเนื้อสร้างตัวกันไปทั่วโลก แตกออกเป็น 3 ภาษาหลักในสมัยโบราณคือ ภาษาสันสกฤตแบบพระเวท ภาษาตะกูล Germanic และภาษาละติน

แล้วจาก 3 ภาษาหลักนี้ก็แตกแขนงออกไปอีกมากมาย อย่างภาษาสันสกฤตแบบพระเวทก็แตกออกเป็นภาษาเบงกาลี ภาษาฮินดี และภาษาสันสกฤต ส่วนภาษาตะกูล Germanic แตกออกมาเป็นภาษาเยอรมัน ภาษาอังกฤษ และภาษาดัตช์ ส่วนภาษาโบราณสุดท้ายคือภาษาละตินก็แตกออกมาเป็นภาษาอิตาลี ภาษาสเปน และภาษาฝรั่งเศส

ทั้งหมดนี้คือภาษาในยุคเก่า ก่อนจะแตกแขนงไปอีกมากมายจนกลายเป็นภาษาไทยในปัจจุบัน ถ้าถามว่าภาษาไทยอยู่ตรงไหนต้องบอกว่าน่าจะอยู่ในสายภาษาสันสกฤตครับ

ถ้าจะบอกว่าภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาลูกผสมแบบร้อยพ่อพันแม่ก็ไม่ผิดนัก เพราะเดิมทีอังกฤษเป็นเกาะโดดเดี่ยวในทวีปยุโรป จนชนเผ่าแรกในยุโรปที่เริ่มกระจายตัวออกไปคือชาวเคลต์ จนข้ามไปอยู่บนเกาะอังกฤษกับพวกพื้นเมืองเดิมที่ไม่มีประวัติศาสตร์ จะถือว่าชาวเคลต์เป็นวัฒนธรรมแรกของอังกฤษก็ไม่ผิดนัก

จากนั้นไม่นานก็ถูกชาวโรมันเข้ามารุกรานจนได้ภาษาละตินเข้ามาผสม แล้วพอเยอรมันเสื่อมสลายไปก็เป็นชาวเยอรมันเผ่า Anglia Saxon เข้ามาเอาภาษาตัวเองเข้ามาผสม จากนั้นก็ถึงคิวของชาวเหนืออย่างไวกิ้งเอาวัฒนธรรมและภาษา Norse เข้ามาปนอีกรอบ จนสุดท้ายเป็นชาวฝรั่งเศษเข้ามาปกครองและก็เอาภาษาตัวเองเข้ามาพร้อมกัน

ถ้าถามว่าภาษาอังกฤษประกอบด้วยอะไรบ้าง ก็ต้องบอกว่าผสมกันไม่น้อยกว่า 4 ภาษา คือ ภาษาพื้นเมือง + ภาษาเคลติก + ภาษาละติค + ภาษา Germanic + ภาษาดัตช์ + ภาษาฝรั่งเศส = ภาษาอังกฤษ

ขอยกตัวอย่างจากชื่อหนังสือว่าทำไมเราถึงเลี้ยง PIG และกิน PORK ว่ามีที่มาจากการที่ PIG เป็นภาษาของชาวบ้าน เวลาเราจะบอกชาวบ้านว่าเราต้องการสัตว์ชนิดนี้เราก็ต้องคุยภาษาเดียวกันเค้าเพื่อความเข้าใจตรงกัน แต่พอเนื้อหมูถูกแปลงสภาพปรุงเสร็จอยู่บนจานเราเสริฟให้ชนชั้นสูงกิน เราจึงต้องพูดภาษาฝรั่งเศสที่เป็นชนชั้นปกครองมีเงินกินเนื้อสัตว์ในสมัยนั้นกับเค้าว่าเรากำลังเสริฟ Pork ให้เค้ากินนะ

วัวก็เหมือนกันครับถ้าเราจำได้เราจะเรียกวัวว่า Cow แต่กลับเนื้อวัวเรากลับเรียกว่า Beef เหตุผลก็เหมือนกัน คือภาษาของชนชั้นล่างกับชนชั้นสูง Cow คือไว้บอกว่าเราต้องการวัวกับชาวบ้าน แต่เราบอกว่า Beef เวลาจะเสริฟบนจานให้ชนชั้นสูง

ส่วนทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม แต่กลับเสริฟมาด้วยเนื้อหมูบด หรือเนื้อวัวสับ ไม่เคยกินแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อแฮมจริงๆซักที

ที่มาที่ไปคือ Hamberger นั้นมันเริ่มจากกษัตริย์ที่ชื่อว่าพระเจ้าชาร์เลอมาญ (Charlemagne) สั่งให้สร้างป้อมปราสาทไว้เมื่อประมาณปี ค.ศ. 808 ขึ้น แล้วให้ชื่อว่า Hammaburg จากนั้นจึงกลายเป็นเมือง Hamburg ในปัจจุบัน

ถ้าถามให้ลึกขึ้นอีกคือ แล้วทำไมเมืองนี้ต้องชื่อเมือง Hamburg หรือตั้งชื่อป้อมว่า Hammaburg ล่ะ ก็ต้องบอกว่ามาจากคำว่า Ham หรือ Hamma ในภาษาเยอรมันโบราณหมายความว่า การโค้งงอหรือหักมุม เพราะในพื้นที่ๆสั่งให้สร้างปราสาทขึ้นมานี้นั้นอยู่ในบริเวณโค้งน้ำ เลยเป็นที่มาของทั้งชื่อเมือง Hamburg และปราสาท Hammaburg แล้วมันเกี่ยวกับ Hamberger ยังไงอีกล่ะ

ก็ต้องบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่สร้างเมนูพิเศษด้วยการนำเนื้อส่วน Ham หรือด้านหลังของขาหมูขึ้นมาด้วยการสับบดละเอียด เพราะเนื้อส่วนนี้เดิมทีเป็นเนื้อที่เหนียวเต็มไปด้วยไขมันและกินยาก ทำให้ชาวบ้านต้องลงทุนสับๆๆทุบๆๆให้ละเอียดจนง่ายต่อการกิน จากนั้นก็เอามาเสริฟในรูปแบบเนื้อย่างหรือสเต็ก ยังไม่ได้แปะบนขนมปังแบบในทุกวันนี้

จนคนจากเมืองนี้อพยพไปอเมริกาเมื่อไม่กี่ร้อยปีก่อน ชาวอเมริกาที่เต็มไปด้วยผู้อพยพร้อยพ่อพันแม่ต่างก็ชอบใจในเมนูนี้เพราะกินง่าย นอกจากเนื้อส่วนแฮมก็ยังนำเนื้อเหลือส่วนอื่นเอามาบดๆปั้นเป็นแผ่นแล้วก็ย่าง จากนั้นก็แปะใส่ขนมปังแล้วก็หยิบกินกันได้ง่ายๆและรวดเร็ว นั่นแหละครับที่มาของ Ham จนกลายเป็นป้อมปราการ Hammaburg แล้วกลายเป็นเมือง Hamburg จนให้กำเนิดเนื้อ Ham Streak แล้วก็อพยพเข้าอเมริกากลายเป็น Hamberger ยอดฮิตของทั่วโลกถึงทุกวันนี้

ยังมีอีกหลายคำไกล้ตัวที่น่าสนใจ ที่ให้เล่าหมดก็คงยาว แนะนำว่าซื้อติดไว้อ่านเวลาเดินทางไปไหนจะดีมาก ทั้งอ่านสนุก ทั้งได้ความรู้ แล้วภาษาหรือคำไกล้ตัวจะกลายเป็นเรื่องสนุกอย่างไม่รู้ตัวกว่าที่คิด

อ่านแล้วเล่า สรุปหนังสือ ทำไมเราเลี้ยง Pig แต่กิน Pork และ ทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม

นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา เขียน
สำนักพิมพ์ ชัชพลบุ๊คส์

อ่านครั้งแรกเมื่อ 2018 08 30

อ่านสรุปหนังสือแนวประวัติศาสตร์สนุกๆแบบนี้เพิ่มเติม https://www.summaread.net/category/history/
สนใจสั่งซื้อได้ที่ http://readery.co/9786164237827

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/