สรุปหนังสือ Evolution of Money from Cowries to Crypto Currency วิวัฒนาการของเงินจากหอยเบี้ยสู่คริปโทเคอเรนซี

สรุปหนังสือ Evolution of Money from Cowries to Crypto Currency วิวัฒนาการของเงินจากหอยเบี้ยสู่คริปโทเคอเรนซี

เป็นหนังสือที่ทำให้เข้าใจภาพของ “เงิน” ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงภาพ “เงินในอนาคต” ที่กำลังจะมาถึง

ผมว่าเราควรเริ่มจากคำถามที่ว่า “เงินคืออะไร?”

ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเงิน และเงินในความคิดคนส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นธนบัตร เหรียญ หรือตัวเลขในบัญชีธนาคารที่เราใช้ฝากจ่ายโอนถอนกันทุกวัน แล้วยังมีอะไรอีกบ้างที่สามารถเป็น “เงิน” ได้ในวันนี้

“บุหรี่คือเงินในคุก”

ตั้งแต่สมัยอดีตตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในคุกที่เป็นค่ายกักกันชาวยิวก็มีการใช้บุหรี่เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆที่ต้องการในคุก และแม้แต่ในปัจจุบันคุกบ้านเราก็ใช้บุหรี่แทนตัวเงินเช่นกัน (จากหนังสือล่าสุดที่คุณชูวิทย์เขียนเล่าไว้) เท่ากับว่าในคุก “บุหรี่ก็คือเงิน”

สรุปได้ว่าเงินคือ “ตัวกลาง” ในการแลกเปลี่ยนที่ทุกคนให้การยอมรับร่วมกัน และที่สำคัญเงินนั้นต้องมีความ “หายาก” ในระดับหนึ่ง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า “เงินเฟ้อ” หรือเกิดการสูญค่าในตัวมันไปจนคนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับเงินนั้น เหมือนในสมัยสงครามโลกที่เงินเฟ้อมากจนคนเอาเงินมาเผาแทนฟืนกันก็มี

ในยุคก่อนเราเคยใช้จะมีเงินเราต้องใช้ระบบการ “แลกเปลี่ยน” หรือที่เรียกว่า “Barter” แต่ปัญหาคือการจะหาคนสองคนที่มีความต้องการตรงกันมาแลกเปลี่ยนกันได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่น ถ้าผมมีไก่อยู่สองตัว แต่อยากได้ข้าวสารซักครึ่งถัง ผมต้องไปตระเวนหาคนที่มีข้าวสารแล้วต้องการไก่ที่ผมมี ไม่อย่างนั้นผมก็จะไม่มีทางได้ข้าวสารมากรอกหม้อเลย

เงินเลยเกิดขึ้นมาเพราะเหตุนี้ เพื่อทำให้การแลกเปลี่ยนง่ายขึ้นสำหรับทุกคน

จากเงินที่เริ่มจากหินหายาก หรือหอยเบี้ยกระดูกสัตว์ต่างๆ ก็เริ่มกลายมาเป็นโลหะมีค่า แล้วก็กลายมาเป็นธนบัตร หรือตั๋วรับฝากเงิน แล้วก็กำลังจะกลายเป็นเงินดิจิทัลหรือ #CryptoCurrency เต็มรูปแบบในเร็ววันนี้

พอพูดถึงเรื่องเงินที่เป็นธนบัตร แรกเริ่มเดิมทีคือตั๋วรับฝากเงินที่เป็นโลหะมีค่าในสมัยก่อน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์บอกว่าอาจไม่ใช่แค่เริ่มต้นที่เมืองจีนที่เดียวเมื่อ 118 ปีก่อนคริสตกาลอย่างที่เราเคยได้ยินกัน แต่อาจเริ่มต้นก่อนหน้านั้นอีกนิดที่ชนเผ่าคาร์เทจเมื่อ 146 ปีก่อนคริสตกาล ที่อยู่แถวประเทศตูนิเซียในปัจจุบัน

ธนบัตรในสมัยก่อนเลยเหมือนกับสมุดเงินฝากในสมัยนี้ ที่มีเงินจริงๆที่เป็นโลหะมีค่าหนุนหลัง ไม่ใช่แค่กระดาษเหมือนอย่างธนบัตรดอลลาร์ในอเมริกาอย่างทุกวันนี้

อเมริกาเป็นชาติเดียวที่สามารถพิมพ์เงินเพิ่มได้โดยที่ไม่ต้องมีทองคำหนุนหลังครับ เพราะอเมริกาถือว่าความน่าเชื่อถือของตนนี่แหละมีค่ายิ่งกว่าทอง สุดยอดเลยมั้ยล่ะ

แล้วเงินตราในอนาคตล่ะหน้าตาเป็นอย่างไร?

เคยได้ยินเรื่อง Blockchain มั้ยครับ นั่นแหละครับคือพื้นฐานของเงินตราในอนาคต ในเมื่อเงินอาจไม่ต้องมีค่าในตัวมันเอง แต่พื้นฐานของเงินคือสิ่งที่มีลักษณะความ “หายาก” ในระดับหนึ่ง บวกกับทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับค่าของมัน เมื่อนั้นมันก็สามารถเป็นเงินได้ แม้ว่าจะเป็นแค่รหัสดิจิทัล 01 ที่ไม่มีตัวตนจริงๆเลยก็ตาม

เมื่อ Blockchain เป็นระบบที่ไม่มีศูนย์กลาง ทำให้ไม่มีใครสามารถหรือยากที่จะปลอมแปลงเงินดิจิทัลขึ้นมาเองได้ ดังนั้นมันเลยมีความน่าเชื่อถือไม่น้อยกว่ารัฐบาลในการรับรองเงินนั้น หรืออาจจะน่าเชื่อถือมากกว่าด้วยซ้ำในทุกวันนี้

เงินสกุลดิจิทัลเริ่มต้นที่ Bitcoin ที่หลายคนคงคุ้นดี แล้วก็เริ่มแตกเป็นสกุลอื่นๆจากพื้นฐานเทคโนโลยี Blockchain เดียวกันไม่ว่าจะเป็น Ether หรือ Ripple ที่ธนาคารไทยพานิชย์ก็ขอมีเอี่ยวด้วยการไปร่วมลงทุนกับเค้าด้วยเหมือนกัน แม้เงินสกุลดิจิทัลหรือ crypto currency ในวันนี้ยังไม่สามารถใช้ซื้อของที่เซเว่นหรือจ่ายค่าแท๊กซี่ได้ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะครับเพราะตอนนี้หลายประเทศ รัฐบาลเริ่มทดลองสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองอยู่ในวงแคบ ก่อนจะปล่อยออกสู่ในวงกว้างให้ทุกคนได้ใช้เมื่อพร้อม

เรื่องของ Blockchain ไม่ได้มีแค่สกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่เทคโนโลยีนี้ยังจะเข้ามาปฏิวัติแทบทุกวงการที่จะมาจำกัดตัวการหรือการรวมศูนย์ออกไป ไม่ว่าจะตัวกลางที่คอยทำหน้าที่โอนเงินข้ามประเทศอย่าง SWIFT ที่ตอนนี้การโอนเงินข้ามประเทศต้องยุ่งยากและชักช้าเพราะทุกธุรกรรมการโอนเงินข้ามประเทศต้องผ่านตัวกลางนี้ และก็ต้องตัดบัญชีแบบวันต่อวัน ไม่สามารถทำแบบ realtime หรือทันทีทันใดให้ทันใจได้

แต่ด้วย Blockchain กำลังเข้ามาทำหน้าที่แทนด้วย ทำให้การโอนเงินข้ามประเทศที่เคยต้องยุ่งยาก ใช้เวลานาน และมีค่าธรรมเนียมแพงกำลังจะหายไป ทำให้ยักษ์ใหญ่ที่เคยผูกขาดต้องคิดใหม่ทำใหม่แล้วครับ

หรือแม้แต่ในรูปแบบองค์กรหรือบริษัทเดิมๆก็จะถูกแทนที่ด้วยองค์กรจากระบบ หรือองค์กรในอนาคตที่เรียกว่า DAO ย่อมาจาก Decentalized Autonomous Organization เช่น จากเดิมเราเคยต้องรอรับเงินเมื่องานเสร็จแล้ววิ่งไปวางบิลรับเช็ค แต่อีกหน่อยเมื่อเราใช้ Smart Contact เราสามารถเขียนเงื่อนไขหรือกฏกติกาขึ้นมาที่ระบบ แล้วให้ทั้งสองฝ่ายตกลงยอมรับเงื่อนไขนี้ แล้วเมื่อไหร่ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกันเรียบร้อย ก็จะมีการโอนเงินให้กันโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่างานเสร็จไม่ต้องทำเรื่องให้ยุ่งยาก เดี๋ยวเงินก็จะวิ่งเข้ามาเอง

สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วจากบริษัทประกัน AXA ที่ใช้เทคโนโลยี Smart Contact กับประกันเที่ยวบินดีเลย์ ถ้าเมื่อไหร่เครื่องบินดีเลย์ปุ๊บเงินก็เข้าปั๊บภายในสองนาที ไม่ต้องไปยื่นเรื่องทำเอกสารขอเคลมให้ยุ่งยากกับมนุษย์อีกต่อไปครับ

สุดท้ายนี้ขอจบด้วยเรื่องประเทศไทยกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0

ผู้เขียนบอกว่านโยบายนี้จะสำเร็จได้ทางธนาคารของไทยเองต้องเปลี่ยนมุมมองต่อสินทรัพย์ใหม่ จากเดิมการจะปล่อยให้ใครกู้นั้นต้องมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้มาค้ำประกัน อย่างที่ดิน เครื่องจักร หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ธนาคารสามารถมั่นใจว่าจะเอาไปขายมาใช้เงินคืนได้ถ้าเบี้ยว

แต่ด้วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นให้คนไทยสร้างสรรค์มูลค่าทางปัญญา หรือผลผลิตทางความคิด ปัญหาคือสิ่งเหล่านี้คือสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ อาจอยู่ในรูปแบบ software หรือ application หรืออาจอยู่ในรูปแบบของแบรนด์ที่มีมูลค่าเกินกว่าทรัพย์สินที่จับต้องได้ ด้วยวิธีการตีมูลค่าแบบเดิมๆทำให้ธนาคารไทยยังติดในการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจใหม่ๆที่เกิดขึ้นไม่น้อย

ธนาคารเองก็ต้องพร้อมจะตีมูลค่าแบบ 4.0 ตามไปด้วยเศรษฐกิจทั้งระบบถึงจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้

สรุปสุดท้ายแม้หนังสือเล่มนี้ดูหน้าปกจะดูยากๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วผมกลับไม่ได้คิดว่ายากอย่างที่คิด แถมยังได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องเงินมากมาย ตั้งแต่ประวัติศาสตร์เงินไปจนถึงอนาคตที่เงินจะไปในช่วงชีวิตเรา

ยอมรับว่าแม้จะมีบางช่วงที่เกี่ยวกับพวกหุ้น ฟิวเจอร์ หรือตราสารอนุพันธ์อาจทำผมงงๆไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังเป็นอีกเล่มที่ผมชอบและอยากแนะนำให้คนที่สนใจเรื่องนี้ลองหามาอ่านดูครับ

อ่านแล้วเล่า Evolution of Money from Cowries to Crypto Currency
วิวัฒนาการของเงินจากหอยเบี้ยสู่คริปโทเคอเรนซี

ศ.ดร.อาณัติ ลีมัคเดช เขียน
สำนักพิมพ์ Great idea

เล่มที่ 128 ของปี 2018
20181128

อ่านเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆเพิ่มเติม https://www.summaread.net/category/finance/

สนใจสั่งซื้อได้ที่ https://www.se-ed.com/product/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5-Evolution-of-Money-from-Cowries-to-Cryptocurrency.aspx?no=9786162105647

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/