โดย Cynthia A. Montgomery เป็นผู้สอนในหลักสูตรยอดนิยมของ Harvard Business School ที่มีชื่อว่า EOP ย่อมาจาก Entrepreneur, Owner และ President ผู้เรียนส่วนใหญ่เลยเป็นบรรดา CEO ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจ หรือไม่ก็ทายาทที่กำลังจะมารับช่วงต่อ จากบริษัทระดับกลางที่มีรายได้หรือยอดขายต่อปีอยู่ที่หลักสิบล้านดอลลาร์ จนถึงพันล้านดอลลาร์ เราอาจจะคิดว่าคนเหล่านี้ต้องรู้จักและเข้าใจในเรื่องกลยุทธ์ หรือ strategy เป็นอย่างดีอยู่แล้วซิ...
Advertising
เขียนโดย Fons Van Dyck นักโฆษณาและผู้ก่อตั้ง Think BBDO ในกรุงบรัสเซลส์ และได้รับเลือกให้เป็น “สุดยอดนักการตลาด” โดยชมรมการตลาดเบลเยียมด้วย หนังสือเล่มนี้พิมพ์ออกในช่วงปี 2014 น่าจะเป็นช่วงที่โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ platform อื่นๆกำลังบูมสุดขีด บอกถึงแนวทางการปรับตัวของโฆษณาและการตลาดให้กับบรรดานักการตลาดและคนโฆษณาทั้งหลาย แต่ผมว่าเทไปทางนักการตลาดมากกว่านะ ระหว่างที่อ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้เขียนกำลังพยายามโน้มน้าวให้นักการตลาดหรือบรรดาลูกค้าที่เป็นแบรนด์ส่วนใหญ่เชื่อว่า “โฆษณาแบบดั้งเดิม” (ผมขอใช้คำนี้แล้วกันที่หมายถึง TVC, Print และ...
ถ้ามีเพื่อนที่เป็น marketer หรือ advertiser ที่เชี่ยวชาญด้าน traditional แล้วอยากจะศึกษาด้าน digital ผมจะแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ เพราะเนื้อหาเข้าใจง่าย มีให้ครบทุกแง่มุม อาจจะยังไม่ลึกมากแต่ก็จะได้ความเข้าใจในภาพรวมได้ค่อนข้างครบ รวมถึงพวกเคสจริงจาก SME ดีๆในบ้านเราประกอบด้วย ในเล่มประกอบด้วย 4 บทใหญ่ ที่ประกอบด้วย 18 หัวข้อเริ่มตั้งแต่… บทที่ 1 สร้างธุรกิจบนโลกดิจิทัล ไม่ใช่แค่ digital marketing...
หนังสือเล่มนี้ผมอ่านเมื่อปี 2016 จำได้ว่าเป็นหนังสือที่ว่าด้วยวิธีคิดแบบ Dentsu ว่าหนึ่งในเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ระดับโลกเค้ามีหลักการคิดยังไง เท่าที่จำได้ถึงตอนนี้คือไอ้หลักการคิดแบบ ZMOT ของ Google นั้นถูกเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ปี 2010 แล้ว หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยวิธีการคิดแบบ cross communication หรือโมเดล AISAS ที่เข้ามาแทนที่โมเดลการสื่อสารแบบเก่าๆอย่าง AIDA AIDA ย่อมาจาก Aware > Interest > Desire...
เขียนโดย Paco Underhill Paco Underhill เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอนไวโรเซลล์ อิงค์ (Envirosell) บริษัทที่คอยสำรวจวิจัยนักช็อปปิ้งที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก การช็อปปิ้งเป็นหนึ่งในศาสตร์ใหม่ที่เริ่มต้นขึ้นไม่นานมานี้ อาจจะกล่าวว่าเริ่มต้นพร้อมกับร้านค้าห้างร้านก็ว่าได้ การศึกษาพฤติกรรมการช็อปของนาย Paco คือการติดตาม เฝ้าดู จดสังเกตุว่า เมื่อมนุษย์เราไปใช้บริการร้านค้า หรือ ใช้บริการบริษัทต่างๆแม้แต่ธนาคาร คนเรามีพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวในห้างร้านค้านั้นอย่างไร เล่มนี้เจาะลึกถึงผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงโลกของการช็อปอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาให้พัฒนายิ่งขึ้นจากเมื่อเริ่มต้นห้างเมื่อประมาณ 70 ปีก่อน ในอดีตห้างค้าร้านขายนั้นไม่เข้าใจถึงกลุ่มลูกค้าหลักซึ่งก็คือผู้หญิงเอาเสียเลย เพราะอะไร..เพราะบรรดาเจ้าของกิจการและผู้ดำเนินการธุรกิจทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายทั้งสิ้น...
เขียนโดย โอซังจิน หัวหน้าทีมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์บุคลากรของซัมซุง.. ..รวบรวมเคสงานโฆษณาและการตลาดดีๆจากทั่วโลกในรอบหลายปีที่ผ่านมารวมไว้ในหนังสือเล่มเล็กๆ พร้อมอธิบายย่อยให้ง่ายขึ้นจนผมคิดว่าต่อให้คนที่ไม่ได้ทำงานด้านโฆษณาหรือการตลาดก็สามารถอ่านสนุกได้.. ..ทำไมการขายหรือการตลาดยุคใหม่ถึงต้องใช้ประสบการณ์กันล่ะ? ..เพราะในเมื่อเราอยู่ในยุคที่สื่อหลากหลายแล้วไหนยังต้องเจอคู่แข่งอีกมากมายรอบด้าน การจะเข้าไปฝังในหัวหรือสิงอยู่ในใจคนให้จดจำแบรนด์ของเราได้นั้นคงต้องการมากกว่าแค่การป่าวประกาศทั่วไป แต่ต้องเข้าให้ถึงขั้นที่เชิญชวนคนให้มามีประสบการณ์กับสินค้าหรือตัวแบรนด์ เพราะการได้มีส่วนร่วมกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นจะทำให้คนจดจำสิ่งนั้นไปได้อีกนานเท่านั้น และยิ่งถ้าแบรนด์ไหนทำให้ประสบการณ์ครั้งนั้นน่าประทับใจก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้คนที่เข้ามามีส่วนร่วมอยากไปบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองจนคนรอบตัวต้องเบื่อไปข้าง.. ..แล้วการตลาดแบบเน้นประสบการณ์จะสามารถเข้าถึงคนได้มากแค่ไหน? ..อาจจะไม่มากพอแต่ถ้าเรารู้จักถ่ายทอดประสบการณ์นั้นให้กับคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์ตรง แต่ผ่านการมีประสบการณ์ร่วมด้วยการเห็นแล้วจินตนาการออกว่าถ้าเป็นตัวเค้าจะสนุกร่วมด้วยมากแค่ไหน(ภาษาชาวบ้านเรียกออนไลน์วีดีโอ) คนที่ได้เห็นก็จะสามารถรู้สึกร่วมด้วยได้ เพราะมนุษย์เราสามารถเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นด้วยได้เพราะสมองส่วนหน้าของเราที่ทำหน้าที่ให้เราเข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน.. ..แล้วแบรนด์ของคุณล่ะ สร้างประสบการณ์อะไรให้คนจดจำในแง่ดีไว้บ้างแล้วรึยัง? อ่านแล้วเล่า การตลาดยุคใหม่ใช้ประสบการณ์Experience Marketing OH SANG JIN เขียนสำนักพิมพ์ พราว...
เขียนจากประสบการณ์ตรงของ 2 นักโฆษณามากฝีมือระดับโลกอย่าง Barry Wacksman เป็น Global Chief Strategy Officer และ Chris Stutzman อดีต Managing Director จากเอเจนซี่ระดับโลกอย่าง R/GA ที่ปีล่าสุดคว้าสิงโตคานส์มา 18 ตัว หนึ่งในนั้นเป็นสิงโต Grand Prix หนึ่งตัวจากสาขา Media...
ความลับเบื้องหลังจองเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิล และแอปเปิลว่าทำอย่างไรคนถึงชอบจนหยุดใช้ไม่ได้ ผมว่าเป็นหนังสือด้านจิตวิทยาการตลาดอีกเล่มที่น่าสนใจ โดยที่แก่นหลักของเรื่องก็คือการสร้างพฤติกรรมการเสพย์ติดผ่านวงจรการสร้างที่มี 4 ขั้นตอนหลักที่เริ่มด้วย “ตัวกระตุ้น” ที่เป็นการสะกิดให้คนรู้ตัว จากนั้นก็ “ทำให้ง่าย” อะไรที่คนเคยทำได้อยู่แล้วก็ทำให้ง่ายขึ้น หรืออะไรที่คนเคยอยากทำแต่ไม่ได้ทำเพราะความยุ่งยากก็ทำให้ง่ายลง แล้วก็ต่อด้วย “รางวัลที่คาดเดาไม่ได้” แต่รู้ว่าต้องได้อะไรซักอย่างจากการกระทำนั้น เพียงแค่ยังเดาไม่ออกว่าจะเจออะไรบ้าง และสุดท้ายคือ “การลงทุนลงแรง” ไม่ว่าจะเป็นการขอให้คนทำมากขึ้น หรือยอมจ่ายเงินเข้าไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นเหตุผลให้คนยิ่งติดและถอนตัวไม่ขึ้นด้วยตัวเองจนกลายเป็นนิสัยใหม่ของคนขึ้นมา และนี่ก็คือใจความของหมดของหนังสือเล่มนี้ แต่ถ้าจะให้สรุปจบแค่นี้ก็คงไม่สนุก ผมขอเล่าให้ฟังเพิ่มถึงบางช่วงบางตอนที่ผมสนใจเป็นพิเศษแล้วกันนะครับ...
บางคนอาจสงสัยหรือไม่ก็ผมเองนี่แหละที่ตั้งคำถามกับตัวเองตอนหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านว่า “สมัยนี้อะไรๆก็ 4.0 หมดแล้ว จะมัวมาอ่านอะไรที่ช้าไปแล้วทำไม?” ครับ 3.0 อาจเชยกว่า 4.0 จริง แต่สำหรับผมๆคิดว่าต่อให้มี 1.0 หรือ 0.1 ที่เชยตกยุคไปแล้วสุดๆผมก็จะตามอ่านถ้าผมยังไม่รู้ในสิ่งนั้น ผมคิดว่าผมเป็นพวกนักการตลาดแบบมวยวัดนะ ไม่ได้ร่ำเรียนมาแบบชาวบ้านเค้า ปากกัดตีนถีบหาความรู้มาเองตลอก ถ้าถามว่าอ่านจบแล้วได้อะไรบ้างล่ะ ก็ต้องบอกว่าได้ไม่น้อยเลยกับเรื่องที่ยังไม่รู้ จริงๆแล้วผมคิดว่าเล่มนี้น่าจะเป็นเรื่องของ social network หรือการตลาดแบบ social media มากกว่านะถ้าถอดเปลือกเอาแก่นมาคุยกัน...
คำนิยามหน้าเล่มบอกไว้ว่า “คู่มือสามัญประจำตัวสำหรับคนที่ใช้ “ความคิด” ทำงาน ส่งตรงจากนักโฆษณามือหนึ่งของอังกฤษ แล้ว “นักโฆษณามือหนึ่งของอังกฤษ” ที่ว่าผู้นี้เป็นใคร? อ๋อเค้าคือ John Hegarty หนึ่งในนักโฆษณาที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษคนหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้ง Bartle Bogle Hegarty (BBH) บริษัทโฆษณาระดับโลกที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก และมีลูกค้าเป็นบริษัทดังๆ ไม่ว่าจะเป็นลีวายส์ ออดี้ เพลย์สเตชั่น ยูนิลีเวอร์ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บริติชแอร์เวย์...