ตอนแรกที่เลือกอ่านเล่มนี้เพราะเห็นชื่อหนังสือคล้ายกับเล่มที่อ่านจบก่อนหน้ามา Stuff Matter ที่พูดถึงความน่าทึ่งของวัสดุต่างๆ 10 ชนิดที่ทำให้ชีวิตมนุษย์ทั่วโลกนั้นสะดวกสบายขึ้นมหาศาล แต่ในเล่มนี้กลับกลายเป็นคนละขั้วของเล่มนั้นก็ว่าได้ คนละขั้วที่ว่ามันยังไงกันล่ะ ต้องเริ่มที่ภาพยนต์สารคดีเรื่องนึงที่ชื่อเดียวกับหนังสือเล่มนี้ครับ The Story of Stuff เป็นสารคดีเรื่องสั้นที่มีให้ดูเต็มๆในยูทูป พร้อมมีซัพไทยให้เลือกด้วยนะ ว่าด้วยเรื่องราวของข้าวของทั้งหลายของเราที่เราซื้อหามาว่ามีที่มาที่ไปยังไง ขุด ทำ ใช้ ทิ้ง ขุด..คือวงการของการผลิตข้าวของต่างๆรอบตัวเรามากมาย การขุด คือการสกัดเอาทรัพยากรของโลกเรามา ไม่ว่าจะเป็นการขุดเหมืองถลุงแร่ หรือระเบิดภูเขาเพื่อเอาถ่านหิน (ระเบิดภูเขาจริงๆครับ...
สำนักพิมพ์ มติชน
สรุปหนังสือ Animal Spirits หรือ เศรษฐศาสตร์สัญชาตญาณสัตว์เล่มนี้บอกให้รู้ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์เรานั้นไม่ได้เป็นสัตว์ที่มากด้วยเหตุผลอย่างที่คิด และปัญหาเศรษฐกิจใหญ่ๆทั้งหลายก็ล้วนแต่เกิดจากสัญชาตญาณสัตว์ของเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความโลภ หรือแม้แต่การปล่อยให้ภาพลวงตาชี้นำความคิด ที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังพลาดได้ หนังสือเล่มนี้เลยเป็นหนังสือว่าด้วยวิชาความรู้ในแง่เศรษฐศาสตร์ ที่อาจจะมีศัพท์เทคนิควิชาการผสมปนเข้ามาบ้าง อาจอ่านไม่สนุกนักสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ หรือคนที่กำลังศึกษาและสนใจในเรื่องนี้ น่าจะอ่านสนุกและได้แง่คิดดีๆไปก็ไม่น้อยครับ เพราะจริงๆแล้วเศรษฐศาสตร์นั้นไม่ใช่เรื่องของแค่ใครบางกลุ่มที่เป็นนักการเงิน หรือนักเศรษฐศาสตร์เท่านั้น แต่เศรษฐศาสตร์นั้นเป็นเรื่องของคนทุกคนบนโลกที่ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อปากท้อง หรือถ้าพูดให้ดีขึ้นก็คือวิชาที่ว่าด้วยการเลือก การตัดสินใจ เลือกว่าจะใช้ทรัพยากรที่มีไปกับอะไรที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดครับ แล้วแต่ไหนแต่ไรมาบรรดานักวิชากร หรือนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายก็ชอบคิดว่า มนุษย์เรานี้เป็นสัตว์ประเสริฐมากด้วยเหตุผล...
หนังสือเล่มนี้สรุปภาพอนาคตจากสิ่งที่เป็นในวันนี้ บวกกับการคาดการณ์จากความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้เขียน ดร. สันติธาร เสถียรไทย ชายผู้ใช้คำว่า “อิจฉริยะ” ก็น่าจะน้อยไป แต่ขอโทษด้วยเพราะผมไม่สามารถหาคำไหนที่ดีกว่านี้ได้ในตอนนี้ ถ้าใครสนใจใคร่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้จะเกิดอะไรขึ้น ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ และถ้าใครสนใจว่าอนาคตที่ไกลออกไปจะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น รวมถึงจะมีอะไรบ้างที่จะดับสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่หลักธรรมของพุทธ แต่เป็นสัจธรรมของจักรวาล ขนาดดาวฤกษ์ดวงใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ยังดับสูญสลายหายไปเป็นหลุมดำได้ นับประสาอะไรกับเศษเสี้ยวฝุ่นธุลีเล็กๆเช่นมนุษย์เรา ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ ขอผมเล่าให้คุณฟังหน่อยว่า ดร....
เป็นหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มเฉพาะกิจ ที่เอาเรื่องดีๆจาก 19 เล่มแรกของหนุ่มเมืองจันท์มารวมไว้ในเล่มเดียว แม้ทั้ง 19 เล่มแรกผมจะอ่านมาหมดแล้ว แต่เล่มนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนความจำให้สมองได้ทำงานอีกครั้งนึง อย่างเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากตั้งแต่อ่านครั้งแรก จนพอได้อ่านครั้งนี้ก็ทำให้รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ คือเรื่องของนักวิ่งที่ชื่อว่า “จอห์น สตีเฟ่น อัควารี” จอห์น สตีเฟ่น อัควารี เป็นชาวแทนซาเนียที่มาเข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนที่โอลิมปิกแม็กซิโกในปี 1968 เค้าวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายแบบไม่มีใครคาดคิด เพราะมาหลังจากพิธีมอบเหรียญรางวัลเรียบร้อย และผู้คนก็พอกันเดินออกจากสนามกีฬาแล้ว แต่ อัควารี คนนี้กลับเพิ่งวิ่งเข้ามาในสนามด้วยอาการบาดเจ็บเลือดโชกขาข้างขวา จนต้องเอาผ้าพันแผลห้ามเลือดไว้...
อีกหนึ่งหนังสือที่ผมชอบและอยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่าน แม้คุณจะไม่ได้ทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ต้องใช้ไอเดียเป็นประจำ หรือเป็นนักสร้างนวัตกรรมอะไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าล้วนต้องการเหมือนกันก็คือ “เราจะทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวานอย่างไร” หนังสือเล่มนี้มีแนวทางให้คุณอ่านแล้วเอาไปประยุกต์ใช้ตามหน้างานในแต่ละวันครับ เมื่อพูดถึงคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” คำนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่ผมอยากจะบอกความลับให้คุณรู้ว่าไม่ว่าใครก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อได้ ขอแค่เพียงเข้าใจหลักการ อยู่ในสถาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ความคิดสร้างสรรค์ก็บรรเจิดได้ทุกคน เพราะความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เป็นแค่พรสวรรค์ของใครบางคนอย่างที่เราเชื่อกันครับ ผู้เขียน คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร เจ้าของเพจ 8 บรรทัดครึ่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Design Thinking เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างนวัตกรรม หรือเรียกเป็นภาษาฝรั่งเท่ห์ๆว่า...
เพราะเราไม่ได้เห็นโลกตามความจริง แต่เราจะเห็นโลกตามความคิด สถานการณ์เดียวกันคนนึงมองเห็นแต่ปัญหา แต่อีกคนกลับมองเห็นโอกาส ตอนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหลายคนเห็นความล่มสลาย แต่คนอีกไม่น้อยมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ดังนั้นถ้าใครบอกว่าเพราะโลกมันไม่ดี หรือเพราะตอนนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ อยากให้ลองปรับความคิด เปลี่ยนทัศนคติดูซักนิด แล้วคุณจะพบเรื่องดีๆที่ไม่เคยคิดอีกเยอะ หนังสือเล่มนี้อยู่ในชุด ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ เล่มที่ 29 ของ หนุ่มเมืองจันท์ ตั้งแต่โดนลูกน้องเก่าหลอกให้อ่านเล่มนึง จนเสพย์ติดต้องตามเก็บย้อนหลังจนอ่านครบทุกเล่มแล้วครับวันนี้ เนื้อหาในเล่มนี้มีหลายหน้าที่น่าสนใจมาก ปกติเวลาผมเจออะไรน่าสนใจ ผมจะขีดต้นประโยคของช่วงที่หน้าสนใจ และพับมุมล่างของเล่มไว้ เพราะมุมบนผมเอาไว้พับตอนหยุดพักเวลาจะกลับมาอ่านต่อ อย่าง ทฤษฎีความสุขของไอน์สไตน์...
มีคนเปรยว่า “ความฝัน” เป็นเหมือน “ดาวเหนือ” ของนักเดินทาง และถ้าเปรียบ “ดวงดาว” บนท้องฟ้าเป็นดั่ง “ความฝัน” ของเรา ยามค่ำคืนที่อากาศเย็นและสงบ เราจะเห็น “ความฝัน” ของเราชัดเจนบนท้องฟ้า แต่พอกลางวันที่แดดร้อนที่เรามองไม่เห็นดวงดาว เรากลับลืมไปว่าบนฟ้าเดียวกันนั้นยังมีดวงดาวที่เป็นดั่งความฝันเราอยู่ที่เดิมเสมอ เพียงแค่เรามองไม่เห็นชั่วคราว ใช่ว่าจะไม่มีอีกแล้วตลอดไป เหมือนกับเวลาที่เราเจออุปสรรคเข้ามาในชีวิต เรามักลืมความฝันของเราไปเสมือนว่าไม่มีทางเป็นจริง แต่พอปัญหาหายไปทุกอย่างราบรื่น ความฝันนั้นก็กลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง คุณปรีชา เจ้าของแบรนด์แฟชั่น FLYNOW และเจ้าของ...
คือสิ่งเดียวกันแต่ให้ความสำคัญต่างกัน ด้วยเหตุผลที่ต่างไปของแต่ละคน เช่น รถหรู อาจสำคัญดั่งลมหายใจของใครบางคน ที่ตั้งเป้าให้เป็นเหมือนยอดเขาที่จะไปพิชิตให้ได้ กับอีกคน รถหรู คันนั้นอาจเป็นแค่สิ่งที่ถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ได้ ของสิ่งเดียวกัน คนนึงให้ค่าดั่งลมหายใจที่ขาดไม่ได้ แต่อีกคนกลับให้ค่าดั่งอากาศ ที่แค่สูดหายใจพอประมาณแล้วก็ผ่านเลยไป เหมือนบางคนที่มีเป้าหมายในชีวิต คือการได้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ บางคนอีกมีเป้าหมายในชีวิตเป็นบ้านซักหลัง หรือบางคนอาจมีเป้าหมายแค่มีเวลาอยู่กับครอบครัว แต่ละคนมีเป้าหมายแตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายด้วยกันทั้งนั้น ครั้งนึงผมเคยคิดอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง ครั้งนี้งผมเคยคิดอยากมีเงินเดือนมากๆ ครั้งนึงผมเคยคิดอยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว ครั้งนึงผมเคยคิดอยากไปเป็นผู้ให้ได้มากกว่านี้ ครั้งนี้ผมคิดว่าอยากมีเวลาอ่านหนังสือเยอะๆ เป้าหมายไม่เคยนิ่ง...
เป็นการไล่อ่านหนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจย้อนหลังของผมหลังจากที่ตามเก็บมาครบทุกเล่มจากงานหนังสือต้นปี 2561 ที่ผ่านมา แม้จะผ่านมา 22 เล่มแล้วแต่ก็ยังมีเกร็ดความรู้เด็ดๆทั้งในด้านธุรกิจ จนถึงการใช้ชีวิตให้ตามเก็บได้เสมอครับ อย่างเรื่องของ สมชาย เหล่าสายเชื้อ จากเด็กจบ ป.4 สู่ดีลเลอร์โตโยต้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย จนมีสินทรัพย์ร่วม20,000 ล้านบาท สมชายคนนี้มีคติความเชื่อในการใช้ชีวิตว่า “คิดเก่ง” ไม่เท่า “ก้าวก่อน”“ก้าวก่อน” สู้ “ก้าวยาว” ไม่ได้“ก้าวยาว” สู้ “ก้าวเร็ว” ไม่ได้“ก้าวเร็ว” เท่าไหร่ก็ไม่เท่า...
ถ้าอ่านแค่หน้าปกเผินๆทำให้นึกถึงสโลแกนของช้างเมื่อหลายปีก่อนว่า “ชีวิตใช้ซะ” และก็กลายเป็นสโลแกนที่ใช้กันจนชินหูในหนังโฆษณาสมัยนี้ ล่าสุดไปดูหนังที่โรงก็เห็นโฆษณารถยนต์รุ่นหนึ่งที่บอกว่า “ออกไป…ใช้ชีวิต” ฟังจบปุ๊บอยากวิ่งออกจากโรงไม่ดูมันแล้วหนัง แล้วออกไปใช้ชีวิตเลย.. พูดเล่นครับ ดูจนจบนี่แหละ กลับมาที่หนังสือเล่มนี้ของหนุ่มเมืองจันท์ ทำไมถึงบอกว่า “ชีวิตไม่ใช้ไม่ใช่ชีวิต” เพราะหลายเรื่องราวที่เล่าในเล่มพูดให้เรากล้าที่จะออกนอกกรอบ หรือกล้าที่จะทำตามหัวใจไม่ใช่แค่สมอง แต่ก็ต้องอิ่มท้องด้วยนะครับ เช่น นิ้วกลม บอกให้เด็กคนนึงออกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศคนเดียวบ้าง เพื่อแก้โรคไม่มั่นใจในตัวเอง น้องคนนี้เดินเข้ามาปรึกษา เอ๋ นิ้วกลม ว่าทำยังไงดีตัวเองเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย เอ๋ นิ้วกลม...