โลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียว ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ 32 หนุ่ม เมืองจันท์

โลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียว ในฐานะแฟนหนังสือตัวยงของคุณหนุ่ม เมืองจันท์ ดีใจทุกครั้งที่ถึงเทศกาลงานหนังสือต้นปีและท้ายปี เพราะเป็นที่รู้ว่าหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มใหม่จะต้องวางแผง แต่เล่มที่ 32 ล่าสุดเล่มนี้ผมไม่ได้จากงานหนังสือที่กำลังจัดอยู่ที่เมืองทอง แต่ได้มาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งในมติชนส่งมาให้ด้วยความเมตตา เอาเป็นว่าผมขอรีวิวหนังสือโลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียว ของพี่ตุ้ม หนุ่ม เมืองจันท์ แบบเบาๆ แทนคำขอบคุณแล้วกันครับ โลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียว เมื่อดูจากดีไซน์หน้าปกจะเป็นการล้อไปกับกระดาษคำตอบเวลาสอบสมัยเรียนหนังสือ ซึ่งจะเป็นที่รู้กันว่ากติกาการสอบนั้นเราจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงแค่ข้อเดียว ถ้าเมื่อไหร่เราเผลอลังเลใจถูกใจสองข้อพอๆ กัน เราก็ต้องตัดใจเลือกคำตอบเดียวที่ดีที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นก็จะถือว่าผิดกติกาไม่ได้คะแนนทันที แต่ในชีวิตจริงของมนุษย์เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะหลายครั้งคำถามที่เราเจอหรือปัญหาในชีวิตนั้นมีมากมายหลายคำตอบ คำตอบที่ดีที่สุดในวันนี้อาจจะกลายเป็นแย่ที่สุดในวันพรุ่งนี้ เพราะในชีวิตนั้นมีหลายตัวแปรมากที่จะคอยเปลี่ยนคำตอบไปเรื่อยๆ เลยทำให้ในชีวิตจริงไม่มีคำตอบเดียวเหมือนการสอบในโรงเรียนเสมอไป ครั้งหนึ่งผมเคยเจอเรื่องคล้ายกันในชีวิตกับชื่อหนังสือเล่มนี้ ตอนที่ได้งานพร้อมกันจากบริษัทที่ดีหลายๆ ที่ก็พบว่าไม่ได้มีคำตอบเดียวที่ดีที่สุดเสมอไป หลายครั้งเราก็คิดว่าเราเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด…

ผู้หญิงเก่งธุรกิจญี่ปุ่น พิชชารัศมิ์

สรุปหนังสือผู้หญิงเก่งธุรกิจญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวของเส้นทางชีวิตของ 14 ผู้หญิงแกร่งแดนปลาดิบในหลากหลายสาขาอาชีพ ที่บุกเบิก สร้างสรรค์ พัฒนาต่อยอด ทำให้ความฝันกลายเป็นความสุขของชีวิต อ่านแล้วคุณจะทึ่งกับพลังและความสามารถของพวกเธอเหลือเกิน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าที่ผมสนใจหนังสือเล่มนี้ก่อนจะเลือกอ่านเพราะเดิมทีด้วยคำว่าญี่ปุ่นจากที่เคยรู้มาคือมีการกีดกันเรื่องเพศสภาพค่อนข้างสูงถึงสูงมาก ดังนั้นการที่ผู้หญิงจะขึ้นมาเป็นใหญ่และประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน หรือถ้าพูดตรงๆ ก็คือว่าเกิดเป็นผู้ชายในญี่ปุ่นน่าจะง่ายกว่ามากด้วยซ้ำ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงทำให้ผมสนใจว่ากว่าพวกเธอจะประสบความสำเร็จได้นั้นเส้นทางชีวิตของพวกเธอต้องผ่านอะไรมาบ้างครับ จากผู้หญิง 14 คนที่ถือว่าสุดยอดเรื่องความเก่งและแกร่งแล้ว ผมขอหยิบ 3 คนในเล่มมาเล่าให้ฟังสั้นๆ ในฐานะที่มีความประทับใจส่วนตัวเป็นพิเศษแล้วกันครับ ฮิโรโกะ คนโด ผู้ที่สร้างโรงอาหารสำหรับเด็กยากจนขึ้นมาจนกระจายออกไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ต้องบอกว่าในญี่ปุ่นเองก็ยังมีคนยากจนและคนที่ลำบากอยู่ไม่น้อย แต่ที่ลำบากกว่าคนอื่นมากก็คือกลุ่มเด็กๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะถูกพ่อแม่ทอดทิ้งหรือด้วยสาเหตุใดก็ตาม ฮิโรโกะ คนโด เลยสร้างโรงทานที่เป็นโรงอาหารสำหรับเด็กขึ้นมาเป็นคนแรกๆ…

ปล่อยใจคิดไม่ติดกรอบ ธุรกิจพอดีคำ ลำดับที่ 4

หนังสือธุรกิจพอดีคำ ลำดับที่ 4 หรือชื่อเล่มคือปล่อยใจคิดไม่ติดกรอบเล่มนี้ทำให้ผมนึกถึงคำหนึ่งที่คนแวดวงโฆษณาและการตลาดชอบใช้กัน นั่นก็คือคำว่า Storytelling Storytelling น่าจะเป็นคำที่เป็นกระแสในบ้านเราเมื่อสัก 4 ปีก่อน ซึ่งหลักใหญ่ใจความก็คือถ่ายเล่าเรื่องที่แบรนด์อยากพูดนักการตลาดอยากบอกออกไปอย่างไรให้คนบนออนไลน์ไม่กด Skip ad หรือเลื่อนฟีดโฆษณาของแบรนด์ให้ผ่านไปอย่างรวดเร็วท่ามกลาง Content ที่มีให้เสพย์มากมายไม่รู้จบ เช่นเดียวกันระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ผมคิดว่า หนังสือ ปล่อยใจคิดไม่ติดกรอบ หรือ ธุรกิจพอดีคำ ลำดับที่ 4 เล่มนี้น่าจะได้รับนิยามใหม่ว่า Businesstelling หรือเป็นหนังสือที่สามารถเล่าเรื่องธุรกิจที่คนนอกเคยคิดว่าน่าเบื่อและเข้าใจยาก ให้กลายเป็นอ่านสนุกและน่าติดตามได้ในแบบที่วางไม่ลงเลยจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จักคุณต้อง กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร…

โลกสามศูนย์ A WORLD OF THREE ZEROS

สรุปหนังสือ โลกสามศูนย์ A World of Three Zeros ที่เขียนโดย Muhammad Yunus เล่มนี้เป็นหนังสืออีกเล่มสำหรับคนที่เคยอ่าน สร้างโลกไร้จน ไม่ควรพลาด เพราะหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเข้าใจถึงสถานการณ์ล่าสุดของธุรกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise จากแนวคิดของ Yunus เมื่อหลายปีก่อนว่าในวันนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว และเป้าหมายต่อไปของธุรกิจเพื่อสังคมคืออะไร เกี่ยวอะไรกับโลกสามศูนย์ แล้วศูนย์แต่ละตัวหมายถึงอะไร คำตอบนั้นเรียบง่ายแต่ในขณะเดียวกันก็ลึกซึ้งมากครับ First Zero ศูนย์ที่หนึ่ง ความยากจนเป็นศูนย์ ความยากจนเป็นศูนย์หมายความว่าแท้จริงแล้วโลกเราไม่จำเป็นต้องมีใครตกอยู่ในตำแหน่งคนจนในทุกสังคมบนโลกเลย เพราะในความเป็นจริงแล้วโลกเรามีเงินทองและทรัพยากรมากมายมหาศาล เพียงแต่ปัญหาหลักที่ทำให้โลกเรายังคงมีคนจนอยู่ก็คือการกระจายทรัพยากรที่ไม่ดีพอ…

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี 6 ศาสตร์แห่งความหดหู่และสิ้นหวัง

สรุปหนังสือโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เล่มที่ 6 ที่มีชื่อประจำเล่มว่า ศาสตร์แห่งความหดหู่และสิ้นหวังเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือใหม่อะไร แต่เป็นหนังสือที่ผมตามหามานานกว่า 6 ปีแล้วครับ ต้องบอกว่าชุดหนังสือโลกนี้ไม่มีอะไรฟรีนี่แหละที่ทำให้ผมคนที่เคยไม่คิดจะอ่านหนังสือได้จบเล่ม กลายเป็นหนอนหนังสือขึ้นมา เปลี่ยนจากกองหนังสือเป็นชั้นหนังสือ และทำให้ผมพัฒนาจากชั้นหนังสือจนมีห้องหนังสือของตัวเองได้ทุกวันนี้ ในช่วงที่ผมได้อ่านหนังสือของอาจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นครั้งแรกของสำนักพิมพ์ Openbooks ที่เป็นชุด 10 เล่ม เชื่อมั้ยครับว่าหนังสือของอาจารย์ที่ผมได้อ่านในตอนนั้นทำให้ผมถึงกับวางไม่ลงเลยจริงๆ จากนั้นผมก็เลยปวารณาตัวเองเป็นแฟนตัวยงของอาจารย์วรากรณ์แกโดยไม่ได้ขออนุญาต และนั่นก็ทำให้ผมพยายามตามหาหนังสือที่อาจารย์เขียนมาอ่านเป็นอาหารสมองให้มากที่สุดครับ จากหนังสือชุด 10 เล่มของสำนักพิมพ์ Openbooks สู่การเปิดโลกว่าอาจารย์แกก็เขียนให้กับสำนักพิมพ์มติชนด้วย และนั่นก็ทำให้ผมตามหาหนังสือชุดโลกนี้ไม่มีอะไรฟรีของแก และผมก็สามารถหาได้ทุกเล่มยกเว้นเล่มที่ 6…

แค่เริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่พ่ายแพ้ หนุ่มเมืองจันท์

ในฐานะที่ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของคุณหนุ่มเมืองจันท์มากว่า 30 เล่มแล้ว บอกตรงๆว่าผมดีใจมากที่ผมได้เห็นหนังสือเล่มใหม่ของคุณหนุ่มเมืองจันท์ในงานหนังสือเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา บอกตรงๆ อีกครั้งว่าเห็นหน้าปกทีแรกก็มองผ่าน เพราะคิดว่าไม่น่าสนใจ เดาว่าน่าจะเป็นหนังสือวิ่งที่ซิ่งออกมาตามกระแสการวิ่งอีกเล่มหนึ่ง แต่มีคนเอามาสะกิดให้ดูถึงรู้ว่านี่มันฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มใหม่ของคุณหนุ่มเมืองจันท์นี่หว่า! และผมก็ไม่พลาดที่จะคว้าหนังสือเล่มนี้ติดมือมา แค่เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่พ่ายแพ้ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ เล่มที่ 31 มาสรุปให้ฟังกันครับ แค่เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่พ่ายแพ้เล่มนี้ พูดถึงหลายคนดังระดับโลกที่เคยไม่ชนะ แต่ก็ยังพยายามสู้ต่อจนสามารถกลับมาชนะได้อีกครั้ง หรือถ้าไม่ชนะเกมเดิม ก็อาจเป็นการเล่นเกมใหม่ หรือแม้แต่สร้างเกมใหม่ของตัวเองขึ้นมาจนทำให้กลายเป็นความได้เปรียบที่คนอื่นต้องมาอยู่ภายใต้กติกาของเกมที่ตัวเองสร้างขึ้นครับ อย่างไทเกอร์ วู้ดส์ ที่จากร่างกายทรุดโทรมอย่างหนักแต่ก็ยังสามารถดิ้นรนจนกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง และการกลับมาฝึกซ้อมจนสามารถกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งของไทเกอร์ วู้ดส์ ก็ไม่ได้มาจากความต้องการกลับมามีชื่อเสียงหรือเงินทอง แต่เกิดจากความต้องการที่จะคว้าแชมป์ให้ลูกเห็นเท่านั้นเอง…

The Story of Stuff เรื่องเล่าของข้าวของ

ตอนแรกที่เลือกอ่านเล่มนี้เพราะเห็นชื่อหนังสือคล้ายกับเล่มที่อ่านจบก่อนหน้ามา Stuff Matter ที่พูดถึงความน่าทึ่งของวัสดุต่างๆ 10 ชนิดที่ทำให้ชีวิตมนุษย์ทั่วโลกนั้นสะดวกสบายขึ้นมหาศาล แต่ในเล่มนี้กลับกลายเป็นคนละขั้วของเล่มนั้นก็ว่าได้ คนละขั้วที่ว่ามันยังไงกันล่ะ ต้องเริ่มที่ภาพยนต์สารคดีเรื่องนึงที่ชื่อเดียวกับหนังสือเล่มนี้ครับ The Story of Stuff เป็นสารคดีเรื่องสั้นที่มีให้ดูเต็มๆในยูทูป พร้อมมีซัพไทยให้เลือกด้วยนะ ว่าด้วยเรื่องราวของข้าวของทั้งหลายของเราที่เราซื้อหามาว่ามีที่มาที่ไปยังไง ขุด ทำ ใช้ ทิ้ง ขุด..คือวงการของการผลิตข้าวของต่างๆรอบตัวเรามากมาย การขุด คือการสกัดเอาทรัพยากรของโลกเรามา ไม่ว่าจะเป็นการขุดเหมืองถลุงแร่ หรือระเบิดภูเขาเพื่อเอาถ่านหิน (ระเบิดภูเขาจริงๆครับ ไม่ใช่หนังอาฉลอง) ตัดต้นไม้เพื่อเอาไปทำกระดาษ และยังมีอีกสารพัดวิธีที่มนุษย์จะคิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการกินและใช้ของเราทั้งหมด ทำ..คือการแปรเปลี่ยนวัตถุดิบที่ขุดสกัดขึ้นมากลายเป็นสินค้าที่เราต้องการ…

Animal Spirits เศรษฐศาสตร์สัญชาตญาณสัตว์

สรุปหนังสือ Animal Spirits หรือ เศรษฐศาสตร์สัญชาตญาณสัตว์เล่มนี้บอกให้รู้ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์เรานั้นไม่ได้เป็นสัตว์ที่มากด้วยเหตุผลอย่างที่คิด และปัญหาเศรษฐกิจใหญ่ๆทั้งหลายก็ล้วนแต่เกิดจากสัญชาตญาณสัตว์ของเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความโลภ หรือแม้แต่การปล่อยให้ภาพลวงตาชี้นำความคิด ที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังพลาดได้ หนังสือเล่มนี้เลยเป็นหนังสือว่าด้วยวิชาความรู้ในแง่เศรษฐศาสตร์ ที่อาจจะมีศัพท์เทคนิควิชาการผสมปนเข้ามาบ้าง อาจอ่านไม่สนุกนักสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ หรือคนที่กำลังศึกษาและสนใจในเรื่องนี้ น่าจะอ่านสนุกและได้แง่คิดดีๆไปก็ไม่น้อยครับ เพราะจริงๆแล้วเศรษฐศาสตร์นั้นไม่ใช่เรื่องของแค่ใครบางกลุ่มที่เป็นนักการเงิน หรือนักเศรษฐศาสตร์เท่านั้น แต่เศรษฐศาสตร์นั้นเป็นเรื่องของคนทุกคนบนโลกที่ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อปากท้อง หรือถ้าพูดให้ดีขึ้นก็คือวิชาที่ว่าด้วยการเลือก การตัดสินใจ เลือกว่าจะใช้ทรัพยากรที่มีไปกับอะไรที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดครับ แล้วแต่ไหนแต่ไรมาบรรดานักวิชากร หรือนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายก็ชอบคิดว่า มนุษย์เรานี้เป็นสัตว์ประเสริฐมากด้วยเหตุผล นักวิชาการทั้งหลายมักเชื่อว่าทุกการตัดสินใจของมนุษย์เรานั้นล้วนผ่านการคิดและตรึกตรองมานักต่อนักครับ แต่ในชีวิตจริงแล้วนั้นช่างเป็นเหมือนหนังคนละม้วน เพราะมนุษย์เราล้วนใช้อารมณ์เป็นตัวนำ และใช้เหตุผลเข้ามาสนับสนุนอารมณ์นั้นเป็นประจำครับ…

Futuration เปลี่ยนปัจจุบันทันอนาคต

หนังสือเล่มนี้สรุปภาพอนาคตจากสิ่งที่เป็นในวันนี้ บวกกับการคาดการณ์จากความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่หลากหลายของผู้เขียน ดร. สันติธาร เสถียรไทย ชายผู้ใช้คำว่า “อิจฉริยะ” ก็น่าจะน้อยไป แต่ขอโทษด้วยเพราะผมไม่สามารถหาคำไหนที่ดีกว่านี้ได้ในตอนนี้ ถ้าใครสนใจใคร่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้จะเกิดอะไรขึ้น ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ และถ้าใครสนใจว่าอนาคตที่ไกลออกไปจะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น รวมถึงจะมีอะไรบ้างที่จะดับสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน นี่ไม่ใช่แค่หลักธรรมของพุทธ แต่เป็นสัจธรรมของจักรวาล ขนาดดาวฤกษ์ดวงใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ยังดับสูญสลายหายไปเป็นหลุมดำได้ นับประสาอะไรกับเศษเสี้ยวฝุ่นธุลีเล็กๆเช่นมนุษย์เรา ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ ขอผมเล่าให้คุณฟังหน่อยว่า ดร. สันติธาร เสถียรไทย คนนี้เป็นใคร ทำไมเค้าถึงคาดการณ์อนาคตได้น่าสนใจขนาดนั้นครับ…

ยังหายใจต้องไม่แพ้

เป็นหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มเฉพาะกิจ ที่เอาเรื่องดีๆจาก 19 เล่มแรกของหนุ่มเมืองจันท์มารวมไว้ในเล่มเดียว แม้ทั้ง 19 เล่มแรกผมจะอ่านมาหมดแล้ว แต่เล่มนี้ก็เหมือนเป็นการเตือนความจำให้สมองได้ทำงานอีกครั้งนึง อย่างเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากตั้งแต่อ่านครั้งแรก จนพอได้อ่านครั้งนี้ก็ทำให้รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ คือเรื่องของนักวิ่งที่ชื่อว่า “จอห์น สตีเฟ่น อัควารี” จอห์น สตีเฟ่น อัควารี เป็นชาวแทนซาเนียที่มาเข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนที่โอลิมปิกแม็กซิโกในปี 1968 เค้าวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายแบบไม่มีใครคาดคิด เพราะมาหลังจากพิธีมอบเหรียญรางวัลเรียบร้อย และผู้คนก็พอกันเดินออกจากสนามกีฬาแล้ว แต่ อัควารี คนนี้กลับเพิ่งวิ่งเข้ามาในสนามด้วยอาการบาดเจ็บเลือดโชกขาข้างขวา จนต้องเอาผ้าพันแผลห้ามเลือดไว้ เค้าวิ่งด้วยความเร็วที่ช้ากว่าเดินของคนปกติเสียอีก แต่ อัควารี คนนี้ก้ยังไม่หยุดวิ่ง…