จากภาพหน้าปกก็พอเดาได้ว่าจากหนอนตัวอ้วนกลมที่ได้แต่กระดื๊บ กระดื๊บ ทีละนิด กำลังจะเปลี่ยนผ่านกลายเป็นผีเสื้อปีกใหญ่ที่จะโบยบินออกไปได้ไกลเกินกว่าที่ตัวหนอนจะจิตนาการได้ แต่เจ้าหนอนผีเสื้อนั้นในวันที่มันยังเป็นหนอนมันคงไม่คิดว่าชีวิตมันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปกว่าที่เป็นอยู่

เปรียบกับชีวิตคนเราก็เหมือนกัน เรามักจะคิดว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นคงทนถาวร แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีการเปลี่ยนแปลงข้างหน้ารออยู่อีกมากมาย แม้บางเรื่องจะไม่เป็นที่ต้องการ แต่ก็เหมือนกับชีวิตที่มีทั้งสองด้านสลับกันเสมอ เหมือนคำโบราณท่านว่า “ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน” ไม่มีใครบนโลกที่จะเจอชั่วสิบสี่ทีไม่มีดีซักหนเลยหรอกครับ

คุณหนุ่มเมืองจันท์ และหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจเล่มนี้รวมเรื่องราวเรื่องเล่าจากนักธุรกิจ นักคิด นักธุรกิจของเมืองไทยมากมาย เกี่ยวกับเรื่องราวการเกิดวิกฤตทางธุรกิจต่างๆของแต่ละแบรนด์ ซึ่งล้วนแต่เป็นแบรนด์ดังๆทั้งนั้น

ทั้งออฟฟิศเมทที่จากจะเจ๊งกลายมาเป็นธุรกิจหมื่นล้านได้ยังไง

หรือไทยแอร์เอเซียจากที่เคยถูกแขวนไว้กับเทมาเซกจนเป็นได้อย่างทุกวันนี้

หรือธุรกิจที่พักโฮสเทลเล็กๆอย่างสุเนต์ตา เปลี่ยนจากเจ๊งให้กลายเป็นเจ๋งจนโตแล้วโตอีกได้ยังไง

ยังมีอีกหลายเรื่องหลายเคสที่เล่าไม่หมด เพราะเดี๋ยวคุณหนุ่มเมืองจันท์จะตามมาด่าเอาว่าสรุปจนไม่เหลือให้อ่าน แต่สิ่งสำคัญคือ “ความคิด” ของคนเหล่านี้

ที่ผ่านวิกฤตเหล่านั้นจนมีเรื่องมาเล่าให้เราฟังในวันนี้ เหมือนที่เค้าว่ากันว่า คนธรรมดาเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง แต่คนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น

ผมเลยคิดว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่นนั้นเหมือนทางลัดของชีวิตอีกทางหนึ่ง

อ่านจบแล้วย้อนให้กลับมาคิดถึงชีวิตตัวเอง ที่ผ่านการสิ้นสุดมาก็ไม่มากไม่น้อย และก็เจอกับการเริ่มต้นใหม่อยู่เป็นประจำ ทั้งในชีวิตส่วนตัว ทั้งในเรื่องครอบครัว และทั้งเรื่องการงาน

แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับหนึ่งก็ทำให้เราเรียนรู้ได้ว่าทุกอย่างคือการเรียนรู้ แม้จะเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดและไม่ต้องการ แต่ก็จงหาประโยชน์จากเรื่องนั้นให้ได้มากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นในวันที่แม่ผมเสีย ในวันที่ผมตกงาน ในวันที่ผมถูกกดดันอย่างมาก ในวันที่ผมมองไม่เห็นทางออก หรือแม้แต่ในวันที่ผมไม่อยากจะอยู่เห็นวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

แต่ทุกวันนั้นก็ทำให้ผมมีวันนี้ วันที่ผมเริ่มโตพอที่จะรู้ว่าคำว่า “ชีวิตคือความไม่แน่นอน” นั้นเป็นอย่างไร

ชีวิตคือความไม่แน่นอนนั้น ไม่ได้หมายถึงแต่เรื่องร้ายๆอย่างที่เราคิดกัน แต่หมายถึงเรื่องดีๆที่เราไม่คาดคิดด้วย

ผมก็ไม่คาดคิดว่าจากเด็กติดเกมส์คนนึงที่ถูกตราหน้าจากคนไกล้ตัวว่าไม่มีอนาคตในวันนั้น จะเอาตัวรอดได้มาจนถึงทุกวันนี้

ดังนั้นในวันนี้ใครคิดว่าชีวิตตัวเองกำลังแย่ กำลังตกต่ำ หรือไม่สมหวังอย่างที่ฝันไว้ ก็ให้ลองย้อนกลับไปคิดถึงตัวเองเมื่อ 5 ปีก่อนดูซิว่า ตัวคุณเองเมื่อ 5 ปีก่อนนั้น เคยคิดมั้ยว่าจะพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้

พอคิดแบบนี้มันทำให้เห็นอย่างที่ไม่เคยเห็น แม้ชีวิตจะพาเรื่องร้ายๆเข้ามา แต่ก็อย่าลืมว่ายังมีเรื่องดีๆกำลังยืนต่อคิวรอเคาะประตูอยู่ในวันถัดไป

ขอให้ขอบคุณกับการสิ้นสุด และขอให้สนุกกับการเริ่มต้นใหม่ครับ

อ่านเมื่อปี 2017

By Nattapon Muangtum

จากนักอ่านที่เริ่มอยากหัดเขียน จากการที่ต้องอ่านเพราะความจำเป็น กลายเป็นอ่านเพราะหลงไหล, สวัสดีครับผมชื่อหนุ่ย ผมทำงานด้าน Digital and Data Marketing ผมยังมีเพจการตลาดอีกเพจที่อยากฝากให้ลองอ่านดูนะครับ https://www.facebook.com/everydaymarketing.co/